เรื่องยาเสพติดของเมืองไทย ถ้าพูดให้เห็นภาพแบบนักเลงโบราณก็ต้องพูดว่า
“เมืองไทยวันนี้ ถ่มน้ำลายขึ้นไปบนฟ้า ถ้าไม่ตกลงมาโดนหัวคนติดยาสักคนก็ให้มันรู้ไป !!!”
ใครที่กำลังใช้ชีวิต หรือเคยใช้ชีวิต อยู่ในชนบท ในหัวเมืองต่างจังหวัด ย่อมทราบความจริงข้อนี้ดี
ไม่ต้องพูดถึงในชุมชนแออัดของตัวเมืองใหญ่ และในกรุงเทพมหานคร
ซึ่งหมายความว่า เมืองไทยทุกวันนี้ ยาเสพติดได้แพร่ระบาดไปทุกหย่อมหญ้าแล้ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เยาวชนและคนทำงาน เหยื่อและผู้เคราะห์ร้ายจากผู้เสพยาเกิดขึ้นทุกวัน เพียงแต่ไม่เป็นข่าว
เหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม ที่หนองบัวลำภู ที่เป็นข่าวสะเทือนใจไปทั่วประเทศและทั่วโลก เพราะเหยื่อเป็นหนูน้อยไร้เดียงสากว่ายี่สิบคนที่ถูกฆาตกรติดยากระทำอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์มนาจากนั้นรุ่งขึ้นอีกวัน ก็มีข่าวคล้ายคลึงกันเกิดขึ้นที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และที่อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ซึ่งสองรายหลังที่กระทำการไม่สำเร็จนี้ คนร้ายที่คลุ้มคลั่งและก่อเหตุทั้งสองราย ล้วนปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นผลพวงมาจากการเสพยาเสพติด
ที่จ่าหัวไว้ข้างบนว่า “ปัญหายาเสพติด แก้ง่ายนิดเดียว” มิได้หวังจะใช้โศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภูมาโจมตีใคร ทั้งมิได้อวดรู้ทำเป็นกูรูคอยสั่งสอนคนที่เขารู้กว่า เพราะโดยความจริงแล้วมีคนอื่นโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงรู้ดีและรู้วิธีแก้กว่าผู้เขียนมาก สิ่งที่ผู้เขียนอยากสื่อคือ ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่เรื่องหนักหนา ถ้ากล้าลงมือแก้
ถ้าไม่เชื่อ ลองอ่านตรงนี้ดู
1. จังหวัดไหน ท้องที่ไหน มียาเสพติด ? เครือข่ายระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ เป็นใคร อยู่ที่ไหน ? เจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจรัฐไม่รู้ เป็นไปได้หรือ ? ปัญหามีเพียงว่า
คนดี ๆ ที่มีอำนาจในมือ จะกล้าหรือไม่กล้าจัดการ ? จะอุทิศตนเพื่อชาติบ้านเมือง หรือจะประคองตัวอยู่ในตำแหน่งไปวัน ๆ ?
2. มาตรการปราบปรามผู้ผลิตและผู้ค้ายาเสพติดเด็ดขาดจริงจังแค่ไหน ? ยังอยากโลกสวย ไม่กล้าวิสามัญคนเลว เพราะกลัวกระแสของนักสิทธิมนุษยโจรอยู่หรือเปล่า ?
3. มาตรการทางกฎหมายยังคงชราภาพ สารภาพลดครึ่งราคาอยู่ใช่ไหม ? การกันผู้ต้องหาให้ถือเป็นผู้ป่วยตามปริมาณการครอบครองยาเสพติดที่กำหนดไว้ในกฎหมายปัจจุบัน เหมาะสมเพียงไร ? กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนสามารถควบคุมการครอบครองอาวุธปืนได้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมหรือไม่ ?
4. มาตรการทางทัณฑสถาน มีประสิทธิภาพเพียงพอ สามารถช่วยฝ่ายปราบปรามตัดวงจรผู้ค้ายา หรือแค่ให้ผู้ค้ายาไปหลบพัก ทำมาหากิน และออกมาค้ายาต่อ ?
5. มาตรการทางสังคม แต่ละชุมชนมีความตระหนัก ตื่นตัว และร่วมแรงร่วมใจกันให้การศึกษาและแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชนอย่างจริงจังหรือไม่ ? ภาคประชาชน รวมทั้งพวกเจ้าสัวทั้งหลายในปัจจุบันเคยคิดแทนคุณแผ่นดิน เป็นตัวตั้งตัวตีจัดทำโครงการรณรงค์ให้บ้านเมืองปลอดยาเสพติดอย่างจริงจัง เหมือนที่คุณหญิงชดช้อย โสภณพนิช เคยนำในการจัดทำโครงการ “ช่วยกันรักษาเมืองไทยให้สะอาด” หรือที่รู้จักกันในนามโครงการ “ตาวิเศษ” เมื่อปี 2527 ไหม ?
แค่ 5 ข้อนี้แหละครับ ไม่มีอะไรซับซ้อน ขอเพียงท่านอ่าน พิจารณา และกล้าลงมือทำเท่านั้น ปัญหายาเสพติดของเมืองไทย ก็จะแก้ได้ง่ายนิดเดียว
ไม่เชื่อก็ลองทำดู !!!
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี