ร้านสะท้านใจแห่งเมืองกาญจน์

พนมทวนชวนใจให้ชื่นชม ทวนพนมคมขลังครั้งศึกสมัย

พนมมือถือทวนขบวนชัย    ทวนดินน้ำลมไฟทวนใจตน

ทวนหัวใจมิให้ไหลไปทางต่ำ    กระแสธรรมทวนสู่อกุศล

พนมทวนพนมธรรมน้อมนำคน    เติมคุณค่าเข้มข้นคนบ้านทวน

(คำขวัญประจำอำเภอพนมทวน)

อำเภอพนมทวนเป็นอำเภอเก่าแก่ของจังหวัด เชื่อกันว่าตำบลตระพังตรุเป็นที่ตั้งเจดีย์ยุทธหัตถี ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงสร้างขึ้นหลังจากพระองค์ทรงกระทำยุทธหัตถีชนะสมเด็จพระมหาอุปราชา กษัตริย์แห่งพม่า ภายในมีอาคารนิทรรศการสมเด็จพระนเรศวร ซึ่งจัดแสดงประวัติและแผนที่ ที่เกี่ยวกับการรบในครั้งนั้นอันเป็นสถานที่ตั้ง

สภาพทั่วๆ ไปของอำเภอนี้โดยมากประชาชนจะประกอบอาชีพการเกษตร ความเป็นอยู่ยังคงความเป็นสังคมแบบชนบทแบบดั้งเดิม รักษาวิถีอาหารการกินอยู่สืบทอดตามบรรพบุรุษไม่เสื่อมคลาย

อำเภอนี้ยังมีกวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านหนึ่งคือ “คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์” ที่ยังความภาคภูมิใจของแวดวงวรรณกรรม เป็นศักดิ์เป็นศรีของอำเภอพนมทวนนี้

ร้านรวงสะอาดโอ่โถง

กบนาทอด

กบนาตัวใหญ่ทอดทั้งหนังได้กรอบกรุบยิ่งกว่าข้าวเกรียบ ขนาดขากบใหญ่น้องๆ น่องไก่กระทง

ไก่บ้านผัดกะเพรา

จากไก่ที่ปล่อยหากินเองให้คุ้ยเขี่ยแมลงตามลานบ้าน บางทีก็โปรยข้าวสุกหรือข้าวตกให้เป็นของว่าง โดยมากจะใช้ไก่สาวไม่ไช้ไก่แก่เพราะเนื้อเหนียว ทีเด็ดทีขาดอยู่ที่เครื่องพริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็ก พริกกระเหรี่ยงสด โปรยกะเพราป่าใบเล็กเป็นเคล็ดความหอมอันหายากในเมืองกรุง

ต้มโคล้งปลากดคัง

จากเขื่อนใหญ่ 2 เขื่อน ที่กั้นแม่น้ำแควใหญ่และแควน้อย แหล่งเพาะพันธุ์ปลากดคังตัวใหญ่อันชุกชุมยากที่ลุ่มน้ำอื่นจะเสมอเหมือน เนื้อปลาหั่นติดหนังขนาดกินไม่หมดในคำเดียว เป็นปลาเนื้อละเอียดไม่มีก้างยิบย่อย กินพร้อมหนังที่ติดมาจนรู้สึกรัญจวนลิ้น  

ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน

ปลาเนื้ออ่อนก็เช่นกัน ความละเอียดละไมของเนื้อปลานั้นจะปรุงอะไรก็เข้าท่าเข้าทางทั้งสิ้น ตัวที่ขนาดย่อมลงมาหน่อยชาวบ้านจะจับหนีบไม้เรียงแถวปิ้งกึ่งรมควันหอมฉลุย จะทำยำปลากรอบ ต้มยำหรือต้มโคล้ง ล้วนรสหอมกลิ่นควันชวนน้ำลายสอ ปัจจุบันเราได้แต่อาศัยจากชาวเขมรที่โตนเลสาบปิ้งส่งมาขายบ้านเราพอประทังให้หายอยาก

หมูป่าผัดเผ็ด

หมูป่าปัจจุบันไม่ใช่สัตว์ป่าสงวนอีกต่อไปแล้ว กลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อกินเนื้อหนังเป็นอาหาร บ้างอาจจะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้านของบางคนก็ได้ โดยมีการทำเป็นฟาร์มหมูป่า ชำแหละเนื้อติดหนังมีจำหน่ายตามตู้เย็นของซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่ๆ เมนูจากหมูป่าส่วนมากถ้าไม่ผัดเผ็ดก็ทำแกงป่า บ่อยครั้งเจอหมูแก่หรือพ่อครัวที่ไม่รู้วิธีทำ ก็จะได้ผัดหรือแกงที่เนื้อหมูเหนียวแข็งเหมือนยางรถ

ยอมรับว่ากินผัดเผ็ดหมูป่าเจ้านี้แล้วถูกใจ เผ็ดอร่อยเบิกบานจนน้ำตาไหล ถึงกับต้องสั่งห่อไปกินต่อที่บ้าน

แกงป่าไก่บ้าน

ขอลอกเรื่องแกงป่าของ คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีเอกชาวพนมทวน กล่าวไว้ว่าแกงป่าเมืองกาญจน์จะเป็น “เอกลักษณ์ เอกรส” ที่เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของเมืองกาญจน์ ที่ใครๆ ก็อยากมาลิ้มชิมลอง…

คงรสต้นแบบ คือ “รสแท้รสแม่ทำ” ไว้ให้ได้ แกงป่าเมืองกาญจน์ขนานแท้ “รสแท้รสแม่ทำ” นั้นอย่างนี้ เครื่องน้ำพริก มี พริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็ก ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม กะปิดี พื้นหลักมีเท่านี้ อนุญาตให้ใส่พริกไทยดำและเหง้ากระชายได้นิดหน่อยเพื่อความเผ็ดร้อนและหอมชื่น

เครื่องพริกแกงนี้ให้กะคะเนสัดส่วนเอาเอง ชอบเผ็ดก็หนักพริกหน่อย ที่ระบุว่าพริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็กนี้ก็ด้วยเวลานี้พริกบ้านเราเป็นพริกหลอกไปแล้ว คือ เผ็ดไม่จริง ดังนั้น จึงพอเชื่อได้ว่าเผ็ดจริงหรือเผ็ดกว่าพริกอื่น ก็พริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็กนี่แหละ เครื่องพริกแกงทั้งหมดนี้ ต้องตำในครกหินและสากหินเท่านั้น เริ่มด้วยตำตะไคร้ ข่า หอม กระเทียม ก่อน แหลกแล้วใส่พริกขี้หนูแห้งตำต่อ ละเอียดดีแล้วจึงค่อยใส่กะปิดีสักหนึ่งช้อนโต๊ะ

  แกงป่ามีการใส่มะเขือเปราะ มะเขือพวง กระชาย พริกไทยอ่อน พริกชี้ฟ้าสด ใบกะเพรา ใบมะกรูด อนุญาตให้ใส่พริกไทยดำและเหง้ากระชายได้นิดหน่อยเพื่อความเผ็ดร้อนและหอมชื่น เครื่องน้ำพริก มี พริกขี้หนูแห้งเม็ดเล็ก ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม กะปิดี พื้นหลักมีเท่านี้ เครื่องพริกแกงนี้ให้กะคะเนสัดส่วนเอาเอง ชอบเผ็ดก็หนักพริกหน่อย

เครื่องพริกแกงทั้งหมดนี้ ต้องตำในครกหินและสากหินเท่านั้น เริ่มด้วยตำตะไคร้ ข่า หอม กระเทียม ก่อน แหลกแล้วใส่พริกขี้หนูแห้งตำต่อ ละเอียดดีแล้วจึงค่อยใส่กะปิดีสักหนึ่งช้อนโต๊ะ

คดน้ำพริกลงกระทะ เติมน้ำพอท่วม เดือดดีแล้วจึงใส่เนื้อลงไป แกงป่าถ้วยนี้เหมาะกับปลาดุกหรือปลาคัง ไม่ควรใส่ปลาอื่น ถ้าเป็นเนื้ออื่นมี ไก่ กบ หมู เนื้อ จำเพาะเนื้อนี้เป็นเนื้อสับหยาบ-ละเอียดได้ตามใจ รวนเสียก่อนใส่ในพริกแกงเดือดก็จะดี พอเดือดได้ที่ให้ใส่สามมะเขือนี้เท่านั้นเป็นผัก คือ มะเขือพวง มะเขือเปราะ และมะเขือเหลือง ถ้ามีมะเขือขื่นจะดีมาก จำเพาะมะเขือเหลืองนี้เท่านั้นให้เอาเมล็ดออก เดือดอีกทีตักน้ำแกงชิมดู ควรเหยาะน้ำปลา เอาเค็มสักหน่อยจะดี

ได้รสดีแล้วให้ประเดพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงกับยอดกะเพราที่เตรียมไว้ลงไป ปิดกระทะนับหนึ่งถึงสิบแล้วตักใส่ชามใหญ่ยกตั้งสำรับได้เลย

ดังนั้นแกงป่าของร้านนี้คงหนีไม่พ้นตามสูตรของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ คงจะได้กลิ่นอายและรสชาติใกล้เคียงกันเป็นแน่แท้

ร้านนี้ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 324 อยู่ฝั่งซ้ายเลยสามแยกมาจากสุพรรณบุรี ถ้ามาจากอำเภอกำแพงแสนด้วยทางหลวงหมายเลข 325 เลี้ยวซ้ายตรงที่บรรจบถนนจากสุพรรณฯ ถึงเขตอำเภอพนมทวน อำเภอเก่าแก่ของจังหวัดกาญจนบุรี   

ร้านอาหารบ้านทวน

ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 324 กาญจนบุรี

โทร : 034-579-460, 087-1092297

พิกัด :14°07'07.2"N 99°40'55.1"E

ถ่ายภาพ มีรัติ รัตติสุวรรณ