ในที่สุด พรรคก้าวไกลที่คนไทยผู้ออกไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเทคะแนนให้มาเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากจะไม่ได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีและแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว วันนี้ยังไม่ได้ร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ต้องกลายเป็นฝ่ายค้าน และอาจไม่ได้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาอีกด้วยถ้ารองประธานสภาผู้แทนราษฎรยังเป็นคนของพรรคก้าวไกลอยู่
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นี้ เพราะภารกิจสุดท้ายที่ตั้งใจไว้ยังไม่ได้ทำ ภารกิจที่ว่านี้คือ การยุบพรรคก้าวไกล ที่นักร้องทางการเมืองได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไว้ ถึงแม้ว่าเรื่องราวในอดีตจากการยุบพรรคต่าง ๆ ของระบอบทักษิณก็ได้ยืนยันให้เห็นทุกครั้งแล้วว่าเสียเวลาเปล่า เพราะยุบพรรคนี้ไป ก็หาพรรคใหม่มาแทนได้ ที่สำคัญยังเท่ากับช่วยเปิดโอกาสให้แกนนำรุ่นต่อไปของพรรคที่ถูกยุบได้มีโอกาสขึ้นมาฝึกปรือวิทยายุทธแทนแกนนำรุ่นพี่ที่ถูกตัดสิทธิ์หรือยุติบทบาททางการเมืองลง
เดือนมิถุนายน หลังประกาศผลการเลือกตั้งไม่นาน ผมเคยเขียนวิเคราะห์ไว้ที่คอลัมน์นี้ว่าพิธาจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
เดือนกรกฎาคม หลังการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และก่อนการเลือกนายกรัฐมนตรี ผมยังคงยืนยันความคิดนั้น ว่าแม้พรรคก้าวไกลจะพยายามหาทางออกด้วยการนำตาอยู่อย่างนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา มาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลดระดับการเผชิญหน้ากับพรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายแล้ว นายพิธาก็คงไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อยู่ดี และสุดท้ายก็จะเข้าล็อคพรรคเพื่อไทย ที่จะขอจัดตั้งรัฐบาลบ้างในฐานะพรรคที่มีเก้าอี้มาเป็นอันดับที่สอง
วันนั้น ผมยังคาดการณ์ว่าอาจมีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พรรคเพื่อไทยจะร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐและพรรครัฐบาลเดิม จัดตั้ง “รัฐบาลก้าวข้ามความขัดแย้ง” หรือ พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อพลเอกประวิตรมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้คนพยุงปีกก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
วันนี้ ต้นเดือนสิงหาคม เหตุการณ์กำลังจะเดินไปถึงจุดนั้นแล้ว
ที่มั่นใจเช่นนั้นเพราะ พิจารณาจากการเคลื่อนไหวของทักษิณ ที่ทั้งอยากกลับบ้านโดยไม่ต้องติดคุก ทั้งอยากแก้แค้นที่ต้องพ่ายแพ้ให้พรรคก้าวไกลอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
ประกอบกับความอ่อนหัดในเกมการเมืองและ “ความไม่รู้ประมาณ” ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ของพรรคก้าวไกล ทำให้เป็นที่หวาดกลัวของกลุ่มอนุรักษ์นิยมทั้งในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ นี่ยังไม่พูดถึงกิริยามารยาทอันยากจะรับได้ของนักการเมืองพรรคก้าวไกลบางคน รวมทั้งการเคลื่อนไหวแสดงออกในแนวกักฬละของกองเชียร์จำนวนหนึ่งของพรรคนี้ ที่ทำให้พรรคนี้มีศัตรูเพิ่มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
สถานการณ์ พฤติกรรม และการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกลเช่นนี้ ผลักดันให้พลังอนุรักษ์นิยมฝ่ายต่าง ๆ กับระบอบทักษิณหันมาจับมือกันชั่วคราวเพื่อกำจัดศัตรูร่วมของตน
เรื่องการเดินทางไปพบกันในต่างประเทศของแกนนำพรรคการเมือง เรื่องอุ๊งอิ๊งคิดถึงพ่อกะทันหัน เรื่องพลเอกประวิตรอยากดูแข่งม้า รวมทั้งเรื่องดีลลับหลายที่ไม่ว่าที่ลังกาวีหรือที่ฮ่องกง คือหลักฐานที่โยงใยถึงการติดต่อประสานงานกันระหว่างทักษิณกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายทหารที่กุมอำนาจในปัจจุบันเพื่อตกลงผลประโยชน์อะไรกันบางอย่าง
แน่นอนว่าเรื่องหนึ่ง คือเรื่องการกลับมาของทักษิณโดยไม่ต้องติดคุกเหมือนนักโทษทั่วไป ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คงเป็นเรื่องการกำจัดพรรคก้าวไกลและการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว เพราะในสายตาของฝ่ายอนุรักษ์นิยมนั้น แม้จะไม่ไว้วางใจทักษิณ แต่ก็ไม่ไว้วางใจพรรคก้าวไกลมากกว่า ส่วนทักษิณนั้นแม้อยากกำจัดฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่ชั่วโมงนี้อยากได้บารมีของฝ่ายอนุรักษ์นิยมและฝ่ายทหารที่กุมอำนาจมาช่วยให้ตนกลับบ้านและร่วมกันกำจัดพรรคการเมืองคู่แข่งมากกว่า
3 สิงหาคมนี้ ถ้าพรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วโดยร่วมมือกับพรรคทหาร พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในที่สุด ส่วนพรรคก้าวไกลจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไร
4 สิงหาคม ถ้านายเศรษฐา หรือ อุ๊งอิ๊ง ได้รับการเสนอชื่อและได้รับการรับรองจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็นับเป็นวาสนาของนายเศรษฐา หรือ อุ๊งอิ๊ง ไป แต่จะเป็นโชคดีหรือเปล่าไม่ทราบ
แต่ถ้า 4 สิงหาคม มีคนพยุงปีกลุงป้อมขึ้นมาก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็อย่าแปลกใจอะไร เพราะเจ้าของพรรคเขาดิวกันไว้แล้ว
ที่เหลือก็เตรียมก้าวข้ามความขัดแย้งกันให้ดี ๆ เถิด เพราะมันจะเกิดขึ้นแน่ !
ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส
๒ สิงหาคม ๒๕๖๖
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี