จะว่าไปเรื่องนี้เป็นข่าวไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามโซนที่เป็นเมืองใหญ่อย่างแอลเอหรือซานฟรานซิสโก ที่กลายเป็นแดนเถื่อนจนต้องคอยระแวดระวังตัวแจ ทั้งยามจอดรถหรือซื้อของ เพราะโจรชุมยิ่งกว่ายุง ไม่เกรงกลัวกฎหมายใดๆ ทั้งนั้น แถมไม่ได้ปล้นแต่ของมีค่าด้วยนะ ของใช้เล็กๆ น้อยๆ อย่างสบู่หรือยาสีฟันก็เอา เล่นเอาร้านรวงใหญ่น้อยปวดหัวไปตามกัน
ปัญหาโจรชุมส่งผลให้ห้างร้านต่างๆ ในอเมริกาต้องทำตู้ล็อกชั้นวางสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปอย่างยาสีฟัน ช็อกโกแลต ผงซักฟอก จนบางห้างกระทั่งตัดสินใจปิดสาขาในย่านที่แก๊งโจรอาละวาดหนักภาพนิ่งจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในร้าน ซึ่งเผยแพร่โดยสำนักงานตำรวจนครลอสแองเจลิส แสดงให้เห็นพวกผู้ต้องสงสัยบุกเข้าไปขโมยข้าวของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในลอสแองเจลิส คิดดูเอาเถอะว่าขนาดไหน
แล้วฝูงโจรพวกนี้ปล้นแบบไม่แคร์ใคร ทั้งร้านสะดวกซื้อไปถึงซุปเปอร์สโตร์ อย่างวอลมาร์ท ทาร์เก็ต ตลอดจนเครือร้านขายยาดัง อย่าง ซีวีเอสและวอลกรีนส์ รวมถึงผู้จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับการตกแต่งต่อเติมบ้านอย่างโฮมดีโป และร้านรองเท้าฟุตล็อกเกอร์
ห้างเหล่านี้โดนปล้นแทบจะรายวัน ผู้ก่อเหตุมีทั้งพวกลักเล็กขโมยน้อย และแก๊งลักข้าวของที่กำลังระบาดหนักขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงบางทีก็เกิดเหตุการณ์รุนแรง
ลอเรน โฮบาร์ต ประธานบริหารดิ๊กส์ สปอร์ตติ้ง กู๊ดส์ กล่าวว่า พวกแก๊งลักขโมยกำลังเป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อห้างหลายแห่งมากขึ้น ในกรณีของดิ๊กส์ การขโมยของส่งผลกระทบต่อสินค้าคงคลังของบริษัทอย่างหนัก
ไบรอัน คอร์เนลล์ ประธานบริหารทาร์เก็ต เผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีการขโมยของในห้างแบบใช้ความรุนแรงหรือขู่ใช้ความรุนแรงเพิ่มขึ้นถึง 120% คุณพระ..ขออนุญาตเอามือทาบอก 120 % ใช่แล้วจ้า มากกว่าร้อยเปอร์เซนต์เลยทีเดียว จนทำให้เวลานี้ความสูญเสียในส่วนของสินค้าคงคลังสืบเนื่องจากปัญหานี้อยู่ในระดับสูงเกินกว่าที่จะยอมรับได้ในระยะยาวแล้ว
อย่าว่าแต่ห้างร้านต่างๆ เลยที่โดน ล่าสุดมีการแจ้งข่าวในชุมชนคนไทยในแอลเอว่า แค่จอดรถไปเอาอาหารที่สั่งโทรสั่ง แค่ไม่ถึงห้านาที โจรทุบรถกวาดเอาของในรถไปหมดเกลี้ยง ส่วนเจ้าของรถได้แต่หันหลังมาถ่ายคลิปไว้อย่างเจ็บใจ
เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่อัตราดอกเบี้ยของอเมริกาพุ่งจากเกือบ 0% เป็น 5.5% ในระยะเวลา 18 เดือน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี เนื่องจากผู้วางนโยบายพยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้กระทบต่อการกู้เงินเพื่อซื้อสินค้าชิ้นใหญ่หรือขยายธุรกิจมีต้นทุนสูงขึ้น ขณะเดียวกันส่งผลลบถึงผู้บริโภคเช่นกัน ข้าวของแพงสาหัสขึ้นทุกวัน ในขณะที่คนตกงานเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายเลยหันหน้าปล้นนั่นแหละฮะ ท่านผู้ชม
จากการสำรวจด้านความปลอดภัยของการค้าปลีกของสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ พบว่า ในปี 2021 พวกห้างค้าปลีกเสียหายราว 94,500 ล้านดอลลลาร์จากสิ่งที่เรียกว่า “shrink” ซึ่งหมายถึงความสูญเสียในส่วนของสินค้าคงคลังอันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น การยักยอกของพนักงาน การขโมยของ หรือความผิดพลาดในการจัดการ
ผลสำรวจยังพบว่า ห้างค้าปลีกเผชิญปัญหาจากแก๊งโจรเพิ่มขึ้น 26.5% โดยที่ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่รายงานว่า วิกฤตโรคระบาดทำให้ความเสี่ยงนี้เพิ่มสูงขึ้น
ผลลัพธ์คือห้างหลายแห่งติดตั้งแผ่นพลาสติกใสพร้อมกุญแจล็อกครอบชั้นวางสินค้า หรือล่ามโซ่คล้องกุญแจสายยูล็อกตู้เย็น และมีปุ่มกดเรียกสำหรับพนักงานกระจายอยู่ตามทางเดิน ส่วนชั้นวางที่ไม่มีการป้องกันจะวางสินค้าเพียงไม่กี่ชิ้นเพื่อจำกัดการถูกขโมย นี่แหละคืออเมริกาในวันนี้
ขนาดป้องกันขนาดนี้แล้ว แต่คนมันรักจะปล้นก็ต้องปล้นให้ได้ ไม่เชื่อมาดูเคสนี้ เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ชายสวมแจ็กเก็ตแบบมีฮู้ดและหน้ากาก ใช้เครื่องพ่นความร้อนละลายแผ่นพลาสติกใสที่ครอบชั้นวางสินค้าร้านวอลกรีนส์ ซึ่งเป็นร้านขายยาในย่านควีนส์ นครนิวยอร์กท่ามกลางสายตาลูกค้าและพนักงานร้าน ก่อนโกยของไปจากชั้นแล้วเดินลอยนวลไปอย่างใจเย็น
นอกจากนี้ ร้านขายยาซีวีเอสหลายสาขาย่านนั้นก็โดนปล้นอย่างเท่าเทียมกัน จนบางสาขาขอให้พนักงานอย่าขัดขวางโจรหรือพยายามแจ้งตำรวจ เพื่อความปลอดภัยของตนเอง เอ้า..แบบนี้ก็ได้เหรอ คือเจ้าของต้องบอกลูกจ้างว่า เวลาโจรปล้น อย่าขวาง ให้ปล้นตามสะดวก
เจอแบบนี้ทุกวัน หลายห้างเลยถอดใจปิดร้านไปเลย เช่น ห้างไจแอนต์ที่กำลังปิดซูเปอร์มาร์เกตในนิวยอร์ก วอลล์กรีนปิดสาขา 5 แห่งในซานฟรานซิสโกในปี 2021 จากปัญหาเดียวกัน และวอลมาร์ทปิด 4 สาขาในชิคาโกในปีนี้ โดยให้เหตุผลอย่างเป็นทางการว่า ไม่มีกำไร
นอกจากนั้น ยังมี “flash rob” ที่แก๊งโจรนัดกันไปปล้น แหม ช่างมีเสรีภาพกันจริงๆ นัดแนะให้ฝูงชนมารวมตัวกันที่ร้านใดร้านหนึ่ง แล้วปล้นอย่างมีความสุข เดือนก่อนเหตุเกิดในห้างนอร์ดสตรอมที่ลอสแองเจลิส กลุ่มคนสวมหน้ากากราว 30 คนเข้าไปกวาดสินค้าหรูมูลค่า 300,000 ดอลลาร์ และใช้สเปรย์ไล่หมีฉีดใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
สาเหตุที่พวกนี้กล้ายกพวกปล้นกลางวันแสกๆ เพราะกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียนี่แหละ คงต้องอธิบายก่อนว่าแม้ว่าอเมริกาทุกรัฐจะอยู่ภายใต้กฎหมายหลัก แต่ละรัฐก็ออกกฎหมายแยกย่อยแตกต่างกันไปตามความต้องการของพลเมืองแต่ละรัฐ
กฎหมายแคลิฟอร์เนียข้อหนึ่งกำหนดว่า ถ้าเกิดการขโมยข้าวของเกิดขึ้น แล้วสินค้าที่ถูกขโมยมีราคาไม่ถึง 950 ดอลลาร์ หรือประมาณไม่ถึงสามหมื่นกว่าบาท ให้ถือเป็นความผิดที่ไม่รุนแรง
นั่นหมายถึงตำรวจอาจจะไม่สืบสวนหรือส่งฟ้องอัยการนั่นเอง กฎหมายข้อนี้ทำให้หัวขโมยได้ใจ ถึงกล้ายกพวกนัดปล้นกลางวันแสกๆ นี่แหละคือเสรีภาพเจ้ากรรมที่เกิดขึ้นในอเมริกา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี