ในวันที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภาก่อนเข้าบริหารประเทศเมื่อห้าเดือนก่อนนั้น ชาวบ้านที่นั่งฟังการแถลงนโยบายของรัฐบาลจากการถ่ายทอดสดต่างพากันดีอกดีใจ ฝันถึงอนาคตที่สวยหรูเพราะนายกรัฐมนตรีให้คำมั่นว่า หากมองอนาคตสี่ปีข้างหน้า จะเป็นสี่ปีที่รัฐบาลจะวางรากฐานและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ให้กับประเทศ โดยยึดหลักนิติธรรมที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถือ รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จโดยเร็ว อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้
อีกทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ยังยืนยันว่า ในการบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินนโยบายนั้น รัฐบาลจะดำเนินการอย่างมีเป้าหมายทั้งในด้านการเจริญเติบโต การลดความเหลื่อมล้ำ และการรักษาเสถียรภาพ โดยให้ความสำคัญกับกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในการใช้จ่าย
ห้าเดือนผ่านไปนายเศรษฐา ทวีสิน ที่เป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนพ่อพวงมาลัย สวมถุงเท้าแดงเดินสายลอยไปลอยมา เหมาเครื่องบินทัวร์ต่างประเทศ โดยอ้างว่าเป็นเซลส์แมนเบอร์ 1 ของประเทศ ออกไปหาตลาดและเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน พอกลับมาเรียกว่านั่งก้นยังไม่ทันร้อนก็หาเรื่องออกต่างจังหวัดอีก ทำทีว่าไปตรวจงานและเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชน เอาเข้าจริงก็เหมือนการไปโชว์ตัวตามงานอีเว้นท์ต่างๆ และท่าทางที่แสดงออกก็เหมือนไม่เคยเห็นไม่เคยรู้อะไรมาก่อน ทำให้นึกถึงภาพ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี รายนั้นเอ๋อๆ อ๋าๆ พูดผิดพูดถูก แต่สำหรับนายเศรษฐาพูดพล่อยๆ แบบปากไวไม่ทันคิด พูดเสร็จแล้วก็ต้องมีคนมาคอยตามแก้ไห้
ก็อย่างที่ชาวบ้านทั่วไปเขาเชื่อนั่นแหละ ว่า“เศรษฐาทวีสิน”เป็นนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ของนักโทษเทวดา ชั้น 14 ชนิดจำลองแบบหรือมีดีเอ็นเอเดียวกันกับ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งอย่าว่าแต่ทำเองเลย คิดเองพูดเองก็ไม่เป็น ต้องเล่นไปตามบทที่มีคนเขียนและคอยกำกับให้เท่านั้น
ตามมาดูกันต่อ นอกจากนโยบายฝันเฟื่องสี่ปีข้างหน้าที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนักธุรกิจหมื่นล้านด้านอสังหาริมทรัพย์ที่บุญพาวาสนาส่งเพราะ“เทวดาชั้น 14”ตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อรัฐสภานั้น จนบัดนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหน แม้แต่นโยบายเร่งด่วน 5 ประการก็เช่นเดียวกัน มิหนำซ้ำยังส่อเค้าว่าจะล่มปากอ่าวอีกด้วย
หนึ่งในนโยบายเร่งด่วนนั้นก็คือ โครงการการเติมเงินหรือแจกเงิน 1 หมื่นบาท ผ่าน“ดิจิทัล วอลเล็ต”เพื่อกระตุกหรือกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เชื่อว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องล้มไม่เป็นท่า ดังที่นายเศรษฐา ทวีสิน ออกตัวเป็นการล่วงหน้าเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ถ้าทำไม่ได้ต้องมีเหตุผลชี้แจงให้ประชาชนทราบ
ทั้งนี้ เหตุผลจริงๆ ที่ไปต่อไม่ได้ก็เพราะ เงิน5 แสนล้านที่จะใช้สำหรับโครงการนี้ ต้อง“กู้มาแจก” และการกู้มาแจกไม่เพียงแต่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเท่านั้น การออก พ.ร.บ.เงินกู้ก็อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายการเงินที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งยังไม่เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภา ว่า“จะให้ความสำคัญกับกรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศอย่างเคร่งครัด และให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในการใช้จ่าย”
อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ และกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากทุกภาคส่วนของสังคมเช่นกัน นั่นก็คือ เรื่อง“ซอฟต์ พาวเวอร์” ที่เป็นอีกหนึ่งนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเกี่ยวกับการ“เร่งสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว”
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา จากการประชุมของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่โดยตำแหน่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นประธาน แต่ตัวจริงเสียงจริงที่เป็นประธานคือ“อุ๊งอิ๊ง-แพทองธารชินวัตร”หัวหน้าพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นสายตรงของ“นักโทษเทวดาชั้น 14” โดยคณะกรรมการฯที่มี“อุ๊งอิ๊ง”เป็นรองประธานและทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมครั้งนี้ ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติกรอบงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมรวม 54 โครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 5,164 ล้านบาท และที่ถูกนำมาล้อเลียนกันอย่างตลกขำขัน ก็คือโครงการ “มหาสงกรานต์” หรือ“World Water Festival-The Songkran Phenomenon”
“อุ๊งอิ๊ง”ทายาทไข่ในหินของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเวลานี้เหมือนเป็นนายกรัฐมนตรีคู่ขนานกับนายเศรษฐา ทวีสิน โดยถูกวางบทบาทให้มาขับเคลื่อนเรื่อง“ซอฟต์ พาวเวอร์”นั้น ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กของเธอว่า
“เราจะปักหมุดให้สงกรานต์ปีหน้า (เมษายน 2567) เป็นเทศกาลที่คนทั้งโลกต้องบินมาเล่นที่บ้านเรา และสงกรานต์ปีหน้า เราจะไม่เล่นน้ำแค่ 3 วันนะคะ แต่จะจัดงานกันทั้งเดือน ทยอยจัดกันทั้งประเทศ 77 จังหวัด เตรียมวางแผนกันได้เลยนะคะ ว่าสัปดาห์ไหนของเดือนเมษายน อยากจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่จังหวัดไหนค่ะ มาร่วมกันทำให้สงกรานต์บ้านเรา เป็นเทศกาลที่ทั่วโลกต้องปักหมุดมาเล่นน้ำที่บ้านเรา และทำให้ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก”
ขณะที่นางชฎาทิพย์ จูตระกูล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล ของคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับสาแหรกทางฟากมารดาของนายเศรษฐา ทวีสิน แถลงว่า การส่งเสริมประเพณีไทยออกไปสู่สายตาชาวโลก เหมือนเป็นการจุดประทัดให้คนทั่วโลกมองประเทศไทยอีกครั้งในปีหน้า พร้อมทั้งลงในรายละเอียดว่า “คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ฯได้จัดเตรียมกิจกรรมไว้กว่า 1 หมื่นโครงการ สำหรับ 365 วันทั่วไทย โดยวาระแห่งชาติ คือการจัดกิจกรรม“มหาสงกรานต์ World Water Festival” ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าแห่งสงกรานต์โลก โดยมีศูนย์กลางที่ถนนราชดำเนิน ในกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ จะมีขบวนแห่ของ 77 จังหวัด เช่น ขบวนแห่เทียน ดอกไม้ การแสดง การละเล่น 3 วัน 3 คืน”
บรรทัดนี้อยากจะบอกให้“คุณหนูอุ๊งอิ๊ง”รู้ว่า เทศกาลสงกรานต์ไทยนั้นเขาจัดยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างกันทุกปีอยู่แล้ว ไม่ต้องรอให้คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติมาคิดหรอก คนทั้งโลกเขารู้จักกันดี พอถึงเทศกาลสงกรานต์ก็แห่กันมาเที่ยว ถ้าจะคิดเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ต้องทำการบ้านจริงๆ จะใช้วิธีลอกข้อสอบแบบนี้นั้น ดูจะตื้นเขินและง่ายเกินไป
คิดจะเป็นผู้นำคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ฯทั้งที ควรต้องใช้สมองใช้สติปัญญาคิดให้มากกว่านี้นะคุณหนู!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี