ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ผมมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเกาะไต้หวันในช่วงเวลาสั้นๆกระชับจนเหนื่อย ประสบการณ์ 5 วัน 3 คืนที่ได้พบมีเรื่องน่าสนใจมากมายจนต้องขอนำมาเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นการขัดจังหวะเรื่องเล่าจากอินเดีย
การเดินทางของผมครั้งนี้ เป็นโปรแกรมทัวร์ถูก โรงแรมที่พักแม้จะเป็นระดับ 3 ดาวบวก แต่ก็พักได้ไม่คับแคบ และ คุณภาพของที่นอนก็ถือว่าผ่าน
แต่ที่ทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันก็คือ อาหารแย่มากๆในแง่ของรสชาติ ความหลากหลาย และ วิธีการปรุง
บางท่านอาจสงสัยว่า ในเมื่ออาหารจีนเป็นอาหารที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลกว่า มีวิธีการปรุงที่หลากหลาย และ มีรสชาติที่ดี ถูกปากคนเกือบทั่วโลก ชาวไต้หวันก็เป็นคนจีนที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่จีน ไม่ว่าจะอพยพมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ตาม ยกเว้นคนที่เกิดบนเกาะไต้หวัน
ทำไม อาหารไต้หวันจึงไม่อร่อยเท่าอาหารจีน
เรื่องนี้ต้องว่ากันยาว ผมจึงขอนำเรื่องราวของไต้หวันมาเล่าสู่กันฟังครับ
(แผนที่ไต้หวัน และ จีน - ภาพจากเว็บ GARMIN CARTO )
ไต้หวันเป็นเกาะ อยู่ตรงข้ามกับมณฑลฟุเจี้ยน ของจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยระยะห่างไม่เกิน 200 กิโลเมตร และจุดที่แคบที่สุดเพียงแค่ 130 กิโลเมตรเท่านั้น จึงเป็นเกาะที่มีความเชื่อมโยงกับชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาช้านาน
กระนั้นก็ตาม บนเกาะไต้หวันก็มีชนพื้นถิ่นดั่งเดิมอาศัยอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งนักวิชาการเชื่อว่า คนพื้นถิ่นเดิมอาศัยอยู่บนเกาะไต้หวันมานานกว่า 15000 ปีที่แล้ว
(ภาพถ่ายชนพื้นถิ่นของไต้หวัน ถ่ายภาพโดย JOHN THOMSON เมื่อปี 1871)
ชนพื้นถิ่นเหล่านี้ บางทีก็เรียกว่า ชาวอะบอริจิน ไต้หวัน หรือ บางทีก็เรียกแบบง่ายๆว่า ชาวเขา
เหนือจากเกาะไต้หวันขึ้นไปประมาณ 600 กิโลเมตรเศษ ก็คือ เกาะโอกินาวา ของญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีชนพื้นถิ่นที่อาศัยอยู่บนเกาะฮ๊อกไกโดมานมนานมาก ก่อนที่จะกลายเป็นประเทศญี่ปุ่น ชนพื้นถิ่นเหล่านี้เรียกว่า ชาวไอนุ ที่แม้จนปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่อาจสืบค้นที่มาที่ไปของชนชาวไอนุที่ว่านี้ได้ แต่เชื่อว่า น่าจะเข้ามาอาศัยอยู่บนเกาะญี่ปุ่นนานมากแล้ว อาจจะ 3 หมื่นปีขึ้นไป
ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเคยประกาศว่า บรรพบุรุษของพวกเขาก็คือ ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อพยพหลบหนีมาตั้งถิ่นฐาน ตามตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับการออกเดินทางเพื่อค้นหายาอายุวัฒนะมาถวายฮ่องเต้ แต่เมื่อรู้ว่า ไม่มียาที่ว่านี้อยู่จริงก็เลยลงหลักปักฐานบนเกาะญี่ปุ่นนี้เสียเลย
ทว่า เมื่อญี่ปุ่นเกิดความขัดแย้งกับจีนอย่างรุนแรง จึงเปลี่ยนไปประกาศว่า บรรพบุรุษของเขาก็คือ ชาวไอนุ
(ภาพถ่ายของหัวหน้าเผ่าไอนุ ปี1930- ภาพจากวิกิพีเดีย)
กลับมาพูดถึงเรื่องไต้หวันกันต่อ
ไต้หวัน ที่ผมพบเห็นในวันนี้ เป็นไต้หวันที่ขาลอย ไม่มีพื้นให้เหยียบ และไม่มีที่มาที่ไปของตัวเอง
คนไต้หวันมักจะปฎิเสธทันทีเมื่อมีคนถามว่า คุณเป็นคนจีนหรือไม่ เขาจะบอกว่า เขาเป็นชาวไต้หวัน แต่ชาวไต้หวันก็ไม่อาจปฎิเสธว่า บรรบุรุษส่วนหนึ่งของเขานั้น อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่จีน ไม่ว่าเขาจะยอมรับหรือไม่
ที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนก็คือ ภาษาพูด และ ภาษาเขียนที่เอามาจากภาษาจีนทั้งดุ้น
วันนี้ไต้หวันถูกครอบงำด้วยวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งวัฒนธรรมด้านอาหารการกิน และ แนวคิดทางด้านการเมือง
แม้จะผูกพันกับจีนแผ่นดินใหญ่ในเรื่องภาษา แต่ในทางตรงกันข้าม ความผูกพันกับจีนแผ่นดินใหญ่ในแง่ความรู้สึกร่วมทางประวัติศาสตร์ หรือ ความเชื่อมโยงในเรื่องราวอดีตกลับน้อยมาก
จะปรากฎให้เห็นบ้างก็คือ ในศาลเจ้าที่ปรากฎเทพเจ้า กวนอู เทพเจ้าขงจื่อ และ เทพเจ้าพระถังซัมจั๋ง เท่านั้น
สัปดาห์หน้าจะมาว่ากันต่อครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี