ผ่านมา 20 ปี จากภาคแรก ID4 (Independence day)นำมาสู่ IDR (Independence Day: Resurgence) ภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ที่กลับมาฟันฝ่าหายนะโลกครั้งใหม่ หนังสุดสัปดาห์ที่เหมือนดั่งเป็น ตัวร้าย ทำเอาเรื่องอื่นที่ขนาบโรงภาพยนตร์สั่นไหว กับความน่าสนใจ เกินหน้าพระเอก หลายเท่าทวีคูณ

Independence Day: Resurgence สงครามใหม่วันบดโลก นำร่องมาดีจากชื่อเสียงในวันเก่า และแน่นอนย่อมเป็นที่คาดเดา กับเทคโนโลยีที่สมควรจะแพรวพราวล้ำสมัย นอกเรื่องนั้นทิ้งห่างมา 20ปีจาก คอหนัง เพื่อเรียกความสนใจ เช่นเดียวกับในหนังที่บรรยายให้เห็นถึง 20 ปีให้หลัง กับการบุกครั้งใหม่ของเอเลี่ยนที่ทวีความร้ายกาจอลังการกว่าเดิม

ทเวนต้ีส์ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ ยังคงมอบหน้าที่ให้ โรแลนด์เอ็มเมอร์ริค คุมงานกำกับฯ พร้อมเรียกนักแสดงเก่ากลับมาโลดแล่นเกือบครบ ขาดก็แต่ตัวเด่นอย่าง วิล สมิธที่ไม่ได้บรรจบ แต่ก็ได้พระเอกฮอต เลียม เฮมส์เวิร์ธ มาเรียกความสนใจแทน

พร้อมกันนี้มี ตัวละครใหม่ๆ มาโชว์เสน่ห์ รวมถึงสมทบด้วยนักแสดงเอเชียอย่าง แองเจล่า เบบี้ ให้หนุ่มๆคึกคัก

พล็อตเรื่องแม้จะเดินตามสูตรสำเร็จ หนังแอ๊กชั่นไซไฟ แต่ IDR ใส่ความเนื้อชั้นของเทคโนโลยีทันสมัย คอมพิวเตอร์กราฟิกที่กระหน่ำมาแบบสะใจ ทำให้ภาพที่ได้สมใจคนชอบความหวือหวา

จากภาคแรกที่เพียงแค่ ยิงลำแสง มาทำลายล้าง ภาคนี้เอเลียนเพิ่มขบวนการเทคนิคใหม่ๆ โลกเองก็รับมือด้วยยุทโธปกรณ์วิวัฒนาการที่พัฒนามาไกล ทีมสร้างชูความเด่นด้วย Special Effect ที่น่าหลงใหล ยิ่งการได้รับชมในระบบ IMAX 3D เสริมส่งกันได้ดึงดูดอารมณ์

หากจะติ คงมีเพียงการวางโครงเรื่อง...“บท” ไม่เอื้อให้ผู้ชมมีส่วนร่วมเข้าถึง ภาคแรกแม้เทคนิคจะไม่สะพรึงแต่เนื้อหาเรียกอารมณ์เป็นหนึ่ง คนทั้งโลกรู้สึกถึงการร่วมชะตากรรม

ไม่เคยชมภาคแรก จะรู้เรื่องไหม? ตอบได้ว่า...เข้าใจแบบไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าอยากอินกับบรรยากาศ ภาคแรกจะช่วยให้ซึมซาบ และซึมซับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี