(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
๒.สถานการณ์ ผลการสำรวจและวิจัยของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีข้อมูลที่น่าสนใจ พบว่า คนไทยเข้าถึงอินเตอร์เนต ๘๒ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร มีหมายเลขโทรศัพท์ในปัจจุบัน ๙๓ ล้านเศษ คนไทยในทุกวัยใช้หน้าจอทุกจอรวมกัน ทั้งสิ้นเฉลี่ยละวันมากกว่า ๙ ชั่วโมง เด็กไทยใช้เวลาบนหน้าจอค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเด็กทั่วโลก เป็นข้อมูลที่จะทำให้เรารู้ว่าโอกาสของคนทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นเด็กที่ยังต้องการการพัฒนาการตามช่วงวัย ซึ่งเด็กแรกเกิดและก่อน ๒๐ ปี ถือเป็นช่วงเวลาทองของชีวิตที่ต้องมีการพัฒนาร่างกาย จิตใจ สติปัญญา หากขาดโอกาสไปก็จะมีผลต่อคุณภาพของเด็กคนนั้นที่จะโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน
(๑) โลโก้พนันฟุตบอลออนไลน์ อาทิ “live betting” “BIG BETS” “FOOTBALL BETS” ซึ่งเห็นกันอยู่แพร่หลายในเว็บไซต์ โดยบริษัทรับพนันกีฬามีพนันหลายอย่าง เช่น กอล์ฟ รักบี้ บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ฟุตบอล และอีสปอตซึ่งอีสปอตมีพนันมาแล้วหลายล้านครั้งที่เปิดการแข่งขันจึงเป็นมิติใหม่ของวงการการพนันที่เข้าไปในวงการกีฬาเมื่อนึกถึงการพนันคนจะนึกถึงกีฬา เมื่อนึกถึงกีฬาคนจะนึกถึงการพนัน เป็นเรื่องที่แยกกันแทบไม่ได้เลย
(๒) สถานการณ์การพนัน จากผลการสำรวจพบว่า จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๓ กลุ่ม คือ มัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา กลุ่มละ ๑,๗๐๐ กว่าตัวอย่าง จำนวนเกินครึ่ง ที่เห็นว่าเมื่อมีการรณรงค์ สามารถลดปัญหา ลดความคึกคัก ลดการเล่นพนัน ได้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ที่สามารถเชื่อมโยงได้กับการทำงานของคณะทำงาน นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเด็กเป็นหนี้ตั้งแต่ ๑,๘๐๐ บาท-๑๐,๐๐๐ บาท ในระดับมหาวิทยาลัย แต่เด็กที่เล่นเอาเงินมากที่สุดเป็นเด็กในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่ละข้อมูลมีนัยสำคัญที่ซ้อนอยู่ในงานวิจัยดังกล่าว
(๓) เมื่อปี ๒๕๖๐ ผลการสำรวจ พบว่า คนไทยจำนวนกว่า ๒๘.๙ ล้านคน หรือร้อยละ ๕๔.๖ เล่นการพนัน ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชนประมาณ ๓.๖ ล้าน คิดเป็น๑ ใน ๙ คนที่เล่น การพนันเดินมา ๙ คน จะมีเด็ก ๑ คน เป็นตัวเลขที่น่าสนใจ ซึ่งงานวิจัยพบว่า ผู้ใหญ่ที่ติดการพนันนั้นส่วนใหญ่เล่นการพนันมาตั้งแต่เด็ก เด็กผู้ชายเล่นการพนันมากกว่าเด็กผู้หญิง ๒ เท่า เพราะชอบความท้าทาย ชอบการแข่งขัน มีโอกาสและมีเพื่อนชักจูงได้มากกว่า ดังนั้น การปิดโอกาสไม่ให้ผู้ใหญ่ติดพนันคือการป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงการพนัน หรือรู้เท่าทันการพนัน เสียตั้งแต่วัยเริ่มต้น และเป็นแนวทางสากลที่ทำกันทั่วโลก เพื่อปกป้องคุ้มครองเสียตั้งแต่วัยเด็กเพราะทำในวัยผู้ใหญ่อาจจะสายเกินไป
(๔) การพนันทายผลฟุตบอลเป็นการพนันที่ได้รับความนิยมอันดับ ๔ โดยอันดับที่ ๑ คือ สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลเป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้ามือ เป็นผู้ประกอบการรองลงมาคือ หวยใต้ดิน และรองลงมาคือ ไพ่ ทั้งนี้ มีนักพนันฟุตบอล ๒.๔๗ ล้านคน โดยต้องเฝ้าระวังในกลุ่มเด็กและเยาวชน ๑๕-๒๕ ปี ที่มีถึงประมาณ ๖.๐๙ แสนคน ในจำนวนนี้เป็นเด็กอายุ ๑๕-๑๘ ปี ถึง ๑.๓๘ แสนคน หรือประมาณ ๒ ล้านคนเป็นนักพนันหน้าใหม่ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่จะทำอย่างไรที่จะหยุดไม่ให้นักพนันหน้าใหม่เข้ามาเล่นการพนันอย่างขาดความรู้เท่าทันได้อย่างไร
(๕) การบำบัดและผลกระทบ การเล่นพนันผ่านมือถือจะมีมือถืออยู่ในมือตลอดเวลา มีข้อมูลเข้าตลอดเวลา พร้อมที่จะกดเล่นการพนัน พร้อมจะกด พร้อมจะลงเงิน การพนันออนไลน์จึงถือเป็นการพนันอย่างเข้ม (Hard Gambling) เนื่องจากสามารถเล่นพนันได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ งานวิจัยพบว่าการบำบัดผู้มีปัญหาติดการพนันในกลุ่มผู้ใหญ่สามารถเลิกได้ร้อยละ ๓๐ ผู้ใหญ่ร้อยละ ๕ กลับไปติดซ้ำ กลุ่มเยาวชนสามารถเลิกได้ร้อยละ ๙ กลับไปติดซ้ำร้อยละ ๕ ทั้งนี้เด็กและเยาวชนที่เล่นพนันจะมีผลกระทบทั้งการเรียน การมีหนี้สิน การก่ออาชญากรรม ตลอดจนมีปัญหาสุขภาพกายและจิตอันเกิดจากความเครียด และการเสพติดการพนัน ซึ่งคนไทยมักจะขาดมิติของการพิจารณาความเป็นไปได้ ของรางวัลและโอกาสที่จะชนะ ซึ่งมักจะมองเพียงรางวัลโดยไม่สนใจโอกาสที่จะได้รับรางวัลที่สัดส่วนของโอกาสที่จะได้รางวัลต่ำมาก เช่น โอกาสถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ ๑ คือ ๑ ในล้าน แต่คนกลับคิดว่าโอกาสถูกรางวัล ๕๐ เปอร์เซ็นต์ จึงกล้าที่จะไปทุ่มทุนแทบหมดตัวเพราะหวังรางวัล หากรู้ความจริงว่ามีโอกาสเพียง ๑ ในล้าน ก็จะเล่นอย่างระมัดระวัง เล่นอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Gambling) เช่นเดียวกับในประเทศที่พัฒนาแล้ว กรณีของสลาก Lotto ซึ่งมีรางวัลสะสมมากว่า ๕๒,๐๐๐ ล้านบาท จะมีการประกาศโอกาสถูกรางวัลในทุกรางวัล ๑ ใน ๓๐๐ ล้านแต่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายบังคับให้ประกาศโอกาสที่จะถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลในทุกรางวัล ถ้ารู้อัตราถูกรางวัลก็จะเกิดการซื้ออย่างพอดี ซื้ออย่างระมัดระวังและซื้อแบบไม่หวังว่าต้องถูกรางวัล ไม่มีความหมกมุ่น หรือฆ่าตัวตาย หรือไปเป็นหนี้สิน ทุ่มหมดตัว ปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญของสังคมไทย คือ ค่านิยมและความเชื่อที่ผิดในสังคมไทยที่ยังมองและเข้าใจการพนันว่าการพนันเป็นเรื่องปกติ
๓.บันทึกข้อตกลง เพื่อต้องการป้องกันเด็กและเยาวชน ด้วยความห่วงใยและความตระหนักถึงภัยของพนันฟุตบอลออนไลน์ที่มีต่อเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะในช่วงฟุตบอลโลก ครั้งที่ ๒๑ ค.ศ. ๒๐๑๘ ระหว่างวันที่ ๑๔ มิถุนายน-๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ สหพันธรัฐรัสเซีย โดยภาครัฐภาคประชาสังคม และเครือข่ายเด็กและเยาวชน จำนวน๑๑ องค์กร ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือในการป้องเด็กและเยาวชนจากการพนันฟุตบอลออนไลน์ในช่วงฟุตบอลโลก ๒๐๑๘ เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ได้แก่ (๑) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (๒) สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (๓) กรมการปกครอง (๔) กรมกิจการเด็กและเยาวชน (๕) กรมสุขภาพจิต(๖) สำนักงาน กสทช. (๗) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (๘) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) (๙) สำนักงานกองทุนเพื่อการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (๑๐) สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย (๑๑) สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ในฐานะเจ้าภาพโดยมี ๔ มิติในการขับเคลื่อนดำเนินงาน ได้แก่
(๑) มิติการสื่อสารและการสร้างความตระหนักแก่สังคม โดยเฉพาะผลกระทบจาก การพนันฟุตบอลออนไลน์ต่อเด็กและเยาวชน การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร และช่องทางการแจ้งเบาะแส
(๒) มิติการป้องกัน เพื่อลดผลกระทบจากการพนันฟุตบอลออนไลน์ และสนับสนุนการทำงานของเครือข่ายต่างๆ ในการทำกิจกรรมด้านการป้องกัน
(๓) มิติการปราบปรามและการบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะในร้านเกม ร้านอินเตอร์เนต และการกระทำผิดในลักษณะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
(๔) มิติการช่วยเหลือและการเยียวยา โดยเฉพาะเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการพนันฟุตบอลออนไลน์
๔.การดำเนินงานระดับนโยบาย หลังจากมีการลงนามบันทึกข้อตกลง เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๑ มีการนำเข้าคณะกรรมาธิการสังคมฯสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จากนั้น มีคำสั่งตั้งคณะทำงานฯ เพื่อติดตามหน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานตามภารกิจ ๔ มิติดังกล่าว ระหว่างนั้นที่ได้ทำงานไปได้ระดับหนึ่งได้นำข้อสรุปของคณะทำงานเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและการพัฒนาเด็กและเยาวชน (กดยช.) เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๑ โดยที่ประชุมโดยมีพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม กดยช. มีสภาเด็กและเยาวชนเป็นองค์คณะดังกล่าวด้วย เมื่อได้รายงานผลการดำเนินงานรองนายกฯได้มอบหมายและให้ความสำคัญกับกระทรวงศึกษาธิการไปรวบรวมข้อมูล ศึกษาสถิติ และรณรงค์ป้องกัน หลังจากนั้นมีการตั้งกระทู้ถามในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดย นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ประธานคณะกรรมาธิการการสังคมฯ และในฐานะประธานอนุกรรมการส่งเสริมการป้องปกและคุ้มครองเด็กในการใช้สื่อออนไลน์ ซึ่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ จากการตั้งกระทู้ถามในสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้นำไปสู่การตื่นตัวและมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดติดตาม เข้มงวดกวดขันการปฏิบัติการให้สอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงที่ได้ลงนามร่วมกันไปแล้ว
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300
email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคม
หรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา
โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี