อ่านเรื่องนี้แล้วคุณอาจจะหายจากโรคภูมิแพ้ชีวิตก็ได้
ผมตั้งเอาเองว่า โรคภูมิแพ้ชีวิตหมายถึงโรคทางอารมณ์และบุคลิกภาพที่หงุดหงิด โกรธง่าย ไม่มีความสุข มักก้าวร้าว โทษคนอื่น แก้ตัวเก่ง ระแวง สร้างความเป็นมิตรกับใครๆ ได้ยาก ใจน้อย แสนงอน บางทีก็มีอารมณ์ดีชอบช่วยคนอื่น ใจอ่อน แต่ก็กลับไปสู่สภาพเดิมอีกได้ง่าย อาการที่เป็นนี้มาจากการที่ “แพ้ชีวิต” ในขณะนั้น
ผมเคยมีผู้ทุกข์คนหนึ่งมาปรึกษาด้วยอาการอย่างที่เขียนไปนี่แหละ
เขามีความทุกข์ที่เกิดจากความเชื่อว่าพ่อไม่ดี ไม่รักเขา เป็นความเชื่อที่ตกผลึกเป็นส่วนหนึ่งของจิตใต้สำนึก ทำให้เขามองตัวเองเป็นคนไม่ดีพอ จึงอยากจะพิสูจน์ตัวเองเพื่อเอาชนะพ่อ
ให้พ่อกลับใจหันมาชื่นชมยกย่องเขา...ซึ่งไม่เกิดผลเสียที
การที่เขามองชีวิตว่าเขาเป็นผู้แพ้ ผู้ถูกกระทำ และตอกย้ำว่าตัวเองมีความทุกข์ตลอดเวลา ทำให้ภูมิต้านทานในตัวเขาลดต่ำลง ทำให้ไม่มีความสุข เกิดอาการเจ็บป่วยทางฝ่ายกายได้เสมอจากความเครียด ผมเรียกอาการเช่นนี้ว่า “โรคภูมิแพ้ชีวิต” คือเขาแพ้การมีชีวิตอยู่ เมื่อไรที่นึกถึง “ชีวิต”เขาจะรู้สึกแพ้ทันที คือทุกข์ทันทีและมีอาการดังกล่าวข้างต้น
ผมลองให้เขาเขียนความดีของพ่อมาเท่าที่นึกออก เขาเขียนมาอย่างเสียไม่ได้ซ้ำๆ กันประโยคเดียวว่า พ่อเป็นผู้ให้กำเนิดๆ ๆ ๆ....
เราเอาข้อนี้มาคุยกันให้ละเอียด จากการให้กำเนิดพ่อต้องเลี้ยงดู ให้การศึกษา จนถึงปัจจุบันให้งานทำ ล้วนเป็นความดีทั้งนั้น
ผมขอให้เขาเขียนคำขอบคุณในความดีของพ่อมา และให้เขาอ่านซ้ำๆ ในการพบกันครั้งต่อไป
เขาบอกว่าเขาฝืนอ่าน ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก การฝืนทำสิ่งดีๆ จะเกิดประโยชน์แน่ และก็เป็นจริงเพราะเขารู้สึกซึมไป อ่อนโยนขึ้นเมื่อพูดถึงพ่อ
ผมขอให้เขาเขียนถึงสิ่งที่เขารู้สึกและทำไม่ดีกับพ่อมาให้ดู เขาเขียนได้หลายข้อ
ผมขอให้เขาเขียนคำขอโทษพ่อในสิ่งที่เขาทำไม่ดีหรือคิดไม่ดีกับพ่อ เขาบอกว่าเขาต้องฝืนเขียนให้ แต่เขาก็เขียนได้
ผมขอให้เขาอ่านซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง ทั้งคำขอบคุณและคำขอโทษพ่อในครั้งต่อๆ ไปด้วย
ผมสังเกตว่าเขาสบายใจขึ้น มีความสุขมากขึ้น
การที่เราสามารถมองเห็นความดีของคนอื่นและกล้าขอบคุณเขาได้ แสดงว่าเรารู้สึกซาบซึ้งในความเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนอื่น
และการที่เรากล้าพูดถึงความบกพร่องของตัวเราที่กระทำต่อเขา และกล้าขอโทษเขา แสดงว่าเรายกโทษให้เขาได้ (ในสิ่งที่เราไม่ชอบทั้งหลายในอดีต) โดยเราตัดสินใจที่จะไม่ยึดติดกับการกล่าวโทษเขา เราจะปล่อยวาง ทำอดีตให้เป็นอดีต และเลือกที่จะมีความสบายใจ จึงเป็นการเพิ่มวุฒิภาวะของจิตใจได้ดี
ตอนนี้...ลองคิดดูซิ คุณรู้สึกเกลียด โกรธใครบางคนใกล้ๆ ตัวคุณมากๆ บ้างไหม และคุณไม่สามารถอภัยเขาได้ด้วย มันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณไม่มีความสุขจนกลายเป็นโรคภูมิแพ้ชีวิตก็ได้
ขอให้ลองทำตามที่ผมเขียนให้อ่านนี้ แม้จะไม่กล้าบอกขอบคุณและขอโทษเขาโดยตรง ก็ขอให้เอ่ยปากพูดคนเดียวก็ได้ หลายๆ ครั้งด้วย
โรคภูมิแพ้ชีวิตจะลดลง
และจะมีความสุขมากขึ้น....จริงๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี