การทำหมัน หรือการคุมกำเนิดแบบถาวร เป็นวิธีที่สัตวแพทย์แนะนำ เนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าการใช้ยาฉีดคุมกำเนิด และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาด้านระบบสืบพันธุ์ในทั้งเพศผู้และเมียได้ ไม่ว่าจะเป็นมดลูกอักเสบ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกและรังไข่ในเพศเมีย รวมถึงโรคต่อมลูกหมากโต และมะเร็งต่อมลูกหมากในสัตว์เพศผู้ เป็นต้น อีกด้วย
เมื่อเราตัดสินใจจะพาสุนัขหรือแมวไปทำหมันแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าเรามีขั้นตอนในการเตรียมตัวสัตว์เลี้ยงของเราอย่างไร วันนี้ผมมีข้อมูลดีๆ จาก สพ.ญ.ธิติดา ภักดีเสน่หา แผนกสูติกรรม โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาแนะนำครับ
@การผ่าตัดทำหมันในสุนัขและแมว เป็นอย่างไร
การทำหมันในสัตว์เลี้ยงนั้นจะแตกต่างจากในคน โดยที่ในคนจะใช้การผูกและตัดท่อนำไข่และท่อนำอสุจิ ส่วนในสุนัขและแมวเพศผู้นั้น จะทำการผ่าตัดอัณฑะทั้ง 2 ข้างออก (Castration) ส่วนในสุนัขและแมวเพศเมีย ใช้วิธีการผ่าตัดทั้งรังไข่และมดลูกออกที่เรียกว่า Ovariohysterectomy (OVH)
@สุนัขและแมวจะเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาวเมื่ออายุเท่าไหร่
โดยปกติแล้วในสุนัขเพศเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่อายุประมาณ 6-9 เดือนและอายุ 4-12 เดือน ในแมวเพศเมีย ส่วนในสุนัขและแมวเพศผู้นั้นจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 6-7 เดือน
@สุนัขและแมวอายุเท่าไหร่ จึงจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดทำหมันได้
จริงๆ แล้วสุนัขและแมวสามารถเข้ารับการทำหมันได้ในเกือบทุกช่วงอายุหากได้รับการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์แล้วพบว่ามีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรับการวางยาสลบและทำการผ่าตัดได้ แต่ในปัจจุบันมีงานวิจัยพบว่าการทำหมันตั้งแต่ก่อนวัยหนุ่มสาว จะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคในระบบสืบพันธุ์ได้ดังที่ได้กล่าวไปในตอนต้น
ซึ่งการทำหมันก่อนวัยเจริญพันธุ์นั้น เราสามารถทำได้ตั้งแต่สัตว์เลี้ยงอายุ 3 เดือนขึ้นไป แต่แนะนำว่าเมื่อทำวัคซีนครบแล้วจะเหมาะที่สุด และไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัดที่อายุน้อยกว่านี้เนื่องจากจะมีความเสี่ยงในการวางยาสลบสูงครับ
@มีขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำหมันอย่างไร
เมื่อตัดสินใจจะทำหมันให้สัตว์เลี้ยงแล้ว ขั้นตอนการเตรียมตัวสัตว์ก่อนการผ่าตัดมีดังนี้
1.ทำการตรวจสุขภาพร่างกายของสัตว์
ต้องมั่นใจว่ามีความพร้อมต่อการวางยาสลบหรือไม่ สัตว์เลี้ยงของเราจะต้องมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หากเป็นสุนัขเพศเมีย ต้องไม่อยู่ในช่วงแสดงอาการเป็นสัด เนื่องจากจะมีความเสี่ยงในการเสียเลือดจากการผ่าตัดมากกว่าปกติ และที่สำคัญสัตว์เลี้ยงต้องไม่อยู่ในช่วงตั้งท้องทำการตรวจเลือดเพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด และค่าทางเคมีของเลือดเพื่อประเมินสุขภาพ
อาจมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมตามความจำเป็น เช่น การ X-ray, Ultrasound รวมถึงการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
2.งดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัด
ในคืนก่อนวันนัดผ่าตัด จะต้องงดน้ำและอาหารก่อน โดยจะต้องงดอาหารและน้ำก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง
@หลังการผ่าตัด ต้องดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างไร
เมื่อรับการผ่าตัดทำหมันเสร็จแล้ว การดูแลสัตว์เลี้ยงหลังจากการผ่าตัดมีความสำคัญมาก เพราะหากดูแลไม่ดี อาจเกิดปัญหาภายหลังการผ่าตัดได้ การดูแลหลังผ่าตัดตั้งแต่ชั่วโมงแรกหลังจากที่ออกจากห้องผ่าตัดและพาสัตว์เลี้ยงกลับบ้าน มีหลักการดังนี้
- ต้องให้สัตว์อยู่ในที่ที่อบอุ่นให้นอนในท่าที่หายใจสะดวก นอนเหยียดลำคอ ไม่ให้สัตว์นอนคอพับ เนื่องจากจะทำให้หายใจลำบากจนอาจเสียชีวิตได้
- พาสัตว์เลี้ยงไปทำแผลและฉีดยาลดปวดหลังผ่าตัดติดต่อกันอย่างน้อย 2-4 วัน ตามที่สัตวแพทย์แนะนำ
- ป้องกันสัตว์เลี้ยงไม่ให้เลียแทะแผล โดยการใส่ปลอกคอกันเลีย (elizabethan collar) หรือเราอาจใส่เสื้อผ้าเพื่อป้องกันแผลผ่าตัดก็ได้
- ป้องกันไม่ให้แผลเปียกน้ำ หรือกันไม่ให้สัตว์เลี้ยงไปนอนในที่ชื้นแฉะ
- โดยปกติแล้ว แผลผ่าตัดจะหายเป็นปกติและสามารถตัดไหมได้ภายใน 7-10 วัน หลังผ่าตัด
@ประโยชน์ของการทำหมันมีอะไรบ้าง
การทำหมันมีประโยชน์ทั้งต่อตัวสัตว์เลี้ยงเอง ต่อผู้เลี้ยง และต่อสังคมหลายด้าน ได้แก่
- เป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร จึงช่วยคุมประชากรและช่วยลดปัญหาสุนัขจรจัดได้
- ช่วยลดอุบัติการการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าและโรคติดเชื้อไวรัสอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันในช่วงติดสัด
- ช่วยป้องกันโรคที่ติดต่อจากการผสมพันธุ์ เช่น แท้งติดต่อ brucellosis มะเร็งอวัยวะเพศชนิด VG
- ป้องกันโรคและความผิดปกติทางระบบสืบพันธุ์ เช่น มดลูกอักเสบ เนื้องอกรังไข่ ถุงน้ำที่รังใข่ และมดลูกในสัตว์เลี้ยงเพศเมีย เนื้องอกอัณฑะในสัตว์เพศผู้ และโรคต่อมลูกหมากโต Benign Prostatic Hypertrophy (BPH) ในสุนัขเพศผู้
- ลดโอกาสการเกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์ เช่น เนื้องอกช่องคลอดในสัตว์เพศเมีย และการเกิดเนื้องอกเต้านมในสัตว์เพศเมียโดยจะลดโอกาสการเกิดได้มากหากทำหมันก่อนการเป็นสัดครั้งแรก
- ลดความรำคาญจากเสียงร้องในช่วงติดสัดของแมวเพศเมีย
- ลดพฤติกรรมการปัสสาวะเพื่อแสดงอาณาเขตของสุนัขและแมวเพศผู้
- ลดพฤติกรรมการหนีเที่ยวนอกบ้านของสัตว์เลี้ยงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์
@ปัญหาที่อาจพบภายหลังการทำหมันมีอะไรบ้าง
ผลข้างเคียงจากการทำหมัน ที่อาจพบได้มีดังนี้
- สัตว์เลี้ยงอาจมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น (Overweight) ภายหลังการผ่าตัดทำหมันได้ เนื่องจากระบบเผาผลาญมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก และความอยากอาหารมากขึ้นโดยในเฉพาะสุนัขเพศเมีย เจ้าของสัตว์ควรคำนึงถึงเรื่องของอาหารควรปรับโภชนาการให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสุนัขภายหลังการผ่าตัดและเพิ่มการออกกำลังกายของสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น
- ภาวะปัสสาวะเล็ดหลังทำหมัน (Urinary Incontinence) ซึ่งอาจพบได้5-20% ในสุนัขเพศเมียที่ทำหมันแล้ว โดยเฉพาะสุนัขที่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัมซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลังการทำหมันส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผนังกระเพาะปัสสาวะ หูรูด และท่อปัสสาวะ ทำงานได้ไม่สมบูรณ์เหมือนเดิมจึงมีผลต่อการควบคุมปัสสาวะ
ขอขอบคุณโครงการ SmartVetSmartSociety และคลินิกสูติกรรมโรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี