Tim Stokely (ทิม สโตกลีย์) เป็นคนก่อตั้งแพลตฟอร์ม OnlyFans ขึ้นมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว (2016) ปัจจุบันเขาอายุ 38 ปี และมีตำแหน่งเป็น CEO ของแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งทำรายได้ในปี 2020 ที่ผ่านมา สูงถึง 400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.3 หมื่นล้านบาท สร้างยอดการเข้าใช้บริการ 160 ล้านสมาชิกต่อเดือน สร้างยอดขายกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อวัน โดย 20% ของยอดขายทั้งหมดจะกลายเป็นรายได้ของบริษัทแพลตฟอร์มออนไลน์สัญชาติอังกฤษนี้
“ตอน OnlyFans เปิดตัว เราตั้งใจสร้างขึ้นมา เพื่อให้สมาชิก (Creators) สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้ทุกประเภท เพราะมีสมาชิกจำนวนมากได้สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจอยู่มากมายบนสื่อสังคมออนไลน์แบบฟรีๆ และเราก็เห็นว่า การตลาดที่ใช้บุคคลที่มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นจะมีรายได้จากสินค้าหรือบริการที่ให้ความสนับสนุน ดังนั้น เราจึงสร้างแพลตฟอร์มในรูปแบบที่คล้ายกัน แต่เพิ่มปุ่มให้กดจ่ายเงินตรงสู่สมาชิกที่สร้างสรรค์เนื้อหาได้โดยตรง ซึ่งก็ถือเป็นการสร้างรายได้จากเนื้อหานั้นอย่างแท้จริง”
นี่เป็นความตั้งใจเริ่มแรกของทิม สโตกลีย์ แม้ว่าก่อนหน้าที่เข้ามาจับธุรกิจ OnlyFans เขาจะเคยสร้างเว็บไซต์แนว 18+ มาแล้วก็ตาม แต่ในช่วง 2 ปีแรกทิศทางของ OnlyFans ก็ยังไม่เป็นที่สนใจของตลาดมากนักจนเมื่อ Leonid Radvinsky (ลีโอนิดราดวินสกี) นักธุรกิจเชื้อสายอเมริกัน-ยูเครน เข้ามาปรับโฉมแพลตฟอร์มนี้ ให้เข้าสู่เนื้อหาวาบหวิวแบบเต็มตัว และวางกรอบสร้างสังคมของหนังผู้ใหญ่ในรูปแบบ Handmade คือ ลูกค้าจ่ายเงินตรงต่อสมาชิกผู้สร้างเนื้อหาอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็น ด้านความปลอดภัยในการปกป้องเนื้อหา ความสะดวกในการรับรายได้ของสมาชิก และการจ่ายเงินของลูกค้า รวมไปถึงองค์ประกอบทางเทคนิคที่ทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับทุกกลุ่ม หลังจากนั้นแพลตฟอร์ม OnlyFans ก็สร้างปรากฏการณ์ทางออนไลน์ขึ้นมา มีสมาชิกร่วมสร้างเนื้อหาในแบบหนังผู้ใหญ่หรือแสดงเรือนร่างวาบหวิว ซึ่งสังคมทั่วไปเรียกว่า Sex Creator รวมไปถึงการสร้างเนื้อหาในแนวอื่นๆ มากกว่า 4 แสนสมาชิก และเกิดลูกค้าที่จ่ายเงินเพื่อติดตามผลงานต่างๆ มากถึง 24 ล้านคนทั่วโลก ในปี 2019 จวบจนปัจจุบัน (2021) OnlyFans มีสมาชิก Creator 1 ล้านราย และผู้ใช้งานกว่า 85 ล้านคนทั่วโลกไปแล้ว
เอาล่ะ เมื่อว่ากันถึงที่มาที่ไปเรียบร้อย ก็มาสู่ประเด็นที่เป็นปัญหา เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา (2021) ทางคณะประชาสัมพันธ์ของ OnlyFans ได้ออกมาเผยแพร่นโยบายใหม่ของแพลตฟอร์ม ในเรื่องการห้าม Sex Creator สร้างเนื้อหาล่อแหลมลงเว็บไซต์เพื่อสร้างรายได้อีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีนี้
“เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของเว็บไซต์ ว่าจะทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวและเพื่อขับเคลื่อนพื้นที่ในการอยู่ร่วมกันของผู้ผลิตเนื้อหา และแฟนคลับต่อไปเราจึงต้องขอปรับปรุงแนวทางการให้บริการเนื้อหาเหล่านี้” นี่เป็นส่วนหนึ่งของคำชี้แจงจากทาง OnlyFans แต่ลึกลงไปในความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ว่ากันว่า เกิดจากความกดดันของเหล่าบริษัทที่ให้บริการบัตรเครดิตต่างๆ ซึ่งเป็นช่องทางหลักและสำคัญมากในการลำเลียงเงินจากลูกค้าสู่เว็บไซต์ OnlyFans เนื่องจากบริษัทให้บริการบัตรเครดิตเหล่านี้ ถูกกระแสสังคม และหน่วยงานด้านความปลอดภัยและความมั่นคงทางจากภาครัฐในประเทศต่างๆให้เหตุผลทางลบต่อความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของ OnlyFans สู่การสร้างปัญหาที่มีอันตรายร้ายแรงทั้งในเรื่องการคุกคามทางเพศ การละเมิดสิทธิเด็ก และการก่ออาชญากรรมทางออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจะทำบริษัทเหล่านั้นเกิดทัศนคติที่ไม่ดีจากสังคม และความสุ่มเสี่ยงในเรื่องกฎหมายจากทางภาครัฐ
ก่อนหน้านี้ เคยมีกรณีที่คล้ายกันอย่างเว็บไซต์ Pornhub ที่เปิดให้บริการสร้างเนื้อหาแบบหนังผู้ใหญ่ได้เอง เพื่อเรียกรับเงินจากสมาชิกที่สมัครเสียเงินเพื่อรับชม โดยมีการเก็บค่าบริการแพลตฟอร์มตามกติกาที่กำหนด แน่นอนว่า มี Sex Creator มาเข้าร่วมผลิตเนื้อหา 18+ อย่างล้นหลาม แต่ประเด็นก็คือ นอกเหนือไปจากการไม่สามารถป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน และเด็กได้แล้ว นักสร้างเนื้อหาใน Pornhub ดันนำเสนอเนื้อหาที่เป็นอันตราย และละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ รวมไปถึงการแสดงกระบวนการทำผิดกฎหมายอย่างเปิดเผย
“ภายใต้สถิติการเข้าชมที่สูงมากนั้น กลับซ่อนไปด้วยเนื้อหาคลิปที่มีการข่มขืนเอาไว้ เว็บไซต์นี้มีการสร้างรายได้จากการข่มขืนเด็ก คลิปโป๊เปลือยอันถูก
นำมาปล่อยเพื่อแก้แค้น ภาพจากกล้องแอบถ่ายผู้หญิงกำลังอาบน้ำ เนื้อหาเหยียดเชื้อชาติ และสตรี รวมไปถึงคลิปผู้หญิงถูกทำให้ขาดอากาศหายใจในถุงพลาสติก ที่สำคัญ มีการพิมพ์ค้นหาคำว่า เด็กผู้หญิง ต่ำกว่า 18 ปี หรือ 14 ขวบ บนเว็บไซต์กว่าแสนครั้ง แม้ว่าผู้หญิงจำนวนมากไม่ใช่เด็ก แต่จำนวนไม่น้อยในนั้น คือ เยาวชน”
นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งจากบทความของ Nicholas Kristof (นิโคลาส คริสตอฟ) ที่ได้รับการเผยแพร่ใน The New York Times ซึ่งทำการเปิดเผยความจริงอันเกิดขึ้นในเว็บไซต์ของ Pornhub นอกจากนั้น มีผู้หญิงที่ได้รับความเสียหายอีกหลายคนออกมาเรียกร้องให้แพลตฟอร์มดังกล่าว ลบเนื้อหาที่มีภาพเธอปรากฏโดยไม่ได้รับอนุญาต และหลายเนื้อหาก็กลายเป็นคดีความต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของลูกสาววัย 15 ปีที่หายตัวไป แต่ดันมาปรากฏอยู่ใน Pornhub กับฉากที่เธอถูกข่มขืน จนแม่ของเธอมีโอกาสมาเห็น หรือคลิปแบล็คเมล์จากการข่มขืนผู้หญิงคนหนึ่ง แม้คดีความจะจบสิ้นไปแล้ว แต่ภาพของเธอถูกเผยแพร่ซ้ำอย่างต่อเนื่องซึ่งนี่เป็นตัวอย่างแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ยังมี“ความมืดดำ และอาชญากรรมทางเพศ”อีกมากมายที่ได้รับการนำเสนอผ่าน Pornhub และสามารถเข้าถึงได้ง่ายเพียงแค่การจ่ายเงินเท่านั้น
แม้ว่าทาง Pornhub จะลบสมาชิกSex Creator ที่ผลิตหรือนำเสนอเนื้อหาอันสุ่มเสี่ยง รวมไปถึงสมาชิกที่ไม่ได้ระบุตัวตนไปแล้ว พร้อมคลิปกว่า 10 ล้านเนื้อหา จาก 13.5 ล้านเนื้อหา และประกาศนโยบายใหม่ สร้างพื้นที่ในการเข้าเป็นสมาชิก Sex Creator ที่โปร่งใสขึ้นหลังจากบริษัทบัตรเครดิตปฏิเสธการเข้าร่วมสร้างธุรกรรมทางการเงินและภาครัฐในประเทศต่างๆ ใช้มาตรการในการเข้าไปร่วมตรวจสอบ และดำเนินคดีความในเนื้อหาอันสุ่มเสี่ยงก็ตาม แต่บางประเทศก็ยังคงปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์นี้ และในบางประเทศที่ยังคงเปิดให้ใช้บริการอยู่ ก็ถูกภาคประชาสังคมทำการตรวจสอบอย่างเข้มข้นและสนับสนุนการฟ้องร้องจากผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ภายใต้ความหวังที่ภาครัฐจะสั่งระงับการให้บริการต่อไป
สำหรับ OnlyFans เมื่อเปรียบเทียบกับ Pornhub แล้ว ต้องถือว่ามีความรัดกุมในการคัดกรองสมาชิกที่ผลิตเนื้อหา และการเข้ารับชมมากกว่า และเป็นระบบที่มีมาตรฐานในการตรวจสอบ กระนั้น ความสุ่มเสี่ยงในทางกฎหมายแบบเดียวกันก็ยังปรากฏให้เห็น จนเกิดหลายคดีความตามมา และเนื้อหาที่ถูกคัดลอกออกมาจากเว็บไซต์ ก็ทำให้การเข้าถึงผ่านการคัดกรองที่เป็นระบบไปได้อย่างน่าเป็นกังวลสำหรับผู้ปกครอง แม้ว่าทาง OnlyFans จะอ้างว่า เนื้อหาที่นำเสนอในเว็บไซต์ยังคงมีความหลากหลายในด้านอื่นๆ อีกมากมาย และการตกลงด้านกฎหมายกับบริษัทบัตรเครดิตได้สำเร็จ จนยกเลิกการแบนSex Creator ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้แล้ว แต่เชื่อว่า สังคมทั่วโลกยังคงไม่วางใจ ในเมื่อความอ่อนไหวเรื่องเพศ และความปลอดภัย ยังคงเป็นหัวใจของการให้เกียรติที่ควรมีต่อกัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี