“กำไรฟื้นตัวแข็งแกร่ง”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) อัปเดตธุรกิจกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ผลประกอบการ 1Q68 น่าประทับใจและคาด 2Q-3Q น่าจะคงแข็งแกร่งต่อทั้ง CH Karnchang (CK)และ STECON Group (STECON)รายงานกำไร 1Q68 หลักๆมาจากอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นและการควบคุมค่าใช้จ่าย STECON มีเงินปันผลรับก้อนใหญ่ใน 1Q68ด้วยมองระยะถัดไปเมื่อเข้าสู่ 2Q-3Qด้าน CK น่าจะโดดเด่นจากเงินปันผลรับจำนวนมากใน 2Q-3Q เรายังคาดมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางใน 3Q68 ส่วนSTECON แม้ว่าจะไม่มีเงินปันผลรับช่วงดังกล่าวแต่กำไรก็น่าจะแข็งแกร่งจากการธุรกิจหลักที่ดีขึ้นและเป็นไปได้ที่มีรายได้จากค่าเคลมประกันและกำไรจากการปรับโครงสร้างการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง
STECON ณ ปัจจุบันได้ลงนามในสัญญารับเหมาก่อสร้างใหม่มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท (50% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 5 หมื่นล้านบาท)มาจากโครงการ data center มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท, โครงการทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 มูลค่า 2.7 พันล้านบาท และโครงการ CFP ของ Thai Oil (TOP) มูลค่า 7.4 พันล้านบาท ส่วน CK ยังไม่ได้งานสัญญาใหม่ ขณะที่ backlog รวมกันของทั้ง STECON และ CK สูงราว 3 แสนล้านบาท ณ สิ้น 1Q68 นอกจากโครงการภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นมูลค่าราว 2.4 แสนล้านบาท ก็กำลังรอเปิดประมูลใน 2H68 โดยSTECON หวังจะได้โครงการเอกชนมูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาทเพิ่ม ขณะที่ CK หวังที่จะได้งานโครงการทางด่วนสองชั้นมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท แม้ว่าอาจมีปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการประมูล แต่STECON ก็น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 5 หมื่นล้านบาทจากสัญญาใหม่ที่ลงนามในปีนี้ โครงการศูนย์การบินอู่ตะเภาของ UTA ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า (JV) ของ STECON มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาทก็น่าจะคงอยู่ในสถานะที่รอดำเนินการได้จนกว่าแผนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะเดินหน้าต่อไป
เราเริ่มเห็นกำไรที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งใน 1Q68 และน่าจะดีต่อเนื่อง เราประมาณการกำไรสุทธิรวมปี 2568F อยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท คาดกำไรจะเติบโตอีก 25% YoY ในปี 2569F ส่วน upside ที่ยังไม่ได้รวมเข้าไว้ในประมาณการสำหรับ CK คือกำไรบางส่วนจากการขายเงินลงทุนในโครงการเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ขณะที่ STECON คือค่าเคลมประกันมูลค่า 1 พันล้านบาท จากโครงการป้องกันน้ำท่วมบึงหนองบอนและกำไรจากการปรับโครงสร้างการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง
ปัจจุบันเราให้คำแนะนำซื้อ ทั้ง CK และ STECON ราคาเป้าหมายของเราสำหรับ CK อยู่ที่ 18.50 บาท ส่วนราคาเป้าหมย SOTP ของ STECON อยู่ที่ 9.60 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากความรวดเร็วในอัตราการเติบโตของ GDP ความล่าช้าจากการอนุมัติของคณะรัฐมนตรีและการเริ่มดำเนินการโครงการใหม่ ๆ การแก้ไขสัญญาต่าง ๆ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และการปรับเพิ่มขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี