หลายท่านคงจะเคยประสบปัญหาในการป้อนยาสัตว์เลี้ยง บางรายป้อนสำเร็จก็ถือว่าดีไป แต่หลายรายที่ป้อนไม่สำเร็จนี่สิ คงจะเป็นเรื่องลำบากใจแน่ๆ วันนี้เรามีคำแนะนำจาก ผศ.สพ.ญ.ดร. นิภัทรา สวนไพรินทร์ และ รศ.สพ.ญ.ดร.ปิยะรัตน์ จันทร์ศิริพรชัย ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกี่ยวกับวิธีการให้ยาแก่สัตว์เลี้ยงตามชนิดและประเภทของยามาฝากครับ
การให้ยาชนิดเม็ด
• ประคองบริเวณปากด้านล่างให้สัตว์เงยหน้าขึ้น ในขณะเดียวกันเปิดปากด้านบนของสัตว์ออกอย่างช้าๆ
• ค่อยๆ วางยาชนิดเม็ดลงที่โคนลิ้น และปิดปากของสัตว์อย่างรวดเร็ว จากนั้นลูบบริเวณลำคอเพื่อกระตุ้นให้สัตว์กลืนยา
• จับปากสัตว์ให้ปิดอยู่เช่นนั้น พร้อมกับการลูบบริเวณลำคอต่อไปเพื่อให้สัตว์กลืนยาจนหมด
• หากป้อนยาโดยตรงไม่ได้ อาจใช้วิธีซ่อนยาในอาหารหรือขนมที่สัตว์ชอบ โดยที่เมื่อป้อนคำแรกแล้วให้รีบป้อนคำที่ 2 เพื่อให้สัตว์รีบกลืนอาหารคำแรก แล้วมารอกินอาหารคำที่ 2 ก่อนที่สัตว์เลี้ยงจะรู้ว่ามียาซ่อนในอาหาร
คำแรกครับ
การให้ยาชนิดน้ำ
• อุปกรณ์ทีใช้ป้อนคือ กระบอกฉีดยา หรือ syringe นั่นเอง
•ใช้กระบอกฉีดยาดูดยาชนิดน้ำให้ได้ปริมาตรตามที่สัตวแพทย์กำหนดประคองคางให้สัตว์เงยหน้าเล็กน้อย จากนั้นป้อนโดยการสอดกระบอกฉีดยาเข้าทางข้างๆ ปากบริเวณกระพุ้งแก้มค่อยๆ โดยป้อนให้ยาเข้าไปอย่างช้าๆ ลูบคอเพื่อกระตุ้นให้กลืนเป็นระยะ
• ไม่ควรป้อนยาลงไปในลำคอโดยตรง เพราะอาจทำให้สำลักได้
หมายเหตุ : กรณีการให้ยาชนิดเม็ดและชนิดน้ำนี้ หากพบว่าเกิดปัญหาเช่น ป้อนยาไม่ได้ สัตว์กินยาได้แต่อาเจียนออกมาหมด หรือมีปัญหาอื่นใดเกิดขึ้น ควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
การให้ยาหยอดตาและยาป้ายตา
• สำหรับ ยาหยอดตา ควรหยอดตาครั้งละ 1-2 หยด โดยประคองคางให้สัตว์เงยหน้าขึ้น แล้วเปิดหนังตาล่างออกเล็กน้อย จากนั้นหยอดยาลงที่ด้านในของหนังตาล่างบริเวณหัวตา
• สำหรับยาป้ายตา ให้ทำการป้ายตั้งแต่หัวตาไปทางหางตา
• ข้อควรระวังคือ อย่าให้ปลายหลอดยาสัมผัสหรือโดนลูกตาเพราะอาจเกิดอันตรายต่อกระจกตาจนเกิดการติดเชื้อได้
หมายเหตุ : เจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ควรซื้อยาหยอดตามาใช้กับสัตว์ที่ไม่ได้ทำการตรวจวินิจฉัยโรคจากสัตวแพทย์เป็นอันขาด เพราะการใช้ยาไม่เหมาะสมกับโรค
ที่เป็นอาจทำให้สัตว์ตาบอดได้
ยาหยอดหู
• อาจต้องทำความสะอาดใบหูด้านในก่อน แล้วดึงใบหูทั้ง 2 ข้างให้ตั้งขึ้น
• หยอดยาลงไปในหูให้ครบจำนวนหยดตามที่สัตวแพทย์แนะนำ
• นวดบริเวณโคนหูเบาๆ เพื่อให้ยากระจายทั่วช่องหู
หมายเหตุ : ห้ามใช้แอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลมาเช็ดหูสัตว์เพราะทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้นได้ ทั้งนี้ ไม่ควรล้างหูบ่อยเกินไปเพราะจะทำให้หูอักเสบได้ แนะนำให้ล้างหูให้สัตว์เลี้ยงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอครับ
การให้ยาป้องกันเห็บ-หมัดแบบหยดบนผิวหนัง (spot-on)
• ตำแหน่งที่แนะนำให้หยดยาคือ บริเวณหลังคอ ระหว่างไหล่ทั้งสองข้าง
• หยดยาตามปริมาตรที่สัตวแพทย์แนะนำ โดยใช้นิ้วแหวกขนและหยดลงบริเวณผิวหนัง (ไม่ใช่หยดลงไปที่ขน)
• ระวังอย่าให้สัตว์เลียตัว หรือเอาหลังไปถูกับพื้น หรือถูตัวกับสัตว์ตัวอื่น จนกว่าบริเวณที่หยดจะแห้ง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง
• ก่อนใช้และหลังใช้ยาหยดบนผิวหนัง จะต้องมีระยะเวลาการงดอาบน้ำ ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละผลิตภัณฑ์ยา เจ้าของสัตว์ต้องปฏิบัติตามที่สัตวแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดครับ
• ให้ใช้ยา 1 หลอดต่อสัตว์หนึ่งตัว ไม่ควรแบ่งยา เพราะการแบ่งยา 1 หลอดให้สัตว์หลายตัวอาจทำให้สัตว์แต่ละตัวได้รับยาไม่ครบขนาดยาที่จะมีฤทธิ์ป้องกันเห็บ-หมัดได้
• ควรใช้ยาเป็นประจำทุกเดือนเพื่อประสิทธิผลที่ดีของยา
วิธีการเก็บรักษายาสัตว์
ในการเก็บรักษายาสัตว์นั้น มักกำหนดวิธีเก็บรักษายาไว้ที่ฉลากยาหรือเขียนระบุไว้ข้างกล่องบรรจุ โดยทั่วไปแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเก็บรักษายามีดังนี้
• อุณหภูมิ เก็บยาตามคำแนะนำ เช่น ถ้าระบุไว้ว่าเก็บที่อุณหภูมิห้องหมายถึง 15-25 องศาเซลเซียส เก็บในที่เย็นหมายถึง 5-15 องศาเซลเซียส เก็บในที่เย็นจัดหมายถึง 2-5 องศาเซลเซียส
• ควรเก็บยาในที่ๆ ไม่ถูกแสงแดดโดยตรง เนื่องจากยาบางชนิดจะเสื่อมฤทธิ์เมื่อโดนแสง
• ควรมี สารดูดความชื้น ใส่ลงไปในภาชนะบรรจุยาที่มีฝาปิดสนิทไม่ควรแกะยาออกมาจากแผงฟอยล์ที่หุ้มยาก่อนใช้
• อายุของยา ยาบางชนิดมีอายุสั้น จะมีวันยาหมดอายุระบุไว้ที่ภาชนะบรรจุ แต่อายุยาอาจสั้นลงเมื่อมีการเปิดใช้หรือเก็บไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม โดยทั่วไปยาน้ำมีอายุ 6 เดือนหลังเปิดใช้ สำหรับยาผงที่ต้องผสมน้ำก่อนใช้นั้น ควรใช้ยาที่ผสมแล้วให้หมดภายใน 1 สัปดาห์ และไม่ควรนำยาที่เหลือมาใช้ซ้ำ ส่วนยาตาและยาหูส่วนใหญ่มีอายุ 1 เดือนหลังเปิดใช้
การเก็บรักษายา ขณะพาสัตว์ไปท่องเที่ยว ควรจัดเตรียมยาไปให้เพียงพอสำหรับการเดินทางในแต่ละครั้ง ระวังเรื่องอุณหภูมิภายในรถไม่ให้ร้อนจัดจนเกินไป หากเก็บยาไว้ในรถ ควรหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดเป็นเวลานานโดยไม่จำเป็น หากต้องจอดรถตากแดดให้นำยาออกจากรถติดตัวไปด้วยครับ
“หมอโอห์ม”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี