แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn “ปัญญา” แปลตามพยัญชนะว่าความรู้ทั่ว ตามอรรถะหมายความได้หลายอย่าง อย่างหนึ่ง คือความรู้ทุกอย่างทั้งที่เล่าเรียนจดจำมา ที่พิจารณาใคร่ครวญคิดเห็นขึ้นมา และที่ได้ฝึกฝนอบรมให้คล่องแคล่วชำนาญขึ้นมาในตัวเอง อีกอย่างหนึ่ง เมื่อมีความรู้ความจัดเจนชำนาญในวิชาต่างๆ ดังว่า จะยังผลให้เกิดความเฉลียวฉลาดขึ้นในตัวบุคคล แต่ประการสำคัญคือความรู้ที่ผนวกกับความเฉลียวฉลาดนั้น จะรวมกันเป็นความสามารถพิเศษขึ้น คือความรู้จริงรู้แจ้งชัด รู้ตลอดในสิ่งที่ได้มีโอกาสศึกษา ซึ่งจะให้ผลต่อไปเป็นความรู้เท่าทัน เป็นต้นว่ารู้เท่าทันความคิดจริต ทฤษฎี และเจตนาของคนทั้งปวงที่สมาคมด้วย รู้เท่าทันเหตุการณ์ สภาพการณ์ทั้งหลายที่ผ่านพบ เมื่อรู้เท่าทันแล้ว ก็จะรู้จะเห็นแนวทางและวิธีการ ที่จะหลีกเลี่ยงให้พ้นอุปสรรคปัญหา และความเสื่อม ความล้มเหลวทั้งปวงได้ แล้วดำเนินไปตามทางที่ถูกต้องเหมาะสม จนบรรลุความสำเร็จและความเจริญวัฒนาที่มุ่งหมายไว้... (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 14 กรกฎาคม 2521)
...nn เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.11 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต มีพระราชดำรัสแก่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ล่าสุด 14 คน ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในโอกาสถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง โดยมีความตอนหนึ่งว่า...บ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ประชาชนทุกคนต่างก็ต้องการความสุขและความมั่นคงปลอดภัย
...nn รัฐมนตรีหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเป็นครั้งแรก มีชื่อดังนี้ จตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฉันทวิชญ์ตันฑสิทธิ์ รมช.กระทรวงพาณิชย์ พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อนุชา สะสมทรัพย์ รมช.กระทรวงสาธารณสุข ชัยชนะเดชเดโช รมช.กระทรวงสาธารณสุข ลิณธิกรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนรัฐมนตรีอื่นๆ ที่เหลือก็เล่นเก้าอี้ดนตรีมาโดยตลอดเพราะสลับไปสลับมา กระโดดมากระโดดไป ส่วนหากจะดูว่าใครมีฝีไม้ลายมือในการบริหารกระทรวงใดมาก่อนนั้น ต้องไปขุดหาดู เพราะยังไม่เห็นว่าใครมีฝีมือดีเด่นดังสักคน ส่วนคำถามว่า แพทองธาร ชินวัตร จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้สักกี่วัน ก็ต้องรอดูว่าที่มีผู้ร้องเรียนเรื่องนี้ต่อประธานวุฒิสภา เพื่อให้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไปนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาเรื่องนี้ในวันใด แล้วผลจะออกมาในรูปใด
...nn แต่น่าอัศจรรย์ใจมากที่แพทองธารกล้ารับตำแหน่ง รมว. กระทรวงวัฒนธรรม ทั้งๆ ที่ตัวเองถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว เพราะมีผู้ร้องเรียนเรื่องจริยธรรมของนายกรัฐมนตรีอันเนื่องมาจากคลิปเสียงสนทนาระหว่างแพทองธารกับฮุนเซน แห่งกัมพูชา เพราะเมื่อนายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลฯ จะพิจารณาคดีเสร็จสิ้น ก็หมายความรวมถึงว่า แพทองธารต้องมีเรื่องน่าสงสัยในข้อกฎหมายในประเด็นจริยธรรมแล้วการที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็หมายถึงเป็นรัฐมนตรีคนหนึ่งด้วย เมื่อนายกรัฐมนตรีมีปัญหาด้านจริยธรรม แล้วทำไมจึงยังหาญกล้าท้าทายรับตำแหน่งรมช.กระทรวงวัฒนธรรม เรื่องแบบนี้หากไม่เรียกว่าท้าทายก็ไม่มีคำใดเหมาะสมยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อกล้าท้าทายก็จะได้รับรู้กันว่าการท้าทายกฎหมายทั้งๆ ที่ตนเองมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายน่าจะทุจริตประพฤติมิชอบ ก็คือการประกาศว่าฉันไม่เคารพกฎหมาย
...nn สว. สายสีน้ำเงิน หรือที่คอข่าวการเมืองเรียกว่า สว. สายพรรคภูมิใจไทยไม่มีทางปล่อยให้แพทองธารได้รับตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรมแบบสะดวกโยธินแน่นอน เพราะขาดคุณสมบัติตามข้อบังคับรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) โดยถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้แพทองธารยุติการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราวไปแล้ว ดังนั้น ดาบที่ สว. สายสีน้ำเงินต้องลงต่อไปคือเรื่องที่แพทองธารเสนอชื่อตัวเองเป็น รมว.วัฒนธรรม และจะโยงไปถึงสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่นำแพทองธาร เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ แล้วจะโยงไปถึงคณะรัฐมนตรีที่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ในขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาถอดถอนแพทองธารออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
...nn มหาเศรษฐีไทยที่ร่ำรวยติด 1-10 อันดับแรกของประเทศ ประจำปี 2568 มีดังนี้ 1.เฉลิม อยู่วิทยา มหาเศรษฐีไทยอันดับ 1 สองปีซ้อน มูลค่าสินทรัพย์ 4.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 2.ตระกูลเจียรวนนท์กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 3.สารัชถ์ รัตนาวะดี แห่ง GULF 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 4.เจริญ สิริวัฒนภักดี ไทยเบฟฯ 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 5.ตระกูลจิราธิวัฒน์ กลุ่มเซ็นทรัล 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 6.ตระกูลไชยวรรณ ไทยประกันชีวิต และธนาคารไทยเครดิต 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 7.ตระกูลศรีวัฒนประภาคิงเพาเวอร์ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 8.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กลุ่ม BDMS 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ9.เสถียร เสถียรธรรมะ (เศรษฐสิทธิ์) คาราบาวกรุ๊ป 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 10.พรเทพ พรประภา และครอบครัว กลุ่มสยามกลการ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
...nn ไหนๆ ก็พูดถึงมหาเศรษฐีไทย 1-10 อันดับแรกแล้วขอเพิ่มให้อีก 5 อันดับ คือ 11.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 12.วิชัย ทองแตง 2.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 13.ตระกูลโอสถานุเคราะห์ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 14.ชูชาติ เพ็ชรอำไพ และดาวนภา เพชรอำไพ (สามีภรรยาแต่ตั้งใจสะกดนามสกุลให้ต่างกัน เพราะเชื่อโชคลาง) เมืองไทยแคปปิตอล 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 15.สันติ ภิรมย์ภักดี 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
...nn จะพบว่ามหาเศรษฐีไทย อันดับที่ 11 มีหมวกของความเป็นอดีตนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินสวมอยู่ด้วย แล้วก็น่าสนใจมากยิ่งกว่าตรงที่อดีตนักโทษคดีอาญาแผ่นดินรายนี้เคยรวยติดอันดับต้นๆ ของไทย ในสมัยที่มีอำนาจการเมืองล้นฟ้าท่วมดิน แต่เมื่อหมดอำนาจรัฐ ก็กลับกลายว่าความมั่งคั่งหดหายไป ดังนั้นจึงทำให้มีคำถามว่าเพราะว่ามีอำนาจรัฐใช่หรือไม่ จึงทำให้บังเกิดความมั่งคั่งแบบมหัศจรรย์กับชีวิต แล้วช่วยตอบให้ชัดด้วยว่า ทำไมเวลาอำนาจรัฐหลุดจากกำมือของตนจึงทำให้ตกอันดับมหาเศรษฐีไปได้ แล้วก็ขอถามอีกคำถามคือ รวยแล้วไม่โกง จริงหรือ หรือในมุมกลับกันคือยิ่งมีอำนาจรัฐ ยิ่งรวย แล้วยิ่งโกง ใช่หรือไม่...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี