ในปัจจุบัน เรามักจะเห็นข่าวความรุนแรงที่เกิดขึ้นตามข่าว ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ที่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน มีการรุมทำร้ายกันต่างๆ นานา สาเหตุหนึ่งก็อาจจะมาจากการเสพสารเสพติด จากเครื่องดื่มมึนเมา รวมถึงความก้าวร้าวที่เกิดจากความรุนแรงในครอบครัวและสังคมรอบตัว
การนำสัตว์เลี้ยงมาเป็นสมาชิกในครอบครัว มาเป็นเพื่อนเล่นร่วมกับเด็กๆ ในบ้าน สามารถช่วยลดความรุนแรงและช่วยขัดเกลาให้เด็กนั้นเติบโตมาอย่างมีจิตใจที่อ่อนโยนมากขึ้นหรือไม่
ในปัจจุบันมีการใช้สัตว์เข้ามาช่วยในการบำบัดรักษาโรคซึมเศร้าเช่น การใช้ม้า(อาชาบำบัด) ช้าง โลมา สุนัข และแมว อีกด้วย(น่าจะเรียกว่า กุญชรบำบัด โลมาบำบัด สุนัขขาบำบัด และวิฬารบำบัดตามลำดับนะครับ)
โดยปกติแล้ว เด็กเล็กๆ จะชอบสัมผัสสิ่งที่มีความนุ่ม ฟู หรือการสัมผัส ตุ๊กตา การสัมผัสกับสัตว์จึงทำให้มีการนึกถึงความอบอุ่นทางจิตใจ และทำให้รู้สึกไม่ว้าเหว่ เกิดความอบอุ่นที่เสมือนการกอดระหว่างแม่กับลูก
โดยทั่วไปแล้ว พฤติกรรมของเด็กที่เกิดขึ้นนั้น จะมาจากเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมต่างๆ เมื่อพ่อแม่ไม่มีเวลามากพอที่จะสอนและดูแลก็ทำให้เด็กมีการเรียนรู้ผ่านช่องทางอื่นๆ เอง เช่น จากญาติ จากเพื่อนจากคนรอบตัว โดยเฉพาะจากสังคมออนไลน์ (จากมือถือที่ใกล้ชิดกับเด็กเกือบตลอดเวลา) ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการเรียนรู้ทางด้านที่ไม่ดีได้มาก ดังนั้น “การเลี้ยงสัตว์” จะเป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กเกิดการเรียนรู้โดยต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ให้เหมาะสมกับแต่ละครอบครัวด้วย
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า การเลี้ยงสัตว์ ช่วยให้เด็กมี EQ หรือคุณภาพทางอารมณ์ดี ช่วยให้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น เช่น การที่เด็กเห็นสุนัขวิ่งไปที่ประตูแล้วรู้ว่ามันต้องการออกไปข้างนอก จึงช่วยเปิดประตูให้ นั่นก็คือสิ่งที่สุนัขสอนเด็กใครเข้าใจความต้องการของผู้อื่น
นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยหลายชิ้นสรุปว่าสัตว์เลี้ยงสามารถช่วยผู้รักสัตว์ในทุกเพศวัย ช่วยคลายเครียดจากการสัมผัสได้ด้วย
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีประโยชน์ต่อการกล่อมเกลาจิตใจของเด็กอย่างไร?
เมื่อมีการสอนและการแนะนำในการเลี้ยงสัตว์จากพ่อแม่ จะทำให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์กัน ระหว่างครอบครัวมากขึ้น สอนให้เด็กมีจินตนาการ สอนให้รู้จักมิตรภาพรู้จักการให้ความรักและความห่วงใยผู้อื่น
ทั้งนี้ พ่อแม่ก็ไม่ควรแสดงความก้าวร้าวหรือดุด่าสัตว์เลี้ยง แต่ควรแสดงผ่าน“อวัจนภาษา” โดย ใช้ท่าทางและน้ำเสียงที่อ่อนโยนให้เด็กเห็นเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่ดี
การเลี้ยงสัตว์ จะเป็นการสอนเด็กให้มีความรักและความรับผิดชอบในการดูแลสัตว์เลี้ยง เห็นสัตว์เลี้ยงเป็นน้อง เป็นสมาชิกหนึ่งในครอบครัวต้องมีหน้าที่ในการให้อาหารพาไปเดินออกกำลัง เก็บสิ่งปฏิกูลต่างๆ และให้การดูแลไปจนถึงวาระสุดท้ายโดยไม่ทอดทิ้งเขา
การมอบหมายให้เด็กเป็นผู้ให้อาหารสัตว์ ให้เทอาหารเม็ดใส่ชามให้สัตว์ และให้พาเจ้าตูบไปเดินเล่นตามลำพัง (ในที่ไม่อันตราย) โดยไม่มีผู้ใหญ่เดินไปด้วย จะเป็นแผนการสอนให้เด็กรู้จักรับผิดชอบโดยอัตโนมัติ
กรณีสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยไม่สบาย ก็ต้องสอนให้รู้ว่า สัตว์และคนมีการเจ็บป่วยได้ และต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลรักษา
แม้แต่ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงเสียชีวิต ทั้งจากการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุก็ตาม เราก็ต้องสอนให้เด็กเข้าใจและการเรียนรู้วัฏจักรชีวิตเรียนรู้การสูญเสียและการจากลา ต้องสอนให้เด็กรู้จักการระมัดระวังอุบัติเหตุต่างๆ ทั้งของตนเองและของสัตว์เลี้ยง เช่น การพาสุนัขข้ามถนนก็เป็นการฝึกให้เขารู้สึกการให้ความคุ้มครองผู้ที่อ่อนแอกว่า
2. การเลือกสัตว์ให้เหมาะสมกับเด็กหรือครอบครัว
ไม่ควรนำสายพันธุ์ที่ดุร้าย ก้าวร้าว และอันตรายกับบ้านที่มีเด็กควรพิจารณาชนิดและสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมกับสถานที่ด้วยรวมถึงต้องพิจารณาด้วยว่าสัตว์เลี้ยงประเภทนั้นมีความต้องการเวลาในการดูแลเอาใจใส่มากน้อยแค่ไหน เช่น ปลาตู้ หนูแฮมสเตอร์ หนูตะเภากระรอก แมว สุนัข ก็จะมีความต้องการการเอาใจใส่ที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ต้องระวังโรคสัตว์สู่คน ซึ่งเราสามารถป้องกันได้โดยรักษาความสะอาดและฉีดวัคซีนป้องกันโรค รวมถึงหมั่นดูแลสัตว์เลี้ยงให้สัตว์เลี้ยงมีสุขอนามัยที่ดีอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ต้องสอนให้เด็กรู้จักการดูแลสุขลักษณะที่ดีของตนเองด้วย เช่น ล้างมือให้สะอาดหลังจากจับสัตว์เลี้ยงเป็นต้น ขอเรียนย้ำว่าการมีสัตว์เลี้ยงไม่ใช่คำตอบเพียงหนึ่งเดียวสำหรับการสอนเด็กเล็กๆ แต่เป็นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถเป็นตัวช่วยที่น่าสนใจเท่านั้นครับ
ผศ.น.สพ.ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี