วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ทุกท่านคงทราบดีว่า เล็บของสุนัขและแมวนั้นไม่ได้มีไว้แค่เพื่อการตกแต่งให้เกิดความสวยงามเหมือนในคน แต่ยังมีประโยชน์ในการดำรงชีวิตด้านต่างๆ เช่น ป้องกันตัว ยึดเกาะ ตะกุย ขุดดินทำโพรงเพื่อพลางตัว เป็นต้น จะเห็นว่าสุนัขและแมวนั้น ใช้ประโยชน์จากเล็บมากมาย ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่เล็บของสุนัขกับแมวตัวโปรดของเรา จึงมีความสำคัญมาก วันนี้เราคุยเรื่องการดูแลเล็บของสัตว์เลี้ยงกันครับ
@เล็บคืออะไร และทำหน้าที่อย่างไร
เล็บ เป็นอวัยวะปกคุลมร่างกายชนิดหนึ่ง ที่พบบริเวณปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าของสุนัขและแมวทั้ง 18 นิ้ว โดยเท้าหน้ามีข้างละ 5 นิ้ว และเท้าหลังข้างละ 4 นิ้ว
เล็บ เป็นส่วนสำคัญของร่างกายในสุนัขและแมว มีหน้าที่หลักๆ ในการดำรงชีวิต เช่น ใช้ขุดคุ้ย ยึดเกาะ และต่อสู้ นอกจากนั้นยังช่วยให้การเดินหรือวิ่งเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบด้วย
เล็บ สามารถงอกยาวได้ตลอดเวลา ดังนั้น เราจึงต้องมีการดูแล ตัดแต่งเล็บอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจากการงอกยาวของเล็บจนไปทำให้เกิดแผลที่นิ้วได้
@ปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับเล็บมีอะไรบ้าง
ปัญหาที่เกิดจากเล็บที่พบบ่อยๆ ได้แก่ การที่เล็บยาวจนทำให้โค้งมากดให้เกิดแผลที่ใต้นิ้วเท้า หลายครั้งที่เจ้าของไม่ได้สังเกตจนทำให้เกิดแผลติดเชื้อเป็นหนอง หลายรายจะทราบเมื่อมีกลิ่นเหม็นจากแผลหนองที่เกิดขึ้นแล้ว การรักษาจะใช้เวลานาน และมีความเจ็บปวดมาก
ในสุนัขและแมวบางรายเล็บที่ยาวมาก เวลาเดิน จะดันพื้นทำให้เกิดการอักเสบบริเวณโคนเล็บ ในบางรายเล็บที่ยาวมากจะสัมผัสพื้นแล้วบิดไปทางด้านข้าง ทำให้การวางตัวของนิ้วหรือเท้ารวมถึงการเดินผิดปกติไป
@เรามีวิธีการดูแลเล็บอย่างไร
สำหรับการดูแลรักษาเล็บในสุนัขและแมว มีความจำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งการตรวจสุขภาพเล็บแบบคร่าวๆ การตัดเล็บ การตะไบลับคมเล็บ เป็นต้น โดยขั้นตอนต่างๆ นั้นผู้เลี้ยงสัตว์สามารถเรียนรู้และทำได้เอง โดยอาจไม่จำเป็นต้องเข้าร้านตัดแต่งขนสุนัขหรือพาไปพบสัตวแพทย์ก็ยังได้
การตรวจสุขภาพเล็บแบบคร่าวๆ สามารถทำได้โดยการตรวจเช็คเล็บด้วยตาเปล่า ว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขหรือไม่ โดยปัญหาที่มักพบ ได้แก่ เล็บหัก เล็บฉีก เล็บงุ้มงอ เล็บยาวงอจนฝังเข้าไปในผิวหนัง เล็บติดเชื้อราโคนเล็บเป็นฝีหนอง เป็นต้น
นอกจากนี้ ในการตรวจสุขภาพเล็บนั้น ผู้เลี้ยงควรตรวจเช็คสิ่งผิดปกติบริเวณอุ้งเท้าด้วย หากพบปัญหาบริเวณเล็บและอุ้งเท้า ก็ควรรีบพาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ เพื่อหาสาเหตุและรีบแก้ไขโดยด่วน เพราะปัญหาที่บริเวณเล็บและอุ้งเท้าก่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก เนื่องจากเป็นจุดที่รับน้ำหนักตัวขณะยืนหรือเดิน
@เราควรตัดเล็บให้สุนัขและแมวบ่อยแค่ไหน?
เรื่องที่เป็นคำถามยอดฮิตเลยคือ ต้องตัดเล็บบ่อยแค่ไหน? ตอบแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า เราควรตัดเล็บ “เมื่อเล็บยาว” โดยความถี่ในการตัดเล็บในสุนัขและแมวนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย สุนัขและแมวที่ต้องตัดเล็บบ่อยๆ เล็บยาวเร็ว มักจะเป็นสุนัขและแมวที่ถูกเลี้ยงในบ้านที่มีลักษณะพื้นบ้านเป็นพื้นปูนซีเมนต์ขัดเรียบ หรือพื้นกระเบื้อง พื้นหินแกรนิต หรือบริเวณที่ไม่มีพื้นที่สำหรับลับคมเล็บ
นอกจากนี้สุนัขและแมวอายุมากก็เช่นเดียวกัน มักพบปัญหาเล็บยาวงอจนฝังเข้าไปในผิวหนัง เนื่องจากเล็บยาวเร็วจากการไม่ค่อยลุกเดิน กิจกรรมในชีวิตประจำวันลดลง ผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องคอยสังเกตความยาวของเล็บอย่างสม่ำเสมอ หากเกิดปัญหาเล็บยาวงอจนเกินไป ส่งผลให้มีปัญหาในเรื่องการยืน การเดิน เล็บที่ยาวจนฝังเข้าไปในผิวหนังทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ เป็นหนอง เกิดกลิ่นเหม็น กลายเป็นเผลเรื้อรังที่ยากต่อการรักษาได้
@อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดเล็บมีอะไรบ้าง?
อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดเล็บ มีเพียงกรรไกรตัดเล็บ ตะไบลับคมเล็บ กระดาษทิชชู่และผงห้ามเลือด (กรณีตัดเล็บแล้วเลือดไหล) และสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ “ของรางวัล” ที่จะให้สุนัขและแมวหลังจากตัดเล็บเสร็จ
สำหรับกรรไกรตัดเล็บสุนัขและแมวจะมีหลากหลายแบบในท้องตลาดเช่นเดียวกันกับตะไบลับคมเล็บ ซึ่งในปัจจุบันมีตะไบลับคมเล็บไฟฟ้าที่ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น
@วิธีการตัดเล็บที่ถูกต้องเป็นอย่างไร
การตัดเล็บที่ถูกต้องนั้น ต้องไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดกับสุนัขและแมวโดยผู้เลี้ยงต้องสังเกตจุดตัดระหว่างเนื้อสีชมพูและเล็บที่มีสีขาวขุ่น ในส่วนที่เป็นเนื้อสีชมพูนั้นเป็นบริเวณที่มีเส้นประสาทและเส้นเลือดจำนวนมาก หากตัดเข้าไปในบริเวณนี้จะทำให้เกิดความเจ็บปวดและมีเลือดไหล
จุดตัดเล็บที่ถูกต้องคือบริเวณเนื้อเล็บสีขาวขุ่น โดยควรตัดทำมุมเฉียงประมาณ 45 องศา ในกรณีน้องหมาที่มีเนื้อเล็บสีดำจะสังเกตจุดตัดเล็บได้ค่อนข้างยาก ผู้เลี้ยงควรตัดด้วยความระมัดระวังโดยค่อยๆ เล็มทีละนิดเพื่อสังเกตดูว่าใกล้ถึงเนื้อสีชมพูแล้วหรือยัง
หากเกิดเลือดออกขณะตัดเล็บจากการพลาดตัดโดนบริเวณเนื้อสีชมพู ให้ใช้ทิชชู่หรือสำลีกดแช่ไว้เพื่อห้ามเลือด ถ้ามีผงห้ามเลือดให้แตะผงห้ามเลือดบริเวณปลายเล็บเพื่อปิดปากแผลและช่วยทำให้เลือดแข็งตัว
ขั้นตอนสุดท้ายคือการตะไบเล็บเพื่อลับคม ป้องกันการเกิดบาดแผลบริเวณผิวหนังหรือดวงตาจากการเกาของสุนัขและแมวภายหลังการตัดเล็บใหม่ๆ เมื่อตัดเล็บเสร็จเรียบร้อยอย่าลืมให้รางวัลกับสัตว์เลี้ยงและสังเกตว่าสัตว์เลี้ยงยืนหรือเดินเป็นปกติ ไม่มีอาการเกา กัด แทะ ดึงบริเวณเล็บภายหลังการตัดเล็บ
เมื่อทุกท่านทราบถึงปัญหาและวิธีการดูแลเบื้องต้นแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นสังเกตสุขภาพของเล็บของสัตว์เลี้ยงของเราเป็นประจำ เพื่อให้เจ้าเหมียวและเจ้าตัวของเราเป็น “ผู้ที่มีเล็บงาม” (ตามความหมายในภาษาบาลี-สันสกฤตที่ว่า “สุ” หมายถึง ดี งาม ส่วน “นัข” หมายถึง เล็บ) กันนะครับ
หมอโอห์ม
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

'ราชภัฏบุรีรัมย์'แปรอักษร น้อมรำลึก'สมเด็จพระพันปีหลวง'
พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม
รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง
เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม
'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี