วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ขึ้นชื่อว่า “พ่อ” ไม่ว่าเมื่อก่อนจะเผชิญกับเรื่องอะไรในชีวิตมาก็ตาม ถึงวันที่มี “ลูก” ย่อมอยากที่จะเปลี่ยนแปลง และมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเสมอ
อย่างใน “กิจกรรมวันพ่อ” ที่ มูลนิธิเด็ก เยาวชน และครอบครัว ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกันจัดขึ้น โดยชูแคมเปญ “My Super Dad พลังรักไม่ธรรมดา” ทำให้ได้เห็นความรักของพ่อ ลูก ที่มีความหลากหลายของการใช้ชีวิต แต่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ เพื่อให้คนที่รักอยู่ห่างจากสิ่งอันตรายทั้งปวง โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด ที่เป็นต้นทางของปัญหาหลายๆ อย่าง
ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า เนื่องในวันพ่อแห่งชาติปีนี้ สสส. ร่วมกับเครือข่ายจัดกิจกรรมวันนี้เป็นการรณรงค์ให้ความรู้ โดยใช้พลังความรักจากพ่อ พลังยิ่งใหญ่ที่ช่วยให้ลดพฤติกรรมเสี่ยง อย่างการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาในครอบครัว ความสัมพันธ์ และความปลอดภัยบนท้องถนน สสส.จึงขอสนับสนุนให้พ่อเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อครอบครัวที่รัก
ซึ่งจากข้อมูลพบว่า บุหรี่ทำให้ประชากรโลกเสียชีวิตมากกว่า 8 ล้านคนต่อปี โดยกว่า 7 ล้านคน มาจากการสูบเอง และราว 1.2 ล้านคนจากควันบุหรี่มือสอง ทั้งนี้ บุหรี่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด 2-4 เท่า เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งปอด 25 เท่า สำหรับประเทศไทย ข้อมูล จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2567 พบผู้สูบบุหรี่ 9.8 ล้านคน หรือ 16.5% ของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไป ลดจากเดิม 17.44% ในปี 2564
.jpg)
“ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีข้อมูลการสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ในปี 2564 เท่ากับ 165,450.5 ล้านบาท คิดเป็น 1.02% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) แบ่งเป็น การสูญเสียทางอ้อมจากการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การขาดงานหรือสูญเสียผลิตภาพจากการทำงาน 96.3% การสูญเสียทางตรงจากค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในกระบวนการยุติธรรม และความเสียหายต่อทรัพย์สินจากอุบัติเหตุจราจรทางบก 6,091.7 ล้านบาท ที่น่าตกใจคือคนไทยเกือบ 80% เคยได้รับผลกระทบจากการดื่มของผู้อื่น ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และปัญหาครอบครัว โดยต้นทุนทางสังคมเฉลี่ยจากนักดื่มไทยหนึ่งคนสูงถึง 498,196 บาท โดยเฉพาะนักดื่มชายมีต้นทุนสูงถึง 721,344 บาทต่อคน” รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว
ด้าน นายไอ คงสุข พ่อผู้สูญเสียลูกชายจากอุบัติเหตุ เล่าว่า ตนมีลูกชาย และลูกสาว เลี้ยงดูด้วยความรัก ให้อิสระในการคิด และร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม ชุมชนมาตลอด ทำให้ความสัมพันธ์พ่อลูกแนบแน่น คุยกันได้ทุกเรื่อง ตนรู้สึกภูมิใจในตัวของลูกมาก เป็นเด็กดีสามารถวางแผนอนาคตได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่เมื่อลูกชายเข้าเรียนระดับปวช. ได้ขอให้ซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ โดยมีข้อแม้ว่าต้องสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ซึ่งเขาทำมาตลอด แต่วันหนึ่งลูกชายขับรถไปซื้อของระยะทางเพียง 1-2 กิโลเมตร ไม่ได้สวมหมวกนิรภัย แล้วเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต
เหตุการณ์นั้นทำให้ชีวิตตนเสียศูนย์ หันมาดื่มเหล้าสูบบุหรี่จัด จนป่วยเข้าโรงพยาบาลอยู่นาน ทำให้เห็นคนที่สูญเสียแบบเดียวกัน ช่วงที่อยู่โรงพยาบาลได้ทำงานจิตอาสาช่วยผู้ป่วยคนอื่น ถือเป็นจุดเปลี่ยนให้คิดได้ นำสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกชายมาเป็นบทเรียนและสร้างการตระหนักรู้เพื่อไม่ให้คนอื่นต้องสูญเสียแบบนี้อีก และเชื่อว่าสิ่งที่ทำนี้จะช่วยให้ลูกชายของตนได้รับบุญกุศลด้วย
“ทุกวันนี้เด็กมีภูมิต้านทานน้อย ความผูกพันในครอบครัวมีน้อย แต่ผมเชื่อว่าพ่อทุกคนรักและเป็นห่วงลูก ที่อยากจะบอกคือ วันนี้สังคมน่ากลัวขึ้น แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ ครอบครัวคือจุดที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ ต้องร่วมกันสร้างความรักในครอบครัว อย่าปล่อยช่องว่าง อย่าคิดว่าไม่มีเวลา อย่าเอาแต่โยนโทรศัพท์ให้ลูกแล้วตัวเองไปทำอย่างอื่น เพราะครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุด พ่อต้องใส่ใจลูก” นายไอกล่าว
.jpg)
นายนำโชค กระจ่างศรี อดีตเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก ระบุว่า ตนไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อน รู้แค่ว่าเป็นใครเนื่องจากมีชื่อในใบรับรองการเกิด ถึงช่วงกิจกรรมวันพ่อ ตนได้แต่นั่งก้มหน้าร้องไห้ เพราะไม่มีพ่อมาร่วมกิจกรรมเหมือนคนอื่นแต่พอเข้าสู่วัยรุ่นก็เริ่มรู้และไม่เข้าร่วมกิจกรรมวันพ่ออีกเลย โดยไปแอบในห้องน้ำโรงเรียน
หลังจาก จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็ไม่ได้เรียนต่อเนื่องจากปัญหาทางบ้านตนมาเป็นกระเป๋ารถเมล์ และไปอยู่กับรุ่นพี่อีกคนหนึ่งที่เรียนโรงเรียนช่าง มีการทะเลาะ ตีรันฟันแทงกับนักเรียนช่าง เราก็ไปเข้าร่วมด้วยโดยที่ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าคู่กรณีที่เราไปทะเลาะและใช้กำลังด้วยนั้นเป็นใคร ต้องพกอาวุธไว้ตลอด ใช้ชีวิตแบบนี้มาจนกระทั่งถึงช่วงอายุ 15 ปี ได้เริ่มรู้จักกับ กลุ่มคนค้ายา ไปนั่งไปสุงสิงด้วยจนกระทั่งเจ้าของรถสองแถวก็ได้สั่งห้าม ไม่ให้ยุ่ง ไม่เช่นนั้นจะไม่ให้อยู่ด้วย แต่สุดท้ายตัวเราเองที่ไม่รักดี ออกจากรถสองแถวและไปอยู่ตรงนั้น กลายเป็นคนติดยา สูบบุหรี่หนักมาก และปล้นคนต่างถิ่นที่มาซื้อยา ณ ตรงนั้น และกลายเป็นคนเก็บค่ายาเสพติดเหิมเกริมขึ้นหนักขึ้นทุกๆ วัน
จนอายุ 17 ปี โดนจับข้อหาค้ายาบ้า 76,000 เม็ด ในปี 2542 เข้า-ออกสถานพินิจ ได้รับการประกันตัวแล้วก็หนีกลับมาทำหนักกว่าเดิมใหญ่กว่าเดิมอีก เพราะเป็นวงจรชีวิตที่ตนอยู่มาแบบนั้น ใช้ชีวิตไปวันๆ ออกไปก็ไม่มีใคร ไม่รู้จะกลับไปหาใคร
จากนั้นมีการมอบตัว และได้ไปอยู่บ้านกาญจนาภิเษก มีกฎกติกา ต้องเลิกสูบบุหรี่เพื่อที่จะได้กลับบ้าน ถึงได้เลิกสูบบุหรี่เพื่ออยากกลับบ้านไปหาแฟน และเมื่อออกจากบ้านกาญจนาภิเษกก็ถือว่าเลิกบุหรี่ได้เด็ดขาด แต่เมื่อปี 2552 ก็เริ่มลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า ติดหนักมาก ณ วันนั้นรู้สึกว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เท่แต่พอกลับไปดูรูปภาพเก่าๆ กลับคิดว่าวันนั้นเราทำอะไรลงไป
.jpg)
ทั้งนี้ เหตุที่เลิกสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพราะเริ่มมีลูกจึงค้นหาวิธีการดูแลลูก เพราะเริ่มรู้ว่ามันไม่ดีกลัวสารเคมีติดเสื้อผ้า ไม่อยากให้มันส่งต่อไปถึงลูก รวมถึงได้รับการเรียนรู้จาก นางทิชา ณ นคร เกี่ยวกับการสอนลูก การส่องตัวเองจากเดิมต้องยอมรับว่าสมองของตนเหมือนเส้นตรงไม่เคยรับรู้ข่าวสารไม่เคยสนใจอะไรเลยแต่พอมาอยู่บ้านกาญจนาภิเษก ได้มีการเรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างทำให้ได้คิดอะไรมากขึ้น คิดถึงตัวเราคิดถึงเรื่องรอบข้างในสังคมมากขึ้น ทำให้เรามีวัคซีนที่จะเลี้ยงลูกโดยไม่ได้เน้นการสอนมาก แต่จะเน้นการทำให้ดูและทำด้วยกันคิดด้วยกัน วิเคราะห์ด้วยกัน
“ด้วยความที่เราไม่เคยมีพ่อเราจึงรู้เรื่องราวหลายๆ อย่างที่มันขาดหายไป จึงไม่อยากให้มีสิ่งที่ไม่ดีจากข้างนอก แม้กระทั่งจากตัวเราเข้าไปสู่ตัวลูก แต่ยอมรับว่าการเลิกสิ่งเหล่านี้ถือว่ายากมากเพราะสายสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเพื่อนๆ มีเยอะมาก แต่ด้วยความที่เราเลือกลูกมากกว่าเพื่อนๆ จึงเริ่มสังสรรค์น้อยลง ไม่ได้เจอกัน การอยู่กับลูกทำให้รู้สึกได้รับการเติมเต็มรู้สึกว่าเราสามารถทำได้ ถ้าเรามีจุดโฟกัสที่จะทำให้ใครสักคน”
ขณะที่ เมญาดา สาริสิทธิ์ ลูกสาวผู้ผูกพันกับพ่อก็เล่าในมุมมองของลูกว่า ตั้งแต่จำความได้ตนเห็นพ่อดื่มเหล้ามาตลอด และมักมีปากเสียงกับแม่เกือบทุกครั้ง แต่พ่อกลับไม่เคยโมโห หรือดุตนเลย ทำให้เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน ตนจึงมักอยู่ข้างพ่อตลอด นอนด้วยกันแม้ว่าจะมีกลิ่นเหล้าก็ตาม และบางครั้งที่ทะเลาะกันแล้วแม่เอ่ยปากไล่พ่อออกจากบ้าน ตนก็จะแอบขึ้นรถหนีไปกับพ่อด้วย
อย่างไรก็ตาม พ่อเคยเลิกเหล้าได้หลายปี ตอนนั้นเหมือนเราได้โลกใบใหม่ แต่ก็กลับมาดื่มอีก ซึ่งครั้งนี้พ่อดื่มเพียงไม่กี่เดือนก็ป่วยมีภาวะโรคตับอ่อนและน้ำท่วมปอด รักษาที่โรงพยาบาลเพียงไม่กี่วันพ่อก็จากเราไปแบบไม่ได้ลาสักคำ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากขอกลับไปดูแลพ่อในวันที่พ่อป่วย ได้ไปดูแลท่าน ได้ไปทำหน้าที่ของลูกที่ดี ลูกที่รักของพ่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี