1.ครั้งที่ผ่านมาเราบอกกล่าวถึงเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ของผู้ที่ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับทางปกครองว่า จะจ่ายกันอย่างไรก็ได้คำตอบให้จ่ายไปข้างหน้าตั้งแต่วันที่คำสั่งทุเลาการบังคับทางปกครองมีผลบังคับตามกฎหมายเป็นต้นไป และเงินเดือนสิทธิประโยชน์ของผู้ถูกออกจากราชการตั้งแต่วันที่ออกจากราชการจนถึงวันกลับเข้ารับราชการจะจ่ายกันอย่างไร ตรงนี้ก็มีคำตอบเหมือนกัน
2.ตรงนี้เราต้องย้อนกลับไปถึงปี พ.ศ.2523 โดยกระทรวงการคลังได้เสนอร่างระเบียบการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้วต่อมาได้รับการพิจารณายกโทษต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงการคลังได้ร่วมพิจารณากับสำนักงานก.พ.และสำนักงบประมาณแล้ว
คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2523 พิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบและประกาศออกเป็น “ระเบียบการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการแล้วต่อมาได้รับการพิจารณายกโทษ พ.ศ.2523” (หนังสือสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร 0203/ว214 ลว10 พ.ย. 2523)
3.ต่อมากระทรวงการคลังได้ปรับปรุงระเบียบดังกล่าวเป็น “ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้าราชการซึ่งถูกสั่งให้ออก ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการแล้วต่อมาได้รับการพิจารณายกโทษพ.ศ.2538” (หนังสือกระทรวงการคลังที่ กค 0502/ว86ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2538)
4.หลังจากนั้นพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญและเงินเดือนในลักษณะเดียวกัน พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 เปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจกำหนดสิทธิการได้รับเงินเดือนของข้าราชการที่มิได้มาปฏิบัติการในกรณีอื่นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นอธิบดีกรมบัญชีกลาง จึงได้ปรับแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าวเป็น “ระเบียบกรมบัญชีกลางว่าด้วยการจ่ายเงินเดือนให้แก่ข้าราชการซึ่งออกจากราชการโดยคำสั่งลงโทษทางวินัย หรือคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วได้รับการพิจารณายกเลิก เพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น พ.ศ. 2551” (ราชกิจจานุเบกษาเล่ม 125 ตอนพิเศษ 66 ง ลงวันที่ 2 เมษายน 2551 หน้า 5)
5.ระเบียบกรมบัญชีกลางฉบับปี 2551 นี้มีหลักเกณฑ์ดังนี้
(1) ระเบียบนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป คือ 2 เม.ย. 2551
(2) หลัก ข้าราชการผู้ใดออกจากราชการโดยคำสั่งลงโทษทางวินัยหรือคำสั่งให้ออกจากราชการแล้วต่อมาได้มีการยกเลิก เพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่น ตามคำพิพากษาของศาลหรือคำวินิจฉัยของผู้มีอำนาจพิจารณาตามกฎหมายให้กลับเข้ารับราชการให้จ่ายเงินเดือนผู้นั้นในระหว่างที่มิได้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการตามคำสั่งนั้น ดังนี้
(2.1)กรณีมิได้กระทำผิด หรือกรณีถูกสั่งให้ออกจากราชการที่มิใช่คำสั่งลงโทษทางวินัยให้จ่ายเต็มจำนวนเงินเดือนที่มีสิทธิได้รับ
(2.2) กรณีได้กระทำความผิด ให้จ่ายได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของเงินเดือนที่มีสิทธิได้รับตามที่รัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำหนด
(3) ในกรณีที่ข้าราชการผู้นั้นยังมิได้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการ เนื่องจากได้พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือถึงแก่ความตายก่อนคดีถึงที่สุด หรือก่อนกรณีถึงที่สุดการจ่ายเงินเดือนในระหว่างที่มิได้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้จ่ายถึงวันสิ้นปีงบประมาณที่ได้พ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือวันที่ถึงแก่ความตาย แล้วแต่กรณี
(4) การจ่ายเงินเดือนระหว่างที่มิได้มาปฏิบัติหน้าที่ราชการตาม (2) หรือ (3) ให้กระทรวงทบวง กรมเจ้าสังกัด จ่ายให้ภายในเวลา 1 ปี นับแต่วันให้ยกเลิก เพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นอย่างอื่นโดยจ่ายจากเงินงบประมาณปีปัจจุบัน
6.แต่เดิมมานั้น ทางราชการไม่จ่ายเงินเดือนระหว่างออกจากราชการไป โดยอ้างเหตุผลว่าไม่มีงานไม่มีเงินครับ แต่ปัจจุบันนอกจากจ่ายเงินเดือนแล้วยังต้องพิจารณาเยียวยาโดยพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามรอบการเลื่อนเงินเดือนระหว่างออกจากราชการให้อีกด้วย โดยขออนุมัติต่ออ.ก.พ.กระทรวง แม้จะไม่มีผลการปฏิบัติงานก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี