1.ในขณะนี้ เราจะเห็นการดำเนินการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการขอปรับปรุง มาตรา 112 (ประมวลกฎหมายอาญา) ทำให้คลื่นทางการเมืองเคลื่อนไหวเป็นเหตุให้มีความเคลื่อนไหวกันเป็นระลอก ทำให้ไม่แน่ใจว่าผลที่สุดจะเป็นประการใดกันแน่

2.พอดีนึกขึ้นมาได้ว่า ในทางราชการที่ผ่านมาได้มีการตราพระราชบัญญัติล้างมลทินแก่ผู้ได้รับโทษทางอาญาและทางวินัย ต่อมาได้พ้นจากการรับโทษดังกล่าวมาแล้วได้รับการล้างมลทิน เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 (25 พุทธศตวรรษ)และมีการตราพระราชบัญญัติล้างมลทินตามมาอีกหลายครั้งจนกระทั่งปี พ.ศ.2550ได้มีการตราพระราชบัญญัติล้างมลทิน ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ.ศ.2550ส่วนก่อนหน้านั้นคือ พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี พ.ศ.2539

3.นับแต่ปี พ.ศ.2550 ถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง 16 ปีแล้วประเทศไทยเรายังไม่มีการตราพระราชบัญญัติล้างมลทินเช่นที่ผ่านมาเลย ทำให้ประชาชนทั้งปวงเงียบเหงา ไม่ได้รับความชุ่มฉ่ำจากฎหมายในลักษณะนี้

ประเทศชาติและประชาชนต่างเฝ้ารอหยาดน้ำทิพย์จากฟากฟ้ามาชโลมใจให้สดชื่น แจ่มใสล้างมลทินที่มีอยู่ในหัวใจให้หมดแล้วเริ่มชีวิตใหม่กันต่อไป

4.ประเด็นตรงนี้เลยเห็นว่า เราควรหยิบประเด็นปัญหาการใช้บังคับพระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี และทรงมีพระชนมพรรษา 80 พรรษา มาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังให้ทราบโดยทั่วกันดีกว่าครับ

5.เรื่องแรกเริ่ม เรามีพระราชบัญญัติล้างมลทินในวาระฉลอง 25 พุทธศตวรรษตราออกมาใช้บังคับกับข้าราชการที่ถูกลงโทษทางวินัยและประชาชนคนทั่วไปที่ต้องรับโทษจำคุกและพ้นโทษจำคุกแล้วให้ได้รับการล้างมลทินเสมือนหนึ่งไม่เคยรับโทษมาก่อน พูดกันง่ายๆ คือ บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่างๆ ตามกฎหมายซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ดังกล่าว และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินนั้นใช้บังคับก็ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ พูดภาษาชาวบ้านก็คือล้างใบแดงแจ้งโทษนั้นแหละครับ ส่วนกรณีล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ถูกลงโทษทางวินัยซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติ ล้างมลทินนั้นใช้บังคับและได้รับโทษหรือทัณฑ์ทั้งหมดหรือบางส่วนไปก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินใช้บังคับ ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษหรือลงทัณฑ์ทางวินัยในกรณีนั้นๆ

(อ่านต่ออาทิตย์หน้า)