แม้ระยะนี้ฝนจะถล่มทั่วประเทศไทยอย่างกระหน่ำแต่ “ควันหลง” เรื่อง “ทศกัณฐ์เจ้ากรุงลงกาแคะขนมครกขี่เรือโบ้ตกล้วยหอม ขี่ม้าชมชายหาดและชักว่าว”ยังอ้อยอิ่งไม่รู้จาง

จึงขอนำเบื้องหลัง “เจ้ากรุงลงกา” มาเล่าสู่กันฟังในวันหยุด

“กรุงลงกา” เป็นนครที่ถูกสมมุติขึ้นมาในมหากาพย์รามเกียรติ์ โดยเป็น “นครของยักษ์ มีพลเมืองเป็นยักษ์และปกครองโดยยักษ์”

เริ่มที่ “สหบดีพรหม” หรือเทพเจ้าของยักษ์บนสวรรค์ได้ “เนรมิตกรุงลงกา” ขึ้นมาในโลกแล้วให้“สหมลิวัน” ไปครอง แต่ท้าวสหมลิวันเกิดเรื่องกับ“พระนารายณ์” จึงเกรงภัยหนีไปอยู่เมืองบาดาล“สหบดีพรหม” เกรงว่า “วงศ์พรหม” จะสูญหาย จึงเชิญให้ “ธาราพรหม” จากสวรรค์มาปกครองกรุงลงกา ใช้นามว่า “ท้าวจตุรพักตร์”

“ท้าวจตุรพักตร์” หรือ “ปู่ของทศกัณฐ์” เป็นต้นตระกูลของยักษ์กรุงลงกา มีตรีศูลคฑาเป็นอาวุธ มีฉัตรแก้วดับแสงอาทิตย์ได้ มี “นางมลิกา” เป็นมเหสีให้กำเนิดโอรสชื่อ “ท้าวลัสเตียน” (พ่อของทศกัณฐ์) ครั้นท้าวจตุรพักตร์ครองราชย์อยู่ถึง “หกหมื่นปี” ก็สวรรคต แล้วท้าวลัสเตียนก็ขึ้นครองราชย์แทน

“ท้าวลัสเตียน” เป็นพ่อของทศกัณฐ์ มีมเหสีห้านางมีนางสนมอีกนับหมื่น มเหสีคนสำคัญ คือ “มเหสีคนที่ห้า”ชื่อว่า “นางรัชฎา” มีบุตร 7 คน ล้วนเป็นตัวเอกในเรื่องรามเกียรติ์ คือ 1.ทศกัณฐ์ 2.กุมภกรรณ 3.พิเภก 4.ขร5.ทูษณ์ 6.ตรีเศียร และ 7.นางสำมนักขา (ต้นตำรับนางมารร้ายที่ละครไทยนำมาเป็นต้นแบบของนางอิจฉา)ครั้นสิ้นท้าวลัสเตียน “ทศกัณฐ์” ก็ขึ้นเป็น “เจ้าลงกา” แทน

“ทศกัณฐ์” เป็นบุตรของ “ท้าวลัสเตียน” เป็นศิษย์เอกของ “พระฤาษีโคบุตร” นอกจากรอบรู้วิชาการต่อสู้มากมายและเหาะเหินเดินอากาศได้ ยังแปลงกายเป็นอะไรก็ได้แถมยังหายตัวได้ และถอดหัวใจใส่กล่องฝากไว้กับพระฤาษีจนร่างกายเป็นอมตะ ถูกฆ่าไม่ตาย ทำให้ทศกัณฐ์กร่างในฤทธาของตนเอง เที่ยวปล้ำนางฟ้าและปล้ำเทพธิดาบนสวรรค์อย่างสนุกมือ หวังครองราชย์นอกจากมีมเหสีมากมาย ยังมีนางสนมถึง 84,000 คน แล้วยังแปลงกายได้“นางปลา” เป็นเมีย ได้ “ช้าง” เป็นภรรยา และได้ “นางอัคคีไฟ”เป็นกิ๊ก แค่นั้นยังไม่พอ เกิดหลงรัก “นางสีดา” ภรรยาของ “พระราม” จึงช่วงชิงมาเป็นเอ๊าะๆ อีกต่างหาก

ในที่สุด “ทศกัณฐ์” ก็ทำให้ “วงศ์พรหม” และอาณาจักรลงกา “ล่มสลาย”

มหากาพย์รามเกียรติ์สอนให้รู้ว่า “หากโลภในอำนาจไม่รู้จักพอและหลงในราคะไม่รู้จักอิ่ม สุดท้ายหายนะก็มาเยือน”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม