หากพูดถึงสุดยอดตำรวจฝีมือดีส่วนใหญ่ล้วนเคยผ่านงานที่กองปราบฯ สถานที่สำหรับ ลับคมลูกปืน เพื่อไว้ต่อกรกับเหล่า โจรร้าย ทั้งมือปราบ และนักสืบหลายคนได้สร้างวีรกรรมไว้ และยังเป็นที่กล่าวขานจนถึงปัจจุบัน สำหรับตำรวจรุ่นเก๋าที่เคยฉายแวว ปัจจุบันก็ไม่ได้ลงมาบู๊เหมือนเมื่อก่อน วันนี้ บนถนนสีกากี จะพาท่านไปเจาะลึกนายตำรวจอีกคนที่เคยสร้างชื่อไว้ที่กองปราบฯแห่งนี้

พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) หรือ รองฯ ยิ้ม นายตำรวจจอมฟิต จิตใจดี ชาว จ.กาญจนบุรี ในวัย 55 ปี ที่มาพร้อมกับดีกรีดอกเตอร์ ด้านอาชญาวิทยา จาก ม.มหิดล และ ประธานนรต.รุ่น 38 รุ่นที่นั่งตำแหน่ง รอง ผบช.น.ขณะนี้ถึง 6 คน และเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า ครบเครื่องทุกเรื่อง จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งในแวดวงสีกากีและลายพราง

เขาเริ่มรับราชการที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนมาเป็นหัวหน้าจราจร สภ.เมืองจันทบุรี ย้ายไป สว.ผ.1 กก.3.ป.ขึ้นรอง ผกก.3 บก.ป. ขยับขึ้น ผกก.5 บก.ป.จากนั้นเป็น ผกก.ประจำ บก.ป. โยกมา ผกก.1 บก.ปคม. ย้ายขึ้น รอง ผบก.ป่าไม้ กลับมาเป็น รอง ผบก.บก.ป. ขึ้นผบก.ภ.จว.ลพบุรี และปทุมธานี ได้เข้านครบาลเป็น ผบก.น.8 และมาเป็นรอง ผบช.น. ในปัจจุบัน

“ผลงานสำคัญ มีอยู่มากมายจะเห็นผมอยู่หน้าจอทีวี และหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ทั้งงานปราบปรามและงานมวลชนสัมพันธ์”

พล.ต.ต.มนตรีเล่าว่า ส่วนใหญ่รับราชการอยู่ บช.ก.มาตลอด โดยเฉพาะกองปราบฯที่คลุกคลีมา 10 กว่าปี จึงมีโอกาสได้ทำคดีดังๆ เช่น คดีจ้างวานฆ่าผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เมื่อปี พ.ศ.2544คดีจ่างวานฆ่า อดีตรัฐมนตรี คดีฆ่านักข่าวนสพ.ข่าวสด คดีทุจริตทั้ง ทุจริตยางพารา ทุจริตลำไย ทุจริตข้าว รวมถึงคดีค้ามนุษย์ข้ามชาติ ที่หญิงไทยตกเป็นเหยื่อ ในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น บาห์เรน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และการจับพาสปอร์ตปลอมของสิงคโปร์ ลอตใหญ่ เพื่อเดินทางเข้าสหรัฐ จนได้รับเชิญจากรัฐบาลสหรัฐไปดูงานและสัมมนา เรื่องค้ามนุษย์ ใน 5 รัฐนาน 1 เดือน

จากนั้นได้เข้ามานครบาลเป็น ผบก.น.8 ก็ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งจากภาครัฐและเอกชน หลักๆ ก็เรื่องการปราบปราม ที่ยึดตามนโยบาย รุกรบ จบเร็วของ ผบช.น. นับว่าเป็นมือทำงานตัวจริงเมื่อก้าวขึ้น รอง ผบช.น.ได้รับการไว้วางใจให้ดูแลงานกิจการพิเศษ และช่วยด้านสืบสวนดูแลพื้นที่ นครบาล 8 นอกจากนี้ยังเป็นอาจารย์ รร.นายร้อยตำรวจ สอนงานสืบสวนกฎหมาย การบริหารงานมากว่า 20 ปี

“อยู่ตำแหน่งไหนก็สำคัญหมด ผมเคยอยู่อำนวยการเป็น 10 ปี อย่าไปคิดว่าตำแหน่งไหนด้อยคุณค่า ทุกตำแหน่งมีความสำคัญหมด เหมือนอะไหล่รถยนต์ ถามว่านอตอาจจะไม่สำคัญเท่าเกียร์ เบรกแต่ถ้าไม่มีนอตล้อก็หลุด ทุกอย่างต้องประกอบกัน ต่างกันแค่ภารกิจหน้าที่ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ก็พอ”

รองฯยิ้ม ได้รับการยอมรับว่า เป็นคนที่รักลูกน้อง รักเพื่อนฝูง มีมนุษย์สัมพันธ์ดี เพราะมีหลักการทำงาน คือไม่เบียดเบียนตัวเอง และไม่เบียดเบียนผู้อื่นดูแลพี่ ดูแลเพื่อน ดูแลน้อง แข่งกันได้ในการทำงาน แต่อย่าอิจฉาตาร้อนกัน อย่าปัดแข้งปัดขากัน ใครได้ดีก็ขออนุโมทนาบุญและช่วยกันทำงาน ไม่ใช่รุ่นน้องหรือคนที่เราไม่ชอบขึ้นมาเป็นนาย ก็ไม่ทำงานเบี้ยวซ้ายเบี้ยวขวา ถือว่าไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่

ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา สิ่งที่เราต้องให้ผู้ใต้บังคับบัญชา คือ 1.สวัสดิการของผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องเต็มที่ 2.ต้องวางตัวให้ดีเป็นแบบอย่างของตำรวจที่ดี ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน และ 3.งานจะดีได้มันต้องเดินด้วย 4 ปัจจัย คน เงิน วิธีการ และใจ ถ้ากำลังพลเรามีขวัญกำลังใจที่ดี ครอบครัวดี ลูกเมียไม่มีปัญหา นายสนับสนุนสวัสดิการ เขาก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ สายธรรมะ เนื่องจากเป็นคนชอบไหว้พระทำบุญ สร้างพระแจกจ่าย ซึ่งเชื่อว่าถ้าคนเรายึดหลักธรรมะ จะทำให้จิตใจดี และเมื่อจิตใจดี งานก็จะดีตามไปด้วย

หากพูดถึง รองฯ ยิ้ม มักจะนึกถึงบุคคลที่มีบุคลิกหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร จึงเป็นที่รักใคร่ของบรรดาเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้งในวงการตำรวจ ทหาร และนักธุรกิจด้วยกัน ที่สำคัญเป็นคนทำงานจริง จนได้รับโล่เกียรติประวัติมาประดับชั้นไว้มากมาย แหละนี่คือนายตำรวจที่ควรยึดเอาแบบอย่างโดยเฉพาะเรื่องการทำงาน ที่จัดว่าครบเครื่องทุกเรื่อง

พล.ต.ต.มนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่าตำรวจบางคนมักหลงไปกับความโลภ หลงอำนาจเงิน บ้างก็แตกแถวทำผิดเสียเอง เราจะไปป้องกันคนอื่นไม่ได้สิ่งที่ป้องกันได้คือตัวเราเอง เมื่อมีหน้าที่ความรับผิดชอบ จะให้ผู้บังคับบัญชาไปดูแลจนถึงชั้นประทวน ก็เป็นไปไม่ได้ เราต้องควบคุมตนเองให้ได้เสียก่อน คือการมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา เพื่อเตือนตนไม่ให้เดินไปในทางที่ผิด

“หิริโอตตัปปะ แปลว่า ความละอายและความเกรงกลัวต่อบาป เวลาเราทำผิดไม่มีใครเห็น เรารู้อยู่คนเดียว รู้อยู่แก่ใจ”

ทีมข่าวอาชญากรรม