วันพฤหัสบดี ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
‘ปิดด่าน’ทุบหัว‘อสรพิษเขมร’ถูกจุด

ดูทั้งหมด

  •  

การปิดด่านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จากมาตรการเบาไปหาหนัก ของกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 1 คือกองกำลังบูรพา และกองทัพภาคที่  2 โดยกองกำลังสุรนารี นั้น ถือว่าเรามาถูกทางแล้วในการต่อกรกับเขมร ที่มีผู้นำประเทศตัวจริงซึ่งน่ากลัวยิ่งกว่า“อสรพิษ”

โดยก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางฝ่ายรัฐบาล ทั้ง“แพทองโพย”นายกรัฐมนตรี ผู้ขาดความรู้ความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน และ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธการใช้มาตรการปิดด่านชายแดน


โดยฝ่ายรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกองทัพ ที่เสนอให้มีการปิดด่านตลอดแนวชายแดน“ไทย-เขมร” เพื่อกดดันเขมรให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ที่มีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยเข้ามา 200 เมตร ตรงบริเวณ“ช่องบก” อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

แต่ในที่สุด รัฐบาลก็ไม่สามารถจะต้านทานเสียงของกองทัพ และหน่วยงานความมั่นคงส่วนอื่นๆ ที่เป็นกรรมการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยเฉพาะเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ ที่เห็นว่า รัฐบาลโดย“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นผู้ชักใย อาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับ“ฮุน เซน” ผู้ทรงอำนาจและผู้นำตัวจริงแห่งกัมพูชา จึงไม่กล้าใช้“ไม้แข็ง” เพื่อกดดันเขมรให้ถอนกำลังพ้นออกไปจากดินแดนไทยที่มีการรุกล้ำเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่กองทัพไทยมีการใช้มาตรการเข้ม จากเบาไปหาหนัก เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ลงนามในคำสั่ง“เปิด-ปิด”ด่านชายแดน“ไทย-กัมพูชา”ตลอดแนว พร้อมมอบหมายให้กองทัพภาคที่ 1 โดยผู้บัญชาการกองกําลังบูรพา และกองทัพภาคที่ 2 โดยผู้บัญชาการกองกําลังสุรนารี มีอำนาจกำหนดมาตรการ, หลักเกณฑ์, วิธีการ และเงื่อนไข หรือ“เงื่อนเวลา”ที่จำเป็นและเหมาะสม ในการผ่านแดนบริเวณจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดน“ไทย-กัมพูชา”

ปรากฏว่าในคืนวันเดียวกันนั้น คือวันที่ 7 มิถุนายน ฝ่าย“ฮุน เซน”ซึ่งพูดได้ว่า“เลี้ยงไม่เชื่อง” เหมือนอสรพิษที่มิอาจไว้วางใจได้ ก็ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก“Samdech Hun Sen of Cambodia” ตอบโต้“มาตรการปิดด่าน”อย่างทันทีทันควัน ว่า “วันนี้ กองทัพไทยได้ปิดด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต โดยฝ่ายเดียวก่อนกำหนด ดังนั้น ประเทศไทยต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่สำหรับการกระทำนี้ สำหรับพลเมืองกัมพูชา สิ่งสำคัญคือ ต้องมีสติสัมปชัญญะ และหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ”

สหายรักของ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่าง“ตระกูลชิน” กับ“ตระกูลฮุน” ยังแสดงน้ำเสียงเหมือนเป็นการข่มขู่ ว่าไทยอาจจะเสียประโยชน์ทางด้านการค้าจากการปิดด่าน โดยระบุว่า “ข้าพเจ้าเพียงต้องการเตือน ทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าหากสินค้าของไทยหายไปจากตลาดกัมพูชา นั่นไม่ใช่เพราะชาวกัมพูชาร่วมกันเลือกที่จะคว่ำบาตรสินค้า แต่เป็นผลที่ตามมาจากการปิดพรมแดน เพราะเมื่อผู้คนถูกปิดกั้น สินค้าก็จะถูกปิดกั้นไปด้วย”

พร้อมกันนี้ “ฮุน เซน”ได้อ้างตัวเลขการค้าระหว่าง“ไทย-กัมพูชา” ว่า“ปี 2567 ที่ผ่านมา กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังประเทศไทย ในขณะที่ไทยส่งออกสินค้ามายังกัมพูชามากกว่า 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่า การส่งออกของไทยเกินมูลค่าของกัมพูชามากกว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้เพียงปีเดียว กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังประเทศไทย ขณะที่ไทยส่งสินค้ามูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังกัมพูชา”

อสรพิษอย่าง“ฮุน เซน” ได้กล่าวฝากถึงประชาชนชาวเขมรแบบใส่ร้ายไทย และปลุกระดมความคลั่งชาติอยู่ในทีว่า “สำหรับพลเมืองกัมพูชา ในกรณีที่ไม่มีสินค้าของไทย โปรดอย่าตำหนิรัฐบาลกัมพูชา เพราะการขาดแคลนนี้ เป็นผลโดยตรงจากการตัดสินใจของประเทศไทยในการปิดพรมแดน”

สุดท้าย“ฮุน เซน” อดีตผู้บังคับกองพันเขมรแดงกลุ่ม“เฮงสัมริน” ผู้เคยไปเชื้อเชิญกองทัพเวียดนาม ให้ยาตรากำลังทหารกว่า 1 แสนนาย เข้ามาโค่นล้มรัฐบาลเขมรแดงกลุ่ม“พอล พต”ในปี 2522 และจากนั้นในปี 2528 ก็ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และครองอำนาจยาวนานถึง 38 ปี ก่อนจะส่งต่อให้“ฮุน มาเนต”ผู้เป็นบุตรชาย ที่ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในปี 2566 ได้เรียกร้องต่อประชาชนในประเทศของตนว่า

“ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้เพื่อนชาวกัมพูชาทุกคนรักษาความสงบ ความเป็นผู้ใหญ่ ความอดทน และความสุภาพ แต่ด้วยความแน่วแน่ หลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นศักดิ์ศรีของเรา”

การเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กของ“ฮุน เซน” หรือสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรี และประธานวุฒิสภากัมพูชา วัยจะครบ 73 ปี ในเดือนสิงหาคมปีนี้ ผู้ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองโลกว่า เป็นผู้นำประเทศที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในโลก และว่ากันว่ามีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือสถาบันหลักของกัมพูชาด้วยนั้น ก็เหมือนกับว่าไทยได้ตี“อสรพิษ”ถูกจุดที่สำคัญ ทำให้ต้องชักดิ้นชักงอก่อนจะตาย

เสียงของประชาชนคนไทยในโลกโซเชียล ซึ่งเป็นเสียงประชาชนที่แท้จริงแห่งยุคสมัย จึงเห็นว่า ไทยมาถูกทางแล้ว ที่ใช้“การทหารนำการเมือง” หรือให้กองทัพเป็นผู้ตัดสินใจในการกำราบเขมรที่เปรียบเสมือน“งูพิษ” เพราะกองทัพไทยนั้น ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีแต่ภาระหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติเท่านั้น

สำคัญที่สุด “ฮุน เซน”ประเมินต่ำ เกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทย ที่จะเสียหายจากการค้าตามตัวเลขที่อ้าง อันเนื่องมาจากการปิดด่านนั้น ภาษาขาโจ๋เขาว่า “จิ๊บจิ๊บ”

เพราะคนไทยนั้น “รักสงบ-แต่ถึงรบไม่ขลาด” ขนาดเงินเกือบ 2 แสนล้านบาท รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีผู้ชักใยเป็นเพื่อนเลิฟของ“ฮุน เซน” ก็ยังเอามาล้างผลาญแบบ“ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” และทำให้เห็นมาแล้วในโครงกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงิน“ดิจิทัล 1 หมื่นบาท”

ดังนั้น เงินทองที่พ่อค้านายทุนรายใหญ่ของไทยจะเสียสัก 4-5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อแลกกับอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของชาติบ้านเมือง จึงถือว่าสหายรักของ“ทักษิณ  ชินวัตร”คิดผิด

อีกทั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนเมื่อวานนี้ ฝ่ายเขมรก็ได้ยอมถอนกำลัง จากพื้นที่ที่รุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทยตรง“ช่องบก” พร้อมทั้งปิดกลบคูเลต และปรับพื้นที่ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว

เห็นมั้ยล่ะ ! จะจัดการกับอสรพิษทั้งทีต้องตีให้ถูกจุด และจากนี้ไปก็ต้องคอยระวังอสรพิษในบ้านของเราเองด้วย ซึ่งก็เผลออีกไม่ได้เช่นกัน

เพราะ“อสรพิษ”บ้านเรานั้น ร้ายพอๆ กับ“ฮุน เซน” !

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
23:40 น. ‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ
23:09 น. เริ่มแล้ว!!! งาน'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ
23:01 น. 'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ
22:36 น. ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด
22:25 น. พระลูกวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จำวัดท่ามกลางเสียงระเบิด
ดูทั้งหมด
'ปั้นจั่น ปรมะ'โพสต์ระบาย ลั่นสันติที่ไม่มีศักดิ์ศรีนั้นไม่อาจยอมรับได้
เด็ดปีกขุนศึกคู่ใจฮุน เซน! ‘พล.อ.สรัย ดึ๊ก’เสียชีวิตแล้ว จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา
สลด! ดับ 6 ศพ รวมมือปืน เหตุกราดยิงภายใน‘ตลาด อตก.’
โป๊ะแตกคาด่าน! พบรองเจ้าอาวาส ถอดจีวรเปลี่ยนชุดหล่อ นั่งรถเที่ยวสวีทสีกา
ทหารเขมรจับไส้ศึก! แอบติดGPS กระทืบหงายหลังน่วม
ดูทั้งหมด
โรคชังทหาร
ความรักชาติบ้านเมืองคือจุดเด่นของเวียดนาม
กอมบาวก์
ลางร้ายพ่อนายกฯ แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?
บุคคลแนวหน้า : 31 กรกฎาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ

'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ

ซัด'กัมพูชา' รีบชิงพาทูตลงพื้นที่ เหตุรู้ดีช่วงเวลาใดปลอดภัย

น้ำท่วมแม่สายเริ่มคลี่คลาย นายอำเภอเตือนระวังระลอกใหม่ 4–6 ส.ค.

พปชร.ฟาด'รัฐ'ล่าช้า ไม่ทันเลห์'เขมร' จี้เร่งฟ้องโลก'กัมพูชา'ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

ด่วน!! เริ่มวันนี้!! ประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง-ปลอดภัย

  • Breaking News
  • ‘บาหลี’ได้โอกาส!  ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ ‘บาหลี’ได้โอกาส! ทางเลือกนักท่องเที่ยวในช่วง‘ไทย-กัมพูชา’สู้รบ
  • เริ่มแล้ว!!! งาน\'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย\' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ เริ่มแล้ว!!! งาน'ตรังยุทธจักรอาหารอร่อย' ส่งเสริมท่องเที่ยว-กระตุ้นเศรษฐกิจ
  • \'ศรีริต้า\'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ 'ศรีริต้า'บริจาค 9 แสนช่วยทหารบาดเจ็บ แถมวิดีโอคอลให้กำลังใจ
  • ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด ทีม พม.รุดสุพรรณบุรี ช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเหยื่อพลุระเบิด
  • พระลูกวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จำวัดท่ามกลางเสียงระเบิด พระลูกวัดชายแดนไทย-กัมพูชา จำวัดท่ามกลางเสียงระเบิด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สองพ่อลูก‘ชิน’กับ‘ฮุน’ไปให้พ้นได้ก็ดี

สองพ่อลูก‘ชิน’กับ‘ฮุน’ไปให้พ้นได้ก็ดี

31 ก.ค. 2568

‘ฮุน เซน’ก่อสงครามค้ากำไรจาก‘ซากศพ’

‘ฮุน เซน’ก่อสงครามค้ากำไรจาก‘ซากศพ’

30 ก.ค. 2568

ต้องฟ้อง ‘2 พ่อลูกตระกูลฮุน’ อาชญากรสงคราม

ต้องฟ้อง ‘2 พ่อลูกตระกูลฮุน’ อาชญากรสงคราม

29 ก.ค. 2568

ต้องให้‘เตีย บันห์’โค่นอำนาจ‘ฮุน เซน’

ต้องให้‘เตีย บันห์’โค่นอำนาจ‘ฮุน เซน’

28 ก.ค. 2568

‘ชิน-ฮุน’ต้นตอปัญหา‘ไทย-เขมร’

‘ชิน-ฮุน’ต้นตอปัญหา‘ไทย-เขมร’

25 ก.ค. 2568

หมดเวลา‘ทักษิณ-แพทองธาร’

หมดเวลา‘ทักษิณ-แพทองธาร’

24 ก.ค. 2568

‘ทักษิณ’ขึงพืด‘พรรคร่วมรัฐบาล’

‘ทักษิณ’ขึงพืด‘พรรคร่วมรัฐบาล’

23 ก.ค. 2568

ความจริงมีหนึ่งเดียว‘ทักษิณ-ฮุน เซน’

ความจริงมีหนึ่งเดียว‘ทักษิณ-ฮุน เซน’

22 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved