แม้ฝนโหมกระหน่ำอย่างหนักแบบไม่ลืมหูลืมตาสลับกับแสงแดดอันแผดจ้าร้อนระอุดุจเปลวไฟ และแม้จะต้องต่อแถวเข้าคิวนานถึง 10 ชั่วโมง จนถึงตีสามของวันใหม่ แต่คลื่นพสกนิกรผู้จงรักภักดีจากทั่วสารทิศของประเทศยังคงไม่ย่อท้อด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่หลั่งไหลสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เป็นโอกาสสุดท้ายหลังจากที่สำนักพระราชวังประกาศให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพได้จนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ เนื่องจากต้องมีการเตรียมการในพระราชพิธีอันยิ่งใหญ่ถวายพระเพลิงพระบรมศพในเดือนหน้า
สำนักพระราชวังได้สรุปจำนวนประชาชนที่เดินทางเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพล่าสุดรวม 324 วัน มีจำนวนถึงกว่า 11 ล้านคน และคาดว่ายอดประชาชนจะเพิ่มมากกว่า 15 ล้านคน ในสิ้นเดือนนี้แน่นอนเพราะประชาชนต่างหลั่งไหลมาถวายบังคมพระบรมศพล่าสุดถึงวันละกว่า 7 หมื่นคน ยังไม่รวมประชาชนทั้งในและต่างประเทศที่ต่างแสดงเจตจำนงสมัครเป็นจิตอาสาจำนวนมากเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
ส่วนยอดเงินที่ประชาชนถวายเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลล่าสุดมีจำนวนกว่า 820 ล้านบาท และคาดว่ายอดเงินถวายเพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลเมื่อถึงสิ้นเดือนอาจสูงใกล้ 1,000 ล้าบาท หรือกว่านั้น
การที่พสกนิกรไทยทั้งในและต่างประเทศจำนวนกว่า 11 ล้านคน ต่างแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สะท้อนให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ถึงความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างคนไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์และสะท้อนให้เห็นว่าปวงชนชาวไทยมีความรักเทิดทูนอย่างหมดหัวใจต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงตรากตรำปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อราษฎรของพระองค์ตลอด 70 ปี แห่งการครองราชย์ที่ยาวนานที่สุดในโลกซึ่งคงหาไม่ได้ในพระมหากษัตริย์องค์ใดในโลกนี้
ความยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกและได้รับการยอมรับว่าเป็น King Of Kings เพราะไม่เพียงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งทำทุกอย่างเพื่อความผาสุกของทวยราษฎร์ประดุจพ่อดูแลลูก แต่ยังได้รับการยอมรับในพระอัจฉริยภาพในหลายด้านทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ดนตรี กีฬา การพัฒนา รวมทั้งแนวคิดเศรษฐกิจแบบพอเพียง ซึ่งองค์การสหประชาชาติยึดถือเป็นแบบอย่างแนะนำให้ประเทศต่างๆทั่วโลกใช้เป็นแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเคยถวายรางวัลและสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศด้วยเกียรติยศสูงสุดในฐานะพระมหากษัตริย์นักคิดนักพัฒนาผู้ยิ่งใหญ่
การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกและเป็นที่รักเทิดทูนของคนไทยทั้งแผ่นดินก็เนื่องด้วยทศพิธราชธรรม 10 ประการที่ทรงยึดถือปฏิบัติอย่างจริงจังตลอดการครองราชย์ ประกอบด้วย 1.ทาน โดยทรงช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้โดยไม่แยกชั้นวรรณะ 2.ศีล ทรงตั้งใจออกผนวชและศึกษาหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างจริงจังและนำมาใช้ในการปกครองแผ่นดินให้ร่มเย็น 3.บริจาค ทรงบริจาคสิ่งของพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนอย่างมิได้ขาด หรือแม้แต่บริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ที่มีผู้ทูลเกล้าฯถวายเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาที่เรียนดีแต่ยากจน รวมไปถึงการบริจาคเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนทั่วประเทศได้ดีขึ้น
4.อาชวะ ทรงมีความซื่อตรงไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง และมีจิตใจที่ใสสะอาดไม่มีอคติหรือคิดร้ายต่อใคร 5.มัทวะ ทรงมีความอ่อนโยนไม่ถือพระองค์และไม่ดูหมิ่นผู้ใด 6.ตบะ ทรงมีความเพียรอย่างแรงกล้าและตรากตรำตลอดการครองราชย์โดยมุ่งที่จะทำให้พสกนิกรของพระองค์อยู่เย็นเป็นสุข 7.อักโกธะ หรือความไม่โกรธ ซึ่งทรงเป็นผู้ที่มีอารมณ์เยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีเหตุให้ทรงพระพิโรธแต่ก็ทรงข่มพระทัยจนความโกรธมลายหายไป 8.อวิหิงสา ทรงไม่เบียดเบียน เอาเปรียบหรือสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นไม่ว่าจะโดยทางตรงทางอ้อม 9.ขันติ ทรงมีความอดทนเป็นเลิศซึ่งไม่ว่าจะยากลำบากตรากตรำสักเพียงใด 10.อวิโรธนะ อันหมายถึงความเที่ยงธรรม ซึ่งสะท้อนจากปฐมบรมราชโองการที่พระองค์ทรงพระกระแสพระราชดำรัสเมื่อเริ่มครองราชย์ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม”
จึงไม่น่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่คลื่นประชาชนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลแบบมืดฟ้ามัวดินด้วยจิตใจอันแน่วแน่โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากเพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระภัทรมหาราชผู้อยู่ในดวงใจของคนไทยทั้งแผ่นดินไปชั่วกาลนานเป็นครั้งสุดท้าย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี