สถานีตำรวจหรือโรงพัก คือ หน่วยงานหน้าด่านสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับใช้ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อมีปัญหาต้องการร้องทุกข์ โดยหวังให้ตำรวจช่วยคลี่คลาย ทว่าไปโรงพักก็เป็นจุดแตกหัก ถ้าประชาชนคิดว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ เช่น การบริการไม่ดี คดีล่าช้า หรือแม้แต่เรียกเก็บเงินทอง จนเป็นเหตุสู่การวิวาทะกันอีกอย่างตำรวจจะดี หรือไม่ดี ก็เกิดขึ้นที่นี่ด้วย

โรงพักหากถูกร้องเรียนบ่อย นั่นหมายถึงภาพลักษณ์ที่ไม่ดี จึงเป็นภาระของผู้กำกับการ ในฐานะเป็นผู้บริหาร ต้องสร้างความศรัทธา เชื่อมั่นแก่ประชาชน อีกหนึ่งนายตำรวจที่ได้รับความไว้วางใจให้มาทำหน้าที่โรงพักในเมืองกรุง มีแนวคิดและวิธีการทำงานที่น่าสนใจ พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญรรท.ผกก.สน.สายไหม หรือ “ผกก.พจน์” เรามาทำความรู้จักกับนายตำรวจผู้มากประสบการณ์รายนี้กันเลย พ.ต.อ.ธรากร เป็นชาวกรุงเทพฯ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็น นรต.รุ่น 50 ได้สวมบทบาท ผกก.โรงพักครั้งแรก พร้อมนโยบาย ประชาชนต้องมีความสุข ทุกครั้งเมื่อเดินขึ้นโรงพัก   

หากดูประวัติจัดได้ว่า เป็นตำรวจที่ครบเครื่องเริ่มรับราชการในตำแหน่ง รอง สว.สอบสวน สน.ประชาชื่นรอง สวป.สน.บางรัก รอง สว.สืบสวน สน.ยานนาวา สว.สืบสวน สน.โชคชัย สว.สืบสวน สน.ยานนาวา นายเวร พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น อดีต ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผกก.ป.สน.พหลโยธิน ผกก.1 บก.ปคม. ผกก.4 บก.ทท. (ปัจจุบัน บช.ทท.) ผกก.ฝอ.บก.น. 1 และ รรท.ผกก.สน.สายไหม

พ.ต.อ.ธรากร บอกว่าสิ่งแรกที่ทำ คือจัดภูมิทัศน์ทั้งในและรอบโรงพักให้สะอาด ตำรวจต้องยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับด้วยวาจาสุภาพ เต็มใจและพร้อมให้บริการ พนักงานสอบสวนต้องไปที่เกิดเหตุทุกคดี และเตรียมปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยเฉพาะที่ห้องสอบสอบ เพราะเชื่อว่าสภาพแวดล้อมที่ดีจะส่งผลให้บรรยากาศการทำงานของตำรวจและพี่น้องประชาชนที่มารับบริการก็จะดีไปด้วย

“เราได้รับความมือจาก กต.ตร. คาดหลังปีใหม่น่าจะเสร็จ ทำเท่าที่งบประมาณมี พื้นห้องสอบสวน โต๊ะเก้าอี้ ตู้ใส่เอกสารต่างๆ ที่ใช้งานมานานต้องเปลี่ยนหมด จุดรอประชาชนจะติดแอร์ยันด้านนอก แล้วทำประตูแบบเลื่อนอัตโนมัติ อย่างน้อยๆ ประชาชนร้อนมากจากที่อื่น ก็มาพักที่เราสมกับคำว่า โรงพัก”

นอกจากนี้ ยังมีโครงการ “ตำรวจสายไหม ใครใครก็รัก” คิดว่าถ้าตำรวจทุกนายมีพลังบวก เชื่อว่า ตำรวจจะแสดงออกด้วยกิริยาและวาจาที่ดีต่อประชาชน เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุต้องรายงานตัว จดข้อความที่ประชาชนแจ้งให้ชัดเจน พร้อมกับแจ้งกลับไปด้วยว่าทางตำรวจสายตรวจ หรือร้อยเวร จะไปถึงที่เกิดเหตุภายในกี่นาที ซึ่งตนได้เพิ่มหมายเลขโทรศัพท์มือถือ เพื่อเพิ่มช่องทางการติดต่อไว้แล้ว จากเดิมมีแค่เบอร์ 02

รรท.ผกก.สน.สายไหม อธิบายว่า เราโชคดีอยู่อย่างที่สภาพพื้นที่สายไหม ติด จ.ปทุมธานี บรรยากาศจะกึ่งๆ ลูกทุ่ง ประชาชนค่อนข้างมีความรักและศรัทธาตำรวจ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ปัญหายาเสพติด เพราะมีการแพร่ระบาดสูง จึงให้ความสำคัญเรื่องตำรวจชุมชนสัมพันธ์ โดยจะจัดกำลังออกตรวจเยี่ยมทุกสัปดาห์ อย่างน้อยๆ ประชาชนจะได้ส่งข่าวให้เรา แล้วชุมชนนั้นก็จะห่างไกลจากปัญหาดังกล่าว

จุดเด่นของตำรวจสายไหม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กันมานาน บางนายกว่า 20 ปีแล้ว ด้วยประสบการณ์ทำให้หลับตาก็เห็นภาพ งานป้องกันปราบปราม ตำรวจที่จบใหม่ต้องออกตรวจคู่กับรุ่นพี่ งานสืบสวนก็เช่นกัน ตำรวจรุ่นพี่เปรียบเสมือน ครู และจุดเด่นอีกอย่างคือความเคารพระบบอาวุโสสำคัญที่สุด

ผกก.พจน์ พูดถึงสไตล์การทำงานว่า เป็นคนทำงานเร็วและติดตามงานตลอด สั่งงานอะไรไปจดไว้หมด และให้เวลาลูกน้องทำงาน มีขอบเขต 3 วัน 5 วัน หรือ 7 วัน ตนผ่านการทำงานมาทุกหน้างาน จึงค่อนข้างเข้าใจหัวอกลูกน้อง เช่น งานสอบสวน ตอนตนมาใหม่ๆ สำนวนคดียังค้างอยู่เยอะ ก็ค่อยขยับไปเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ไม่เหลือสำนวนคดีของปี 2558 แล้ว

“ผมบอกว่าสิ่งที่ทุกคนเจอ ผมเจอมาหมดแล้ว ขอบคุณผู้บังคับบัญชา ที่ไว้วางใจให้มาแก้ปัญหางานโรงพัก ให้โอกาสทำงาน ในพื้นที่สายไหม ขณะนี้ผมเป็นผู้บริหาร ถ้าแก้ไขปัญหาไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นผู้บริหารที่ไม่ดี แต่หากผมแก้ไขได้ ก็ขอยกความดีให้กับลูกน้องทุกนาย”

พ.ต.อ.ธรากร กล่าวทิ้งท้ายว่า กำลังปรับปรุงเรื่องระเบียบวินัยตำรวจให้เข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ดี ตนเข้าใจ ว่าตำรวจรอบนอกจะเข้มเหมือนตำรวจพื้นที่ชั้นใน กทม.คงไม่ได้ เพราะว่าเขาผ่านงานที่หนักมา ฉะนั้นเราต้องค่อยๆ ปรับให้เขา เพราะถ้าภาพลักษณ์ดี จะทำให้ประชาชนเชื่อถือ ส่วนตำรวจจราจร ที่ประชาชนมักมองภาพลักษณ์ไม่ดีก็ต้องปรับแก้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามอำนาจ หน้าที่การบังคับใช้กฎหมาย

“ผมประกาศเลยว่า ตำรวจจราจรของผมจะไม่เดินหนีเมื่อถูกถ่ายวีดีโอ และต้องสามารถชี้แจงได้ว่า จับเขาเพราะอะไร ถ้าเดินหนีวันรุ่งขึ้น เราไม่ต้องมาคุยกัน”

ทีมข่าวอาชญากรรม