อย่างไรคือ “ไทยนิยม” ส่วนตัวผมยอมรับและออกตัวเลยว่า ชอบคำคำนี้ และไม่ต้องการให้คำคำนี้ กลายเป็นคำที่มีความหมายในทางไม่สร้างสรรค์ หรือกลายเป็นคำเฉพาะทางด้านใดด้านหนึ่งไปความหมายเดียวเพราะคำนี้จะกลายเป็นคำสร้างสรรค์ทางการตลาดต่อประเทศไทยของเราที่เท่ได้
คุณบรรยง พงษ์พานิช ได้กรุณาเล่าให้ฟังครับว่า ในมุมมองของคุณบรรยงนั้น คำคำนี้กลายเป็นวาทกรรมประดิษฐ์ใหม่แห่งต้นปี 2561 ไปเสียแล้ว
คุณบรรยงแกสะท้อนไว้ว่า...
ได้ยินคำนี้หลายครั้งแล้วครับ แต่ยังไม่เข้าใจความหมายเลย ผมพยายามไปตามการอธิบายของท่านผู้ประดิษฐ์คำเท่นี้ขึ้นมา ก็ไม่เห็นมีสาระเนื้อหาอะไร นอกจากการเอาคำพูดมาเรียงๆกันไม่มีการสอดคล้อง หาแก่นสารไม่เจอ เหมือนนึกคำอะไรได้ก็พูดๆขึ้นมา อย่างที่ท่านไปอธิบายที่งานวันครูว่า “ประชาธิปไตยไทยนิยมของผม ก็เหมือนคนไทยชอบอะไรก็ชอบ รักอะไรก็รัก เกลียดอะไรก็เกลียดบางคนก็รักๆ เกลียดๆ เดี๋ยวข้างนี้บ้าง ไปเกลียดข้างโน้น ผมไม่เคยเกลียดใคร เพราะทุกคนคือคนไทยทั้งสิ้นเว้นแต่บางคนเค้าเกลียดผม แต่ในความเห็นผม ไม่น่ามีนะ” บ่องตงมันเกินปัญญาคนสมองตื้นอย่างผมจะเข้าใจ
ท่ามกลางความงุนงงผมก็เลยไพล่ไปนึกถึงคำอย่าง Burmese Way to Socialism ที่น่าจะแปลได้ว่า “สังคมพม่านิยม” ซึ่งเป็นระบบที่นายพลเนวิน จอมทรราชแห่งพม่า คิดประดิษฐ์ขึ้นมาหลังจากรัฐประหารยึดอำนาจจากประธานาธิบดีอูนุได้ในปี 2505 แล้วก็ใช้ปกครองพม่ามาร่วมห้าสิบปีซึ่งก็ได้ผลในแง่ของความ “มั่นคง” สามารถ “เอาอยู่” ให้ประเทศอยู่ภายใต้อุ้งตีนเหล่าขุนทหารได้ยาวนานร่วมห้าสิบปี
…ส่วนเรื่องความ “มั่งคั่ง” นั้นไม่ต้องพูดถึง นอกจากเหล่าทหารและพ่อค้าที่สวามิภักดิ์ในเครือข่ายที่มั่งคั่งอ้วนพีแล้ว ประชาชนทั่วไปล้วนอดอยากปากแห้งกันทั่ว การพัฒนาหยุดชะงัก สามารถทำให้ประเทศที่มีทรัพยากรมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ให้กลายเป็นประเทศที่ยากจนเกือบที่สุดในเอเชียได้อย่างน่าอัศจรรย์ จากเมื่อปี 2505 ที่ชาวพม่ามีรายได้ต่อคนต่อปีสูงเป็นกว่า 150% ของคนไทยมาปัจจุบันมีรายได้แค่หนึ่งในห้าของเรา($1,200/$5,900) ดีกว่าแค่เขมรกับอัฟกานิสถานเท่านั้น นี่แหละครับ “นวัตกรรมการปกครอง” แบบ “พม่านิยม” ใช้แต่ภูมิปัญญาพม่ามากำหนด
หรือจะเลยไปถึงระบอบ Bolivarianism นวัตกรรมของ Hugo Chavez ซึ่งเป็นส่วนผสมมั่วๆ ของสังคมนิยมชาตินิยมและประชานิยมที่คิดขึ้นมาเพื่อเถลิงอำนาจปกครองเวเนซูเอล่าจนตลอดชีวิตซึ่งก็ “มั่นคง” อยู่ได้ก็เฉพาะช่วงชีวิตท่านชาเวซเท่านั้น ปัจจุบันประเทศก็ลุกเป็นไฟ ล้มเหลวในทุกด้านประชาชนเดือดร้อนไปทั่ว
นี่แหละครับ …ทั่วโลกเขามีประสบการณ์มีบทเรียนมีภูมิปัญญาสากลที่ผ่านการปรับปรุงพัฒนาการปรุงแต่งกันมาอย่างดี ถึงแม้ยังไม่มีที่ไหนถึงจุดสมบูรณ์พร้อม แต่ก็จะเป็นการเสี่ยงเกินไปนะครับ ที่เราจะคิดดัดแปลงตามใจโดยไม่ดูหลักการที่พัฒนามา
ขอกลับมาสู่คำ “ประชาธิปไตยไทยนิยม” นะครับ ไหนๆ ท่านก็ทำท่าชัดแจ้งว่านี่ต้องเป็นระบบที่คนไทยจะต้องถูกบังคับยัดเยียดให้ “นิยม” ให้จงได้ ก็ขอให้ท่านอธิบายให้แจ่มแจ้งได้ไหมครับว่า มันคืออะไร มีหลักการอย่างไร แตกต่างจาก “ประชาธิปไตยสากล” เขาอย่างไร หรือท่านจะคิดคำแล้วสั่งให้นักวิชาการรอบตัวท่านไปสร้างรายละเอียด สร้างทฤษฎีใหม่ขึ้นมารองรับก็ยังดี อย่างน้อยถึงจะไม่มีสิทธิมีเสียง พวกเราประชาชนจะได้รู้ว่า จะต้องถูกปกครองอย่างไรจะได้ “อยู่ให้เป็น” ทำตัวได้ถูก
อย่างที่ท่านทำมา รัฐธรรมนูญเฉพาะตน 179 มาตรา แผนยุทธศาสตร์ล็อกชาติ 20 ปี และนานามาตรการดูมันไม่มีหลักอะไรเป็นแก่นเลยนะครับ เหมือนนึกอะไรได้ ก็ทำ ก็สั่ง ก็เติมไปเรื่อยๆ อย่างให้ประชารัฐช่วยส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน โดยที่ไม่มีมาตรการส่งเสริมการแข่งขันในด้านไหนเลย ก็ดูจะขัดกับหลักสากลโดยสิ้นเชิง
ใครก็ได้ช่วยให้นิยามให้คำอธิบาย “ประชาธิปไตยไทยนิยม”ให้ชัดเจนหน่อยได้ไหมครับ หรือท่านจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการเพื่อการนี้อีกสักคณะ ก็ได้นะครับ เพราะไหนๆเราก็มีหลายสิบหลายร้อยคณะแล้ว ที่ท่านตั้งขึ้นมาในสี่ปี
คือก็จะเห็นครับว่าเวลาผู้นำประเทศมีวาทกรรมประดิษฐ์ใดๆ ออกมาจะกลายเป็นผลบวกหรือลบหรือสร้างสรรค์ในระดับใดนั้นเป็นเรื่องที่ใหญ่ที่ต้องมองให้ลึกและต้องระวัง
………………………………………
ตอนนี้คำว่า “ไทยนิยม” ดันกลายเป็นคำศัพท์วาทกรรมไปทางการเมืองเสียแล้วแต่ว่า..
อย่างที่ผมเคยว่ากันไปก่อนหน้านี้ในบทความก่อนๆครับว่า หลายๆการบรรยายของคุณกรณ์ จาติกวณิช แกได้เน้นคำว่า Hi-Tech หรือการพัฒนาบ้านเรา ประเทศไทยของเราต้องมาคู่กับ Hi-Touch
ย้ำกันตรงที่ Hi-Touch นี่แหละครับที่ผมมองว่า แปลเป็นไทยได้อย่างเท่ๆ เชิงการตลาดได้ว่า “ไทยนิยม” จึงรู้สึกเสียดายคำนี้ที่ถูกนำมาใช้ในทางการเมืองเรียกเป็น ประชาธิปไตยไทยนิยมไปเสียอย่างนั้น
Hi-Touch คือ Soft Power ของประเทศที่ไม่อาจมีประเทศใดทำได้เหมือนเรา คือสมบัติของชาติทางด้านศิลปวัฒนธรรม ประเพณี รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวทุกแบบ อาหารการกิน และแน่นอน รวมถึงวัฒนธรรมร่วมสมัยของประเทศ
ประเทศที่ประสบความสำเร็จจาก Hi-Touch ก็ไม่ไกลเรานี่เองครับ ญี่ปุ่น เกาหลี หรือแม้แต่จีนก็ตาม ญี่ปุ่นโดดเด่นมาก ขายวัฒนธรรมจนเป็นสินค้าส่งออกได้อย่างสง่างาม อาหารญี่ปุ่นใครๆ ก็รู้จักแพร่หลาย และกินง่าย และติดใจกันทุกคนทุกชาติไป
กลับมาที่ไทยของเราครับ หลับตานึกตอนนี้ Hi-Touch ของเราก็หนีไม่พ้นสิ่งที่ดีงามที่มีอยู่แล้วในประเทศนี้ หลายอย่างถูกลดความสำคัญ ลดราคา ลดการให้คุณค่าไปมาก เช่น “ข้าวไทย” และแน่นอน ผมพูดเสมอมา ข้าวอิ่ม ตอบโจทย์จุดนี้ที่ชูจุดเด่นของข้าวไทย เพิ่มมูลค่าได้ด้วย การสร้างสตอรี่ สร้างประสบการณ์ สร้าง Hi-Touch ในตัวข้าวของไทยเราที่โดนมองข้ามมาจนมีราคาขึ้นมาได้ ผสมผสานกับศาสตร์ของผ้าขาวม้าชาวบ้าน แล้วให้ไทยดีไซเนอร์มาออกแบบไทยๆ จนติดตลาดเพิ่มรายได้ให้ชาวนามหาสารคาม มาถึงปีที่ 4
Hi-Touch ของไทยอีกอย่างที่ดังมากๆ ตอนนี้คือภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง ๙ ศาสตรา ที่นำเสนอเนื้อหาฮีโร่ที่ใช้ “มวยไทย” ในการต่อสู้กับยักษ์ที่มีเค้าโครงมาจากรามเกียรติ์และแน่นอนที่ดีงามที่สุดคือการนำเสนอความเป็นไทยได้อย่างไม่ยัดเยียดจนเกินไป มีชั้นเชิงในการนำเอกลักษณ์วัฒนธรรมของชาติมาเปิดโลกให้ชาวโลกได้เห็นและเข้าใจ
ตัวอย่างง่ายๆ ของผมตัวอย่างสองเรื่องนี้คือ “ไทยนิยม” ในนิยามที่ควรจะเป็นคือเอา “ไทยนิยม” มาขายของเป็นสินค้าและบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้ชาวโลกได้จับจ่าย เอาเงินเข้าประเทศของเรา สร้างวาทกรรมประดิษฐ์ได้ แต่ควรเป็นวาทกรรมสร้างสรรค์เป็นบวกเป็นคุณต่อคนในชาติส่วนรวม ไม่ควรจะนำชื่อเท่ๆ แบบนี้ มากลายเป็นวาทกรรมการเมือง เสียดายจริงๆ ครับ..
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี