ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ หรือ ถนนวิภาวดีรังสิต จากที่มีฝั่งละ 4 เลนสวนทาง ต้นสนปักเกาะกลางทั้งสาย ข้างทางรายล้อมด้วยต้นมะขาม แต่ปัจจุบันถนนกว้างขึ้น และเป็นเส้นทางหลัก เพิ่มเติมคือมีโทลล์เวย์ สะพานข้ามแยกหลักสี่ ตามสภาพการขยายตัวของเมือง ในความรับผิดชอบของ ศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ หรือเรียกกันติดปากว่า สน.วิภาวดี

เพื่อความรวดเร็วในการเดินทาง สู่สนามบินดอนเมือง และชั่วโมงเร่งด่วนเช้า-เย็น จึงปรากฏภาพตำรวจ สน.วิภาวดี คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และเป็นที่รู้กันว่ามีความเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เรามาทำความรู้จักผู้รับผิดชอบงานนี้กันเลย พ.ต.ท.พันษาอมราพิทักษ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ กก.2 บก.จร.บช.น. หรือ รองฯกุ๊ก ซึ่งเป็นเรี่ยวแรงสำคัญของหน่วยงาน

พ.ต.ท.พันษา อายุ 36 ปี จบ นรต.รุ่น 57 พื้นเพเป็นชาวกรุงเทพฯ เริ่มรับราชการเป็น รอง สว.ประจำ รร.นรต. ก่อนย้ายมาอยู่งานสอบสวน สน.ปทุมวัน และสน.นางเลิ้ง จากนั้นเป็นนายเวร ผบก.จร. เมื่อปี 2550 เป็น รอง สว.กก.5 บก.จร. ผู้ช่วยนายเวร ผบช.ส. สว.ฝ่ายกฎหมายและวินัย บช.ส. สว.ตำรวจรถไฟศิลาอาสน์ บก.รฟ. สว.ทางหลวง 3 ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2560 
ขึ้นรอง ผกก.สน.วิภาวดี

“ดีใจมีโอกาสเป็นหัวหน้าหน่วยงานนี้ ความรู้สึกตั้งแต่รับราชการเป็น ร.ต.ต.มาจนถึง พ.ต.ท.ที่นี้ถือว่างานหนักที่สุด ก่อนเป็นตำรวจเห็นถนนวิภาวดีฯรถติดพอเป็นนายเวรผู้การจราจร รถก็ยังติดอยู่ ปัจจุบันปริมาณรถมากขึ้นมหาศาล แต่ถนนเท่าเดิม อีกทั้งมีแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าเกิดขึ้นอีก”

รองฯกุ๊ก อธิบายว่า ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นถนนหลักที่เชื่อมต่อถนนดินแดง สุทธิสาร รัชดาภิเษก งามวงศ์วาน แจ้งวัฒนะ พหลโยธิน กำแพงเพชร 2 ลาดพร้าว สน.วิภาวดี รับผิดชอบประมาณ 46 กิโลเมตร เริ่มจากใต้ทางด่วนดินแดง สุดดอนเมือง เขต จ.ปทุมธานี ยกเว้นฟุตปาธเป็นของโรงพักพื้นที่

ที่ว่าตำรวจ สน.วิภาวดี ทำงานหนักเพราะว่าช่วงเช้าเราเจอชั่วโมงเร่งด่วน พ้นชั่วโมงเร่งด่วนรถเริ่มคลี่คลาย จากนั้นดูผู้กระทำผิดที่ทำให้รถติด หรือเกิดอุบัติเหตุช่วงบ่ายรับมอบหมายภารกิจ ตกเย็นชั่วโมงเร่งด่วนอีกจากนั้น 3 ทุ่ม กวดขันรถจอดในที่ห้ามจอด หลัง 4 ทุ่มถึงตี 4 ป้องกันปราบปรามเด็กแว้น พ้นจากนั้นดูรถเสียและอุบัติเหตุเตรียมรับชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเช้า

“งานค่อนข้างเหนื่อย แต่ดีใจมีโอกาสได้ทำหน้าที่ เพราะว่างานหนักไม่เคยฆ่าใคร มีโอกาสได้ทำงาน ก็มีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเอง เคยได้รับประกาศเกียรติคุณ แบบอย่างการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจจราจร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 จาก พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. เป็นรางวัลในการทำงานต่อไป”

รอง ผกก.จราจรวิภาวดี กล่าวต่อว่า หน้าที่ตำรวจสน.วิภาวดี เหมือนตำรวจจราจรทั่วไป แต่มีอำนาจในการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนถนน ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและสืบสวนสอบสวนเฉพาะคดีจราจรเท่านั้น ถามว่า สน.วิภาวดี เขี้ยว กว่า สน.อื่นไหม อยู่ที่การกระทำความผิดในเรื่องดุลยพินิจการใช้อำนาจ เช่น ผู้บังคับบัญชาเน้นเรื่องไม่สวมหมวกนิรภัย ขับจักรยานยนต์ย้อนศร

เมื่อฝ่าฝืนกฎตำรวจต้องปรับสูง เพราะเป็นข้อหานโนบาย ที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุสูง และดูว่าช่วงนี้สถิติที่เกิดขึ้นมีคนบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุใดมากที่สุด มีผลวิจัยมาแล้วว่าการปรับสูง จะช่วยลดไม่ให้อยากทำผิดกฎหมายอีก สมมุติเราปรับแค่ 1 ร้อยบาท ผู้ฝ่าฝืนไม่เข็ดหลาบจำ คิดแต่เพียงว่าสะดวกไม่สวมหมวก ขับย้อนศรแต่ยอมให้ปรับเงิน แต่คำว่าอุบัติเหตุไม่มีใครคิดว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

เจ้าของรหัสนก.วิภา1 ให้ความเห็นเรื่องตำรวจจราจร กับประชาชนว่า ประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ และให้ความร่วมมือกับตำรวจดี บางคนต้องยอมรับว่า มีมุมมองความคิดไม่ชอบตำรวจ แต่จะไปเปลี่ยนความคิดคงไม่ได้ ตนบอกลูกน้องว่าเราเป็นตำรวจ รับภาษีพี่น้องประชาชน ยังไงก็ต้องอดทนอดกลั้น ทำหน้าที่ของเราให้ดี แล้วไม่ใช่เรื่องที่จะไปเถียงกับประชาชน ที่สำคัญเราต้องแม่นกฎหมาย

“เวลาไปจับต้องรู้ว่าเขาผิดอะไร ถ้าเรียกรถมา1 คัน ต้องมีความผิดชัดเจน ไม่ใช่มาเดินรอบรถเพื่อหาความผิดเพิ่ม เราจับเพื่อต้องการลดอุบัติเหตุ ไม่ใช่ว่าหาเรื่องจับ เรามีสวัสดิการให้ลูกน้องทั้ง เรื่องอาหาร เครื่องแบบ ซ่อมรถ อื่นๆ แต่ไม่ใช่ว่าเราให้อย่างเดียว สิ่งที่เราขอคือ ต้องทำงานอยู่ในกรอบ”   

อุบัติเหตุเกิดขึ้นด้วยหลายปัจจัย คน รถ ถนนและสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจัยสูงสุดคือ คน แล้วการแก้อุบัติเหตุมี 3 หลัก คือ Enforcement, Engineeringและ Education ฉะนั้น เราต้องประชาสัมพันธ์ ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย และอยากให้ทุกคน มีวินัยจราจรในตัวเองก่อน แล้วภาพรวมของสังคมจะดีขึ้น ต้องร่วมกันทั้งตำรวจและประชาชน พ.ต.ท.พันษา ฝากถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน

ทีมข่าวอาชญากรรม