ไม่มีอะไรพลิกโผสำหรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายทหารชั้นผู้ใหญ่ชั้นนายพลรวม 935 ตำแหน่งในกระทรวงกลาโหม 5  หน่วยงานคือสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม  กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศโดยผู้ที่รับสนองพระบรมราชโองการฯได้แก่”บิ๊กคู่” พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของไทย   ปีนี้เป็นการเปลี่ยนแปลง 5  ตำแหน่งผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมดยกแผงเลยทีเดียว

สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมประกอบด้วยพลเอกณัฐ  อินทรเจริญ  เตรียมทหารรุ่นที่ 20  เลื่อนจากรองปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นปลัดกระทรวงโดยมีตำแหน่งรองปลัดกระทรวงใหม่ทั้ง 4 คนคือพลเอกสมศักดิ์  รุ่งสิตา,พลเอกวิชัย แชจอหอ,พลเรือเอกพิเชษฐ์  ตานะเศรษฐ  พลอากาศเอกปรเมศร์  เกษโกวิทและมีพลเอกนิรันดร สมุทรสาครเป็นจเรทหารทั่วไปครองอัตราจอมพล 

กองบัญชาการกองทัพไทยได้แก่”บิ๊กกบ” พลเอกพรพิพัฒน์  เบญญศรีเตรียมทหารรุ่นที่18  เสนาธิการทหารเลื่อนเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด  รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด  4  อัตราได้แก่ พลเอกบัณฑิตย์  บุญยะปาน พลเอกวีรชัย  อินทุโศภน  พลเรือเอกนวพล  ดำรงพงศ์ และพลอากาศเอกวันชัย  นุชเกษม  พลเอกชัยชนะ   นาคเกิดจากรองเสนาธิการทหารเป็นเสนาธิการทหาร   และมีอัตรารองเสนาธิการทหารอีก 4  คนคือพลเรือเอกพัชระ  พุ่มพิเชฎฐ์  พลเอกปริญญา ขุนนาศรีพลเอกชูชาติ บัวขาวและพลอากาศเอกไพศาล  น้ำทับทิม  พลเอกธนเกียรติ  ชอบชื่นชม เป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พลเอกนเรนทร์  สิริภูบาลเป็นผู้บัญชาการสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ   

กองทัพบกคงเป็นตามโผคือ”บิ๊กแดง”พลเอกอภิรัชต์  คงสมพงษ์  เตรียมทหารรุ่นที่ 20  เลื่อนจากผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกเป็นผู้บัญชาการทหารบก  พลเอกณัฐพล  นาคพาณิชย์  เสนาธิการทหารบกเป็นรองผู้บัญชาการทหารบกพลเอกวรวิทย์  วรรธนะศักดิ์ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบกเป็นประธานที่ปรึกษากองทัพบก พลเอกกู้เกียรติ ศรีนาคากับพลเอกวิจักขฐ์  สิริบรรสพเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกพลเอกธีรวัฒน์  บุณยะวัฒน์ จากรองเสนาธิการทหารบกเป็นเสนาธิการทหารบก  รองเสนาธิการทหารบกมี  5  อัตราคือพลโทคชายุทธ์  เสาวคนธ์,พลโทเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์,พลโทรุจน์ อ่อนน้อมพันธุ์,พลโทณรงค์ สบายพร,พลโทธเนศ  กาลพฤกษ์ 

ในขณะที่ตำแหน่งแม่ทัพภาคทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลงรวม 3 ภาคและแม่ทัพน้อยก็เปลี่ยนเกือบทุกตำแหน่งโดยแม่ทัพภาคที่ 2   ยังคงเป็นพลโทธรากร  ธรรมวินธรคนเดิมในขณะที่พลโทณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้เป็นแม่ทัพภาคที่ 1  พลโทฉลองชัย  ชัยยะคำเป็นแม่ทัพภาคที่ 3  พลโทพรศักดิ์  พูลสวัสดิ์เป็นแม่ทัพภาคที่ 4  ส่วนพลโทธรรมนูญ  วิถียังเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1  ในตำแหน่งเดิม  ส่วนแม่ทัพน้อยที่ 2 ,3 และ 4 มีการเปลี่ยนคนใหม่เข้ามาได้แก่แม่ทัพน้อยที่ 2 เป็นพลโทเถลิงศักดิ์  พูลสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 3  ได้แก่พลโทสุภโชค ธวัชพีระชัย  และแม่ทัพน้อยที่ 4  พลโทวิชาญ  สุขสง   

ตำแหน่งเทียบเท่าแม่ทัพภาคนั้นพลโทนพพร ดุลยาเลื่อนขึ้นจากรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศเป็นผู้บัญชาการหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ พลโทปราการ  ปทะวานิชเลื่อนจากรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดนเป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ส่วนพลโทสุนัย ประภูชะเนย์ยังคงเป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษคงเดิม

ด้านกองทัพเรือนั้น”บิ๊กลือ” พลเรือเอกลือชัย  รุดดิษฐ์เตรียมทหารรุ่นที่18  จากรองผู้บัญชาการทหารเรือเลื่อนเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอกโสภณ วัฒนมงคลเป็นรองผู้บัญชาการทหารเรือ  พลเรือเอกสุกิตติ เสงี่ยมพงษ์เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอกชาติชาย ศรีวรขานเป็นเสนาธิการทหารเรือ  พลเรือเอกพูลศักดิ์  อุบลเทพชัยเป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพเรือ พลเรือเอกนพดล สุภากรเป็นผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ส่วนพลเรือโทศังกร พงษ์ศิริยังคงเป็นผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินคงเดิมเนื่องจากเป็นผู้บัญชาการใหม่ที่รับตำแหน่งมาแค่ 6  เดือน

กองทัพอากาศนั้น”บิ๊กต่าย”  พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศจากเตรียมทหารรุ่นที่18  ขึ้นมาเป็น ผู้บัญชาการทหารอากาศตามความคาดหมายพลอากาศเอกชัยพฤกษ์เป็นน้องชายคนสุดท้องของนาวาอากาศเอกวีระยุทธ ดิษยะศรินกับพี่สาวคือปาริชาต  ดิษยะศริน  ซึ่งเป็นบุตรชายของท่านพลอากาศเอกประหยัด  ดิษยะศริน อดีต ดีดีการบินไทยและท่านผู้หญิงวิจิตรา ดิษยะศริน 

รองผู้บัญชาการทหารอากาศได้แก่พลอากาศเอกชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศได้แก่พลอากาศเอกชาญยุทธ  ศิริธรรมกุลและพลอากาศเอกถาวรวัฒน์  จันทนาคม เสนาธิการทหารอากาศได้แก่พลอากาศเอกมานัต วงษ์วาทย์  ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ  พลอากาศเอกภาณุพงศ์  เสยยงคะ  ในขณะที่ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการอากาศโยธินได้แก่พลอากาศโทชัยยะ  อุปริรัตน์ซึ่งเป็นคนเดิม 

ก็เป็นไปตามโผที่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงที่น่าสังเกตคือปีนี้มีการเปลี่ยนหัวหน้าหน่วยงานทั้ง5 ของกระทรวงกลาโหมทั้งหมดเป็นคนใหม่แต่ก็เป็นไปตาม”ไลน์” ของกองทัพที่เขาวางไว้แล้วอย่างเป็นระบบนั่นเอง

ทีมข่าวการเมือง