กูรูทางการเมืองต่างระบุว่า “บาดแผลสุดลึก” ที่ขอมดำดินอัปรีย์ชนในยุคโดรนพิฆาต ได้ทำกับชาวสารขัณฑ์ในวันนี้ ถือเป็น “แผลที่ฉกาจฉกรรจ์จนน่าจะรักษาไม่หายและรักษาไม่ได้”

“ต่อให้อีก 100 ปีข้างหน้า ก็จางหายไม่ได้ และอาจมีชาวสารขัณฑ์มากมายที่ไม่อยากให้จางหาย”

ชาวสารขัณฑ์ทุกผู้นามที่เคยเป็น “ม้าอารี” ให้แก่ขอมดำดินมายาวนาน บัดนี้ได้ประจักษ์ความจริงแล้วว่า ขอมทั้งหลายที่เป็น“โฮโมซาเปี้ยนพันธุ์กอมบาวก์” ต่างเป็น “มนุษย์สองหน้า” พร้อมจะเป็น “อสรพิษฤทธิ์ดุร้ายที่แว้งกัดได้ตลอดเวลาอย่างอำมหิต”

“อำมหิต อย่างสุดซีม่า เช่น ใช้ขวานโบราณจามหัวชาวสารขัณฑ์ในเวลาทีเผลอ แล้วขยันกอมบาวก์ด้วยการตอแหลว่า สำนึกผิดแล้ว ขอกลับมามีไมตรีกับสารขัณฑ์อีหรอบเดิม ครั้นสารขัณฑ์สวมกอดอย่างให้อภัย ขอมจัญไรก็ใช้ตรีศูลลงคาถาอาคมแทงกะซวกเข้าชายโครงชาวสารขัณฑ์จนมิดด้ามตรีศูลผ่านซี่โครงทะลุปอดอย่างดุดันยิ่งกว่าซาตานกลับชาติมาเกิด”

เห็นได้ชัดจากการรุกรานดินแดนสารขัณฑ์ตลอด และ “สุดชัด” อย่างที่สุดใน “ศึกนรก 5 วัน” ที่ผ่านมาระหว่าง 24-28 กรกฎาคม 2568

วันที่ 28 เที่ยงคืน มีการตกลงหยุดยิงอย่างไร้เงื่อนไขทั้งสองฝ่าย แต่ขอมจัญไรยังก่อสงครามแอบแฝง เช่น ฝังกับระเบิดในดินแดนสารขัณฑ์ จนทหารสารขัณฑ์ขาขาดไป 5 นาย และบาดเจ็บอีกจำนวนไม่น้อย และขอมยังขยันส่งโดรนนับร้อยรุกรานน่านฟ้าสารขัณฑ์ชนิดก่อกวนสุดมันไม่หยุดหย่อน

รายการ “รบแอบแฝง” ล่าสุด มีการยุยงให้มวลชนขอมกอมบาวก์ตลาดล่างที่เคยเป็น “ขอมชี้วัดหลังคา” มายาวนานร่วม 40 ปี ออกมากอมบาวก์จะให้ทหารสารขัณฑ์ เปิดรั้วลวดหนามเพื่อขอมจะได้กลับมาขี้รดหลังคาอีกครั้ง ปรากฏว่า ทหารสารขัณฑ์ต่างไม่ยอมเปิดรั้วลวดหนามจนกลายเป็น “ชาวนาอุ้มงูเห่า” โง่เง่าให้ขอมเนรคุณ

ขอมยังทำ “สงครามแอบแฝง” หรือ “สงครามแปลงร่าง”ทุกวันอย่าง “สุดคลั่ง” จนชาวสารขัณฑ์ถึงขั้นออกมาสร้างวาทกรรมความจริงที่ “สุดเจ็บ” ว่า “ขอมเป็นจอมเนรคุณที่คบไม่ได้” พร้อมกับมีการต่อสร้อย “100ปีนับจากนี้ไปไมตรีระหว่างสารขัณฑ์กับขอมจัญไรคงเกิดขึ้นไม่ได้”

100 ปีที่จะพิสูจน์ว่า โฮโมซาเปี้ยนสายพันธุ์อสรพิษลิ้นสองแฉก จอมลอบกัดและจอมกอมบาวก์ จะกลับมาเป็นมนุษย์สายพันธุ์ปกติอีหรอบเดียวกับชาวโลกทุกสัญชาติได้หรือไม่?

อยากถามคุณผู้อ่าน คิดว่าอีก 100 ปีข้างหน้า “ขอมจัญไรจะหยุดจัญไรได้มั้ย?

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม