ช่วงระหว่างวันที่ 5 - 11 สิงหาคม 2568 ผมได้รับเชิญจากนายกเทศมนตรีนครฮิโรชิมา และนายกเทศมนตรีนครนางาซากิ เพื่อไปเข้าร่วมในพิธีไว้อาลัยโศกนาฏกรรมการทิ้งระเบิดปรมาณู (Nuclear) เหนือนครฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2488 และเหนือนครนางาซากิ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2488 โดยฝ่ายสหรัฐอเมริกา ตามคำสั่งของประธานาธิบดี แฮร์รี เอส ทรูแมน เพื่อบีบบังคับให้ฝ่ายญี่ปุ่นยอมรับความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สองภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
ผมได้รับเชิญในฐานะที่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ (Special Advisor) แห่งองค์กร MayorsFor Peace ซึ่งส่งเสริมสันติภาพ และมุ่งขจัดอาวุธนิวเคลียร์ ที่จัดตั้งขึ้นด้วยการริเริ่มของนายกเทศมนตรีนครฮิโรชิมา ในช่วงปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525)
ผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมจากฝ่ายไทยก็มี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และคณะเจ้าหน้าที่อาวุโส กทม. 3 คน เนื่องจากกทม. เป็นเมืองสมาชิกขององค์กร Mayors For Peace
อีกคณะหนึ่งของไทยคือคณะนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย 3 คน ที่ชนะการประกวดเขียนเรียงความเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ โดยมีครูวิชาประวัติศาสตร์เป็นผู้นำคณะนักเรียนมา
นอกจากนั้นยังมีอีกคณะก็คือ กงสุลใหญ่ไทยที่นครฟุกุโอกะและคณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้มาเข้าร่วมในช่วงพิธีที่นครนางาซากิ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯกทม. ได้เข้าร่วมแค่นครฮิโรชิมา เพราะติดงานราชการที่กรุงเทพฯ
ผมคิดว่าพวกเราทุกคนที่ได้เข้าร่วมรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมในพิธีไว้อาลัยที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของโลก เพราะระเบิดปรมาณูเป็นอาวุธร้ายแรงและโหดร้ายที่สุดที่มนุษย์สามารถที่จะคิดค้นประดิษฐ์แล้วนำมาทำลายล้างกันได้
จากเหตุการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 มวลมนุษยชาติยังไม่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และเจริญก้าวหน้าไปข้างหน้าด้วยกันได้ ยังคงขัดแย้งพร้อมที่จะรบราฆ่าฟันกันต่อไป และบางหมู่คณะก็ดูจะไม่หวาดหวั่นที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์กลับมาใช้กันอีก และฉะนั้นองค์กร Mayors For Peace ก็ยังต้องมุ่งหน้ากันไปอย่างไม่ลดละ ไม่หวั่นไหว และตั้งมั่นในการที่จะเสริมสร้างสันติภาพและการขจัดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดสิ้นไปจากโลกนี้ ซึ่งนายกเทศมนตรีทั่วโลกก็จะมีบทบาทสำคัญเพื่อการนี้ เพราะเป็นตัวเชื่อมระหว่างพลเมืองประชากรกับความน่าสะพรึงกลัวในโลกกว้างของอาวุธนิวเคลียร์
พิธีไว้อาลัยทั้งที่นครฮิโรชิมา และนครนางาซากิมีกิจกรรมที่คล้ายคลึงกัน เช่น
- การยืนสงบเพื่อแสดงความเคารพและระลึกถึงผู้ที่จากไป และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วย ความทรมานกาย และใจ จากเหตุการณ์เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488
- การทำพิธีส่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมมาจากแหล่งน้ำสำคัญๆ ของจังหวัดฮิโรชิมา และจังหวัดนางาซากิ เพื่อเป็นสัญลักษณ์สะท้อนถึงความกระหายน้ำ และความอดอยากน้ำเป็นอย่างยิ่งซึ่งเป็นผลกระทบรุนแรงของระเบิดปรมาณู
- การวางช่อดอกไม้ต่ออนุสรณ์สถาน
- การปล่อยนกพิราบ 1 ฝูง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
- การแสดงดนตรีของซิมโฟนีออร์เคสตร้าโดยเด็กนักเรียน รวมทั้งการขับร้องประสานเสียง
- การกล่าวสุนทรพจน์โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประธานวุฒิสภาญี่ปุ่น ประธานสภาจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเทศมนตรีของนครฮิโรชิมา และนครนางาซากิ ไปจนถึงผู้แทนจากพรรคต่างๆ และสารจากเลขาธิการสหประชาชาติ
- การกล่าวสุนทรพจน์โดยผู้ที่รอดชีวิต (Survivor) แสดงความหวังว่าโลกจะปราศจากอาวุธนิวเคลียร์
- การขับร้องเพลงร่วมกันของผู้ที่รอดชีวิต 30 คนจากนครนางาซากิ
- ภายหลังพิธีไว้อาลัยดังกล่าวเสร็จสิ้น ในช่วงค่ำก็มีพิธีลอยตะเกียงน้ำมันในแหล่งน้ำ
กิจกรรมเคียงข้างกับพิธีไว้อาลัยก็มีการประชุมคณะกรรมการบริหารองค์กร Mayors For Peace และการประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 11 ขององค์กร Mayors For Peace ซึ่งมีผู้แทนจากเมืองหรือนครสมาชิกจากทั่วโลกเข้าร่วม และจนถึงปัจจุบันนี้องค์กร Mayors For Peace มีสมาชิกเมืองหรือนครแล้ว 8,509 เมืองด้วยกัน โดยแต่ละเมืองสมาชิกก็มีภาระหน้าที่ในการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างสันติภาพให้กับโลก หรือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ พร้อมกับการขับเคลื่อนเพื่อให้โลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ในที่สุด
การปรากฏตัวเข้าร่วมและการกล่าวสุนทรพจน์ถ่ายทอดประสบการณ์ของการเผชิญกับอาวุธปรมาณูหรือนิวเคลียร์ของผู้ที่รอดชีวิตมาได้ เป็นเหตุการณ์ที่ผู้เข้าร่วมรับฟังต่างๆ คงจะไม่สามารถลืมเลือนได้ เป็นทั้งบทเรียนและเครื่องเตือนใจว่าสงครามใดๆ ก็เป็นเรื่องของความสูญเสียและความโหดร้าย และสงครามด้วยอาวุธนิวเคลียร์จะไม่มีความปรานีใดๆ ทั้งสิ้น
ช่วงเวลา 5 วันที่ได้เข้าร่วมในพิธีการและกิจกรรมต่างๆ ดังกล่าวนั้น สิ่งหนึ่งที่หยุดยั้งและบังคับไม่ได้ก็คือ การหลั่งไหลของน้ำตา ซึ่งตลอดชีวิตของผม ผมไม่เคยร่ำไห้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันอย่างนี้
ในตำแหน่ง Special Advisor ผมก็ได้บอกกับตัวเองว่าจะทำงานทำการให้เต็มกำลังเพื่อโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ และโลกที่จะขับเคลื่อนไปด้วยสันติและมิใช่สงคราม
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี