วันพฤหัสบดี ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพฤหัสบดี ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ปฏิบัติ เมื่อเราได้เปรียบ

ดูทั้งหมด

  •  

การจัดการปัญหากัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย บริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว

กับการจัดการปัญหาไทย-กัมพูชาให้เบ็ดเสร็จ สงบราบคาบ มันทับซ้อนกันอยู่บางส่วน อย่างไร


1. ขณะนี้ รัฐบาลหลานอังเคิลพ้นอำนาจไปแล้ว

ยุครัฐบาลนายกฯอนุทิน เราเห็นการปฏิบัติงานเป็นทีมไทยแลนด์ สอดประสานสอดรับกัน มากกว่าสมัยรัฐบาลที่ผู้นำบอกว่าตัวเองอยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่ทัพภาคที่ 2

ไล่ตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ จนถึงตัวผู้นำรัฐบาล ทำงานไปในทิศทางเดียวกัน

รออย่างเดียวตอนนี้ คือ เวลาที่เหมาะสม

หลังเส้นตาย 10 ตุลาคม

เวลานี้ รอปฏิบัติการเช่นนี้ คนไทย เราควรเป็นหนึ่ง สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ไม่ใช่การกดดันจับผิดกันเอง ให้ฝ่ายกัมพูชาได้ประโยชน์ทางอ้อม

2. ภาพรวมการจัดการพื้นที่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว ที่ต้องประสานความพร้อมทุกฝ่าย ตลอดแนวชายแดน ไม่ใช่เฉพาะบริเวณดังกล่าว เพราะอะไร?

ถ้าพูดแบบหยาบๆ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า

เมื่อใดเจ้าหน้าที่เริ่มปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย ผลักดัน ขับไล่เขมรพ้นบ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว

หากฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วยกำลังทหาร อาวุธ

ไทยจึงจะมีความชอบธรรมในการเปิดฉากปฏัติการทางการทหารเต็มรูปแบบ

และไม่ใช่แค่บริเวณบ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว รวมไปถึงพื้นที่บางจุดที่ไทยยังเอาคืนมาไม่ได้ เช่น ปราสาทตาควาย

เมื่อนั้น คือ โอกาสสำคัญ

เพราะถ้าใครจะมาให้สงบศึก ก็จะสงบเมื่อไทยยึดคืนพื้นที่สำคัญหมดแล้ว

พอจะเห็นภาพชัดๆ แล้วใช่ไหม

ภาพแบบนี้ ทหาร หรือรัฐบาล ไม่สามารถจะเปิดเผยอะไรออกมาล่วงหน้า

3. เมื่อวานนี้ (8 ต.ค. 2568) นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ถูกถามกรณีที่มีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเป็นตัวกลางในการลงนามยุติสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชา

นายกฯ อนุทิน ระบุว่า ผู้ที่พยายามเป็นตัวกลางถือว่ามีเจตนารมณ์ที่ดี แต่การเจรจาจะต้องเป็นไปตามความต้องการของฝ่ายไทย เนื่องจากเราเป็นฝ่ายที่ถูกรุกรานและถูกกระทำ

นายกฯ อนุทินย้ำอย่างชัดเจนว่า หากจะมีการพูดคุยหรือการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น กัมพูชาจะต้องปฏิบัติใน 4 เงื่อนไขพื้นฐานก่อน โดยมาตรการจากฝั่งไทยจึงจะเริ่มได้

เงื่อนไขดังกล่าว ได้แก่

“1. ถอนกำลังทหารออกไป

2. ถอนอาวุธร้ายแรงและกับระเบิด ออกไป

3. จัดการส่วนที่มีชาวกัมพูชาเข้ามารุกรานพื้นที่ของไทย

4. ตรวจเช็คว่าได้ถอนเคลื่อนย้ายสิ่งที่เป็นภัยต่อราชอาณาจักรไทยเรียบร้อย ตรงความต้องการของไทยแล้ว”

หากตัวกลางสามารถโน้มน้าวให้กัมพูชาทำสิ่งเหล่านี้ได้ ทำให้คนไทยเกิดความมั่นใจว่าจะไม่ถูกรุกราน มีความปลอดภัย และไม่ต้องกลัวอันตราย หากทำได้แบบนี้ถึงจะเริ่มเจรจาต่อไปซึ่งเรามีเงื่อนไขตรงนี้

นักข่าวถามว่า ในวันที่ 10 ตุลาคม มีกระแสข่าวว่า จะมีการขนคนกัมพูชามาต่อต้าน ในการผลักดัน?

นายกฯ อนุทิน ยืนยันว่า ประเทศไทยมีกฎหมาย และมีการประชุมร่วมกันถึงแผนปฏิบัติการแล้วว่า หากใครก่อความวุ่นวายต่ออธิปไตยไทย จะไม่ยอม พร้อมบังคับใช้กฎหมายไทย

งานนี้ ต้องชื่นชมท่าทีและแนวทางชัดเจนจากนายกฯ อนุทิน สมศักดิ์ศรีผู้นำประเทศ

4. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความพร้อมในส่วนของตำรวจว่า ได้มีการเตรียม กำลังพลควบคุมฝูงชน (คฝ.) ไว้เพื่อรองรับสถานการณ์แล้วอย่างไรก็ตาม จะต้องรอคำสั่งจากฝ่ายทหาร เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศใช้ กฎอัยการศึก

ผบ.ตร. ระบุว่า โดยอำนาจของตำรวจ สามารถดำเนินการได้ทั้งสองส่วน คือใช้มาตรการ ผลักดัน หรือ ควบคุมตัวมาดำเนินคดี โดยการดำเนินคดีจะใช้กฎหมายคนเข้าเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวกับป่าไม้

แต่ในส่วนของภาระที่ต้องรองรับพื้นที่และอาหารระหว่างการคุมตัวเพื่อดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับนั้น กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกำหนดมาตรการแก้ไขต่อไป

5. ถ้าเราย้อนกลับไปพิจารณอย่างใจเย็นๆ ใจนิ่งๆ จะเห็นว่า แนวทางการปฏิบัติ ถูกเตรียมการ และเริ่มดำเนินการตามแผนขั้นตอนไปแล้วบางส่วนด้วยซ้ำ

(1) ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๘ พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ ๑ (ขณะนั้น) เดินทางมาที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๑๒ ระบุว่า มาดูความพร้อมในเรื่องของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ การประสานจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์พิเศษสนับสนุน ได้แก่ รถฉีดน้ำแรงดันสูง(รถจีโน่), รถดับเพลิงฉีดน้ำแรงดันสูง, รถLUF๖๐ ฉีดน้ำจาก ปภ., รถ LRAD คลื่นเสียงความถี่สูง และอุปกรณ์การป้องกันตัว ได้แก่แว่นตา หมวกเหล็ก หน้ากากป้องกัน ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจ หากมีสิ่งใดที่ต้องการเพิ่มเติมก็จะสามารถขอได้กับทางกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ซึ่งพื้นที่ของเรามีความซับซ้อนหลายมิติอาจจะต่างจากพื้นที่อื่น อย่างไรก็ตามเราพยายามทำตรงนี้เพื่อรักษาอธิปไตย และปฏิบัติตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้

ในส่วนการปฏิบัติงานของกองทัพภาคที่ ๑ ที่ผ่านมาทำในด้านของการวางแผนอำนวยการ ที่ใช้ในสถานการณ์ รวมถึงประสานงานคู่ขนานในหลายมิติ ซึ่งการวางแผนต่างๆ ก็ยึดถือตามกรอบที่เคยประชุม RBC ที่ผ่านมา เพื่อนำไปสู่การบันทึกข้อตกลง โดยการประชุม RBC ในครั้งแรกได้มีการเสนอ ๔ เรื่อง ๑. เก็บกู้ทุ่นระเบิด ๒. ปราบสแกมเมอร์ ๓. การจัดตั้งชุดประสานงานโดยใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานของไทยและกัมพูชา กับพื้นที่ระดับอำเภอ และระดับผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ต่างๆ ๔. เรื่องการ บริหารจัดระเบียบพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่ MOU43

และที่สำคัญที่ได้เสนอไปแล้วเขายอมรับ และนำไปสู่การประชุมวาระ GBC คือการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง ซึ่งจะเป็นโมเดลที่นำไปสู่พื้นที่อื่นๆ

ส่วนเรื่องการควบคุมสถานการณ์ก็มีการมอบให้กับกองกำลังบูรพา เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ซึ่งระดมทุกภาคส่วน หากมีการยกระดับพัฒนาสถานการณ์เพิ่มขึ้น แต่การปฏิบัติก็ยึดถือมาตรฐานสากลจากเบาไปหาหนัก เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้ทางกัมพูชาได้ทำการยั่วยุ แต่ก็เคยระบุไปในข้อตกลง RBC ครั้งแรกแล้วว่า ห้ามยั่วยุ โดยการใช้มวลชนที่ประกอบไปด้วย เด็ก ผู้หญิง ผู้สูงอายุ และพระสงฆ์ เราจึงได้ทำการประท้วงควบคู่ไป เพื่อชี้ให้เห็นว่าเขาทำในลักษณะเช่นนี้ เราต้องปฏิบัติให้สอดคล้องเพื่อไม่ให้ทางกัมพูชานำไปเบี่ยงเบนในเวทีโลกนานาชาติ ซึ่งตอนนี้ทุกชาติทั่วโลกก็เห็นแล้วว่ากัมพูชาใช้วิธีการอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ตนได้ติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิดและมีแนวทางสั่งการให้แก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น รวมถึงการประสาน พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการขอกำลังพลตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) และยุทโธปกรณ์พิเศษ เช่น รถจีโน่ และมีการประชุมกับทุกส่วนเพื่อวางแผนให้สอดคล้องในทุกด้าน

ขอให้มั่นใจว่า กองทัพภาคที่ 1 มีการเตรียมการวางแผนโดยรอบคอบในทุกมิติ และทุกด้าน ทุกส่วนมีการประสานสอดคล้องกัน ให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ

(2) หลังจากนั้น กองทัพภาคที่ 1 มีหนังสือแจ้ง ไปยังฝ่ายกัมพูชาว่า จะเข้าร่วมการประชุม RBC กับ ภูมิภาคทหารที่ 5 ฝ่ายกัมพูชา ในวันที่ 10–12 ต.ค. 2568 ณ เมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย ตามมติการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2568 ที่จังหวัดเกาะกง ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาได้จัดทำ “แผนการอพยพประชาชนกัมพูชา” ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พิพาท 3 แห่ง ได้แก่ บ้านหนองจาน, บ้านหนองหญ้าแก้ว,อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว, บ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว โดยต้องส่งแผนการดังกล่าวให้กองทัพภาคที่ 1 ภายในวันที่ 7 ต.ค. 2568 ก่อน จึงจะพิจารณาเข้าร่วมประชุม

ย้ำว่า กรณีพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว มีการรุกล้ำพื้นที่ใน2 ลักษณะ ลักษณะแรก รุกล้ำอยู่ในเขตพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ซึ่งตามข้อตกลงของทั้งสองประเทศ ที่อยู่ในเงื่อนไข ต้องอาศัยกลไก JBC แต่สำหรับลักษณะที่สอง ล่วงล้ำอยู่ในเขตอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน ตรงนี้คือความเร่งด่วนแรกที่ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการ

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 พลโท วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 และประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–กัมพูชา (RBC) ฝ่ายกองทัพภาคที่ 1 ได้ลงนามในหนังสือ “ด่วนที่สุด” ตอบกลับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา

เนื้อหาสำคัญในหนังสือ คือการยืนยัน จุดยืนของฝ่ายไทยอย่างชัดเจน ว่า ก่อนการประชุม RBC สมัยพิเศษระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคมนี้ ณ จังหวัดบันเตียเมียนเจยราชอาณาจักรกัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาจะต้อง จัดทำและส่ง “แผนอพยพประชาชน” ในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน คือ

บ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย

บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย

บ้านตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ราชอาณาจักรไทย

ภายในวันที่ 7 ตุลาคม 2568 และต้องนำเสนอในที่ประชุมอย่างเป็นทางการ หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว ฝ่ายไทยจะไม่เข้าร่วมการประชุม RBC ครั้งนี้

ตอกย้ำว่า กองทัพไทยจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับเงื่อนไขที่อาจทำให้ประชาชนตกอยู่ในความเสี่ยง และทุกก้าวย่างของการเจรจา จะต้องเริ่มต้นจาก “การปกป้องชีวิตคนไทย และความมั่นคงของแผ่นดิน”

(3) ผลการประชุมคณะผู้บัญชาการทางทหาร (วาระพิเศษ) เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาชาวกัมพูชาซึ่งรุกล้ำอธิปไตย

เมื่อวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึง ผลการประชุมคณะผู้บัญชาการทางทหาร วาระพิเศษ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาชาวกัมพูชาซึ่งรุกล้ำอธิปไตย โดยให้มีการดำเนินการให้พร้อมในโอกาสแรก สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

1) ให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยอนุโลม เพื่ออำนวยความสะดวกและมีความรัดกุมในการปฏิบัติ

2) ให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกจัดทำแผนปฏิบัติการ ระเบียบปฏิบัติประจำ และกฎการใช้กำลังที่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และกฎหมายของไทย

3) ขอให้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าพนักงานตามกฎหมายต่างๆ รวมทั้งกำลังประจำถิ่น สนับสนุนกำลังเพื่อเข้าร่วมการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร

ทั้งนี้ กองทัพไทย กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ร่วมกันดำเนินการปกป้องอธิปไตยของชาติ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตามแนวชายแดนต่อไป

(4) เมื่อ 7 ต.ค.2568 พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่1/ผบ.ศปก.1 ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว รับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติงานที่สำคัญของหน่วยทหาร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตลอดจนรับฟังแผนการปฏิบัติ ตามแผนเผชิญเหตุและแผนการใช้กำลังในการบังคับใช้กฎหมาย

ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่1/ผบ.ศปก.ทภ.1 ได้ชมการซักซ้อมการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วน ณ พื้นที่ภูมิประเทศจำลอง พร้อมให้กำลังใจกับกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่มุ่งมั่นทำหน้าที่ในการดูแลปกป้องอธิปไตยของชาติ

ยืนยันภารกิจปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถ ควบคู่กับดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นพื้นที่อย่างดีที่สุด

สรุป คนไทยอดทนรอคอยกันอีกนิด ไหนๆ ก็ทนมาตั้งหลายสิบปี

จงรวมพลังคนไทยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ พิทักษ์อธิปไตยของแผ่นดิน อย่าไขว้เขวอย่าเป็นเหยื่อของข่าวปั่นอารมณ์สร้างกระแสต่างๆ

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:10 น. อพท.สานต่อทุกรัฐบาล ความคืบหน้า'กระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง'
21:49 น. 'ผบ.ตร.'ลงพื้นที่อุทกภัยอ่างทอง กำชับตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชน
21:37 น. ตรวจสอบโบราณวัตถุ'ปราสาทคันนา'สุรินทร์ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมสมัยพุทธศตวรรษที่15-16
21:33 น. โอ้โห...ถึงบ้านตอนไหน!? ทางด่วนจีนรถติดหนักมาก ปชช.แห่กลับบ้านหลังหมดหยุดยาว
21:32 น. ‘สถาบันโรคผิวหนัง’เร่งสนับสนุนเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัย แนะวิธีป้องกันโรคผิวหนัง
ดูทั้งหมด
‘กรุงไทย’ประกาศปิดฉากแอป‘เป๋าตุง’ ย้ายบริการสแกนจ่ายไป‘ถุงเงิน’
แฟนคลับส่งกำลังใจ 'ปู กนกวรรณ' โพสต์ถึงอาการป่วยสามี 'เด๋อ ดอกสะเดา' ฟื้นฟูร่างกายต้องใช้เวลา
'บุ๋ม ปนัดดา'เปิดจำนวนเงิน 'แก้มบุ๋ม'บริจาคค่าน้ำมันรถตักรถขุดช่วยน้ำท่วม
'ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์'ปรากฎตัวครั้งแรกในปารีสแฟชั่นวีค เดินทางลำพังไร้เงา'เจ้าชายแฮร์รี'
กัมพูชาแถลงด่วน! ปมม็อบแรงงานธุรกิจสีเทาประท้วงเดือดที่สีหนุวิลล์
ดูทั้งหมด
ต้องสางคดีค้างท่อ‘แพทองธาร-ยิ่งลักษณ์’
การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ รอสหรัฐอเมริกานำพา
ศึกเลือกตั้ง
ปฏิบัติ เมื่อเราได้เปรียบ
บุคคลแนวหน้า : 9 ตุลาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โอ้โห...ถึงบ้านตอนไหน!? ทางด่วนจีนรถติดหนักมาก ปชช.แห่กลับบ้านหลังหมดหยุดยาว

‘ก่อแก้ว’หยัน‘ปชน.’ โหวต‘อนุทิน’นั่งนายกฯฉุดเรตติ้งร่วง อย่าหวังได้ สส.250คน

‘บิ๊กเต่า’เล็งฟันคดี‘วัดพระบาทน้ำพุ’เพิ่ม พร้อมเตือนภัย‘แก๊งผู้วิเศษ’ต้มตุ๋น

‘อิ๊งค์’ระทึก!‘ป.ป.ช.’ไต่สวนเสร็จแล้วคดีกล่าวหาโยกงบทำดิจิทัลวอลเล็ต ฝ่าฝืนรธน.

เพื่อประโยชน์ชาติ!! 'ทอ.'แจงจัดซื้อระบบแอนตี้โดรน 997 ล้าน โปร่งใส-ตรวจสอบได้

'วัชระ'แจง'สุชาติ'ทำงานร่วมทุกกลุ่มได้ไม่มีปัญหา ย้ำมองข้ามช็อตปัญหากับ'เอกนัฏ'ไปนานแล้ว

  • Breaking News
  • อพท.สานต่อทุกรัฐบาล ความคืบหน้า\'กระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง\' อพท.สานต่อทุกรัฐบาล ความคืบหน้า'กระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง'
  • \'ผบ.ตร.\'ลงพื้นที่อุทกภัยอ่างทอง กำชับตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชน 'ผบ.ตร.'ลงพื้นที่อุทกภัยอ่างทอง กำชับตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชน
  • ตรวจสอบโบราณวัตถุ\'ปราสาทคันนา\'สุรินทร์ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมสมัยพุทธศตวรรษที่15-16 ตรวจสอบโบราณวัตถุ'ปราสาทคันนา'สุรินทร์ ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมสมัยพุทธศตวรรษที่15-16
  • โอ้โห...ถึงบ้านตอนไหน!? ทางด่วนจีนรถติดหนักมาก ปชช.แห่กลับบ้านหลังหมดหยุดยาว โอ้โห...ถึงบ้านตอนไหน!? ทางด่วนจีนรถติดหนักมาก ปชช.แห่กลับบ้านหลังหมดหยุดยาว
  • ‘สถาบันโรคผิวหนัง’เร่งสนับสนุนเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัย แนะวิธีป้องกันโรคผิวหนัง ‘สถาบันโรคผิวหนัง’เร่งสนับสนุนเวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบอุทกภัย แนะวิธีป้องกันโรคผิวหนัง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปฏิบัติ เมื่อเราได้เปรียบ

ปฏิบัติ เมื่อเราได้เปรียบ

9 ต.ค. 2568

เพื่อไทยอาจถึงทางตัน  แต่แน่ๆ ประเทศไทยไม่ได้ถึงทางตัน

เพื่อไทยอาจถึงทางตัน แต่แน่ๆ ประเทศไทยไม่ได้ถึงทางตัน

8 ต.ค. 2568

ทวงค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊คืนแผ่นดิน  รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท

ทวงค่าเสียหายข้าวจีทูจีเก๊คืนแผ่นดิน รวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท

7 ต.ค. 2568

อย่าบังอาจ  เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น

อย่าบังอาจ เอื้อประโยชน์นายใหญ่ไม่รู้จบรู้สิ้น

6 ต.ค. 2568

ทักษิณจะขอเบิ้ลอภัยโทษ ?!?!

ทักษิณจะขอเบิ้ลอภัยโทษ ?!?!

3 ต.ค. 2568

เพิ่มทางเลือกในการออมให้ประชาชน

เพิ่มทางเลือกในการออมให้ประชาชน

2 ต.ค. 2568

ทองคำทะลุ 6 หมื่นบาท  แล้วไงต่อ?

ทองคำทะลุ 6 หมื่นบาท แล้วไงต่อ?

1 ต.ค. 2568

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย  ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

ทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศไทย ด้วยความจริง และความกล้าหาญ

30 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved