ภายหลังโผแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2561 คลอดออกมา เมื่อไม่นานนี้ ก็ปรากฏชื่อ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ข้ามห้วยจาก รอง ผบช.น. เคยดูแลพื้นที่เมืองหลวงโดดมาเป็น ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) ซึ่งนับว่าเป็นหน่วยงานที่ภารกิจหน้าที่แตกต่างกันสิ้นเชิง

เรามาสัมผัสกับความคิดความอ่าน วิสัยทัศน์ของ ผบช.ตชด. ใหม่เอี่ยมถอดด้ามรายนี้กันเลย พล.ต.ท.สมพงษ์ เผยว่า ให้ความสนใจเป็นพิเศษในการเข้ามาดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่แรก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะก่อนจะมารับตำแหน่งนี้ เคยอยู่ที่ จ.นราธิวาส เป็นเวลาเกือบ 5 ปี ก็รู้ว่า สถานการณ์ตรงนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เน้นงานมวลชน ขณะเดียวกันก็ต้องประสานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ จะเป็นพระเอกคนเดียวไม่ได้

“ที่สำคัญการปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้งต้องไม่ประมาท ต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีการฝึก มีการเตรียมการ มีการหามาตรการป้องกันเหตุปฏิบัติการในเชิงรุก ไม่ใช่เหตุเกิดแล้วมาตามจับ เราต้องบุกเข้าไปในส่วนที่คิดว่าเป็นรังโจร หรือเป็นแหล่งซ่องสุมในเรื่องของอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ระเบิด ที่จะมาลอบทำร้ายพี่น้องประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ ตรงนี้ก็จะสามารถลดเหตุได้”

ผบช.ตชด.เล่าต่อว่า ขณะเดียวกัน เราก็ใช้จุดประชาสัมพันธ์ของเราให้เป็นประโยชน์ ในการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เขามีส่วนร่วมในการทำให้ 3 จังหวัดสงบ เพราะจริงๆ แล้ว ธรรมชาติมีความสวยงามมาก และยังมีความพร้อมทั้งเรื่องอาหารการกินด้วย หากสามารถพัฒนาได้เต็มศักยภาพ นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่น ก็จะกลับมาท่องเที่ยวในพื้นที่

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวถึงการตระเตรียมสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับหน่วย ตชด.ว่า ตามที่ได้ไปตรวจเยี่ยมหน่วย ตชด.แล้ว พบว่ามีรถ วี 150 ซึ่งชำรุด จึงสั่งให้ฝ่ายอำนวยการเร่งรัดจัดหา ถ้างบประมาณไม่เพียงพอ ก็คงต้องร้องขอไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องนี้ท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ท่านไม่ขัดข้องอยู่แล้ว ส่วนอาวุธที่แจกจ่ายก็มีการปรับใหม่ให้เป็นอาวุธที่ทันสมัย จัดสรรจาก บก.ตชด.ภาคที่ไม่ค่อยมีสถานการณ์ มาทดแทนอาวุธรุ่นเก่า ในพื้นที่ซึ่งมีสถานการณ์ ให้เหมาะสม

เมื่อถามถึงเรื่องโรงเรียน ตชด. พล.ต.ท.สมพงษ์  เผยว่า ต้องเข้าใจว่า โรงเรียน ตชด.เกิดขึ้นกว่า 60 ปีแล้ว ขณะนั้นสถานการณ์บ้านเมืองไม่เหมือนปัจจุบัน คือยังมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ที่มีแนวคิดทางการเมืองแตกต่างกัน เช่น ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ นักเรียนที่อยู่ห่างไกลถูกปลูกฝังแนวคิดเหล่านี้ รวมทั้งบางส่วนก็อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งศึกษา ซึ่งทาง ตชด.จึงต้องเข้าไปทำหน้าที่เป็นครูสอน และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างไกล ก่อนจะมีการผ่องถ่ายให้กระทรวงศึกษาธิการ

“ขณะนี้เรามีโรงเรียน ตชด. 216 แห่ง เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา 2 แห่ง คือ ที่ จ.เชียงราย กับที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะโรงเรียน ตชด.นั้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อโรงเรียน ตชด.อย่างมาก พวกเรา ตชด.ต่างน้อมนำพระราชดำริต่างๆ มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา คุณภาพครูผู้สอน”

ผบช.ตชด.กล่าวถึงโครงการ “ครูทายาท” ว่าเป็นโครงการที่เราให้สิทธิ์ครูที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียน ตชด.ได้เข้ามาสอบแข่งกันบรรจุเข้ารับราชการตำรวจ ก่อนจะส่งไปอบรมที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ แล้วกลับมาสู่ท้องถิ่นพื้นที่ของเขา กลับมาเป็นครู ซึ่งเขาเองก็อยากอยู่ในพื้นถิ่น ได้กลับมาจุดที่เขาเริ่มต้นเรียน เพราะเขาก็จะเข้าใจหัวอกของคนขาดโอกาสทางการศึกษา และเขาก็จะใส่ใจในการสอนเป็นพิเศษ เรียกว่าทำด้วยใจ

“ผมมีนโยบายไปแล้ว ว่าอย่างนั้นเรื่องขวัญและกำลังใจจะต้องมีมอบให้ อย่างน้อยเรื่องขั้นต้องพิจารณา เพราะเขาเป็นผู้เสียสละ คนไหนที่ผลการปฏิบัติงานดีเด่น เข้าหลักเกณฑ์ เราก็ให้อันดับแรกอยู่แล้ว ในส่วนอื่นนอกจากนั้น ก็ยังได้รับความกรุณาจากภาคเอกชน ช่วยเหลือโรงเรียน ตชด.บางทีก็มาปรับปรุงอาคาร จัดซื้ออุปกรณ์การศึกษา เพราะงบประมาณเราก็ค่อนข้างจำกัด”

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย ว่า ภารกิจ ตชด.มันแตกต่างจากตำรวจพื้นที่ เพราะเป็นภารกิจพิเศษ แล้วจริงๆ ตชด.ก็ดีอยู่แล้ว เขาเหมือนปิดทองหลังพระ เขาทำงานตามแนวชายแดน ทำในพื้นที่ลำบาก ทุรกันดาร บางทีสื่อมวลชนไม่เห็น คนทั่วไปอาจจะไม่เห็น แต่ชาวบ้านในพื้นที่เขารู้และรับทราบ ด้วยสำนึกความรับผิดชอบ ผมก็พยายามทำการบ้าน แล้วก็ชื่นชมเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทุกนาย เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษผู้เสียสละ

ทีมข่าวอาชญากรรม