ชาวต่างชาติที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากจุดเสี่ยงภัย สถานที่ท่องเที่ยวทะเลอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ชื่นชมทหารไทยที่ช่วยให้พวกเขาปลอดภัยจากพายุปาบึกทวีตข้อความว่า “Thx u royal Thai army Love u Thailand” ขอบคุณทหารไทย เรารักประเทศไทย ทวิตเตอร์ของครอบครัว Linda&Kris Travelit ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเกาะเต่าและเกาะพะงันพร้อมกับชาวยุโรป 32 คนเขียนว่า “Thank you so much for such fast response and cooperation the rescue team came to check on our safety they informed us about everything Great work..” ขอบคุณเป็นอย่างสูงต่อหน่วยกู้ภัยที่ให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ดูแลความปลอดภัยและให้ข้อมูลข่าวสารอย่างละเอียดทุกประการ ผลงานยอดเยี่ยม..
นักท่องเที่ยวยุโรปหมื่นกว่าคนที่เกาะสมุย เกาะเต่า และเกาะพะงัน ที่ได้รับการช่วยเหลือดูแลและอพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ต่างแสดงความชื่นชมต่อปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุ การให้
ข้อมูลข่าวสารและอพยพผู้คนไปอยู่ที่ปลอดภัยก่อนพายุร้ายจะมาถึง ทำให้กองทัพไทยและหน่วยงานป้องกันภัยได้รับการชื่นชมทั้งจากพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติ
ประสบการณ์ทำข่าวอุทกภัย วาตภัย หลายครั้งที่ผ่านมา ยอมรับว่านี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยและอาจรวมทั้งในอาเซียน ที่กองทัพกับกรมบรรเทาป้องกันสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุการณ์ร้ายได้สมบูรณ์ดียิ่ง และเป็นครั้งแรกในประเทศรวมทั้งประเทศอาเซียนที่กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนภัยจากพายุปาบึกล่วงหน้าหลายวัน และกองทัพสนองตอบ ร่วมมือกับหน่วยงานป้องกันสาธารณภัย เปิดปฏิบัติการเผชิญเหตุ สั่งอพยพประชาชนออกจากจุดเสี่ยงภัยที่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี
ผู้ที่อยู่อาศัยในจุดเสี่ยงภัย ในจังหวัดนครศรีธรรมราชและอีกแปดจังหวัดเสี่ยงภัยประมาณ 50,000 ราย ได้อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนพายุร้ายจะมาถึง ความสูญเสียจากวาตภัยครั้งนี้จึงมีผู้เสียชีวิตเพียงสามรายซึ่งถือว่าน้อยมาก ถ้าเปรียบเทียบกับวาตภัยในอดีตที่ผ่านมา หากย้อนกลับไปดูครั้งที่พายุโซนร้อนแฮเรียต ถล่มแหลมตะลุมพุก เมื่อเดือนตุลาคม 2505 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปถึง 911 ราย และคราวที่พายุเกย์ ถล่มชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ในปี 2532 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตไปถึง 446 ราย อาจเป็นเพราะว่าสมัยนั้นเครื่องมือพยากรณ์อากาศไม่ทันสมัยเหมือนวันนี้ ประกอบกับยุคนี้มีโซเชียลช่วยกระจายข่าวเตือนภัยได้เร็วขึ้น
ประสบการณ์ทำข่าวอุทกภัย วาตภัยที่ผ่านมา พบว่าสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตมากมายอาจเป็นเพราะที่แล้วมาการช่วยเหลือกู้ภัยค้นหา เริ่มทำกันเมื่อเหตุการณ์ร้ายได้เกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์พายุเกย์ถล่มอ่าวไทยและจังหวัดชุมพร อุทกภัยที่ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2531 ที่น้ำป่าซัดดินโคลนท่อนซุงดินโคลน ถมมิดทั้งหมู่บ้านทำให้คนตายเกือบ 100 ราย ครั้งนั้น ผู้เขียนได้ติดตามพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด นำกำลังทหารลงไปช่วยเหลือกู้ภัยและค้นหาผู้สูญหาย
ผู้เขียนโชคดีที่พลเอกสุนทร ให้โดยสารไปกับเฮลิคอปเตอร์ลำที่ท่านขับเอง แต่โชคดีครั้งนั้นทำเอาอกสั่นขวัญหายเพราะเครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์กระตุกสองสามครั้งขณะที่บินอยู่เหนือยอดเขา อย่างไรก็ตามเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็ร่อนลงที่หมายอย่างปลอดภัย และทุกคนได้เห็นความเสียหายอย่างน่าสลดใจ พลเอกสุนทร เดินสำรวจไปถึงบ้านหลังหนึ่งที่ถูกดินโคลนฝังมิดโผล่เหลือแต่หลังคา เมื่อพลเอกสุนทรสั่งให้หน่วยกู้ภัยรื้อหลังคาพบว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ใต้โคลนสามศพ
พ.ศ. 2531 พลเอกสุนทร ผู้เป็นบิดาสั่งการให้ทหารกู้ภัยค้นหาเยียวยาผู้ประสบภัยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้นแล้ว วันที่ 3 ม.ค. 2562 พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งให้ทหารเปิดปฏิบัติการตามแผนเผชิญเหตุอพยพประชาชน ออกจากจุดเสี่ยงภัย ตั้งแต่กรมอุตุฯแจ้งว่าพายุปาบึก อยู่ห่างจากอ่าวไทยออกไปกว่า 800 กม. ปฏิบัติการเชิงรุกครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วน นอกจากกองทัพบก ทัพเรือ ทัพอากาศ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. เทศบาล จึงได้รับการชื่นชมจากปฏิบัติการเผชิญภัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพเรือ ได้รับการชื่นชมเป็นพิเศษจากอาจารย์ Pat Hemasuk ที่เขียนในเฟซบุ๊คว่า “..พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการเร่งด่วนให้เตรียมพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยขั้นสูงสุด โดยมอบหมายให้เรือหลวงจักรีนฤเบศร หมายเลข 911 เป็นเรือบัญชาการนำหมู่เรือมุ่งหน้าสู่ภาคใต้แล้ว เวลานี้ เรือหลวงจักรีนฤเบศร 911 เรือหลวงอ่างทอง 791 และเรือหลวงมกุฎราชกุมาร 433 อากาศยาน 2 ลำ ชุดปฏิบัติการพิเศษ 28 นาย และทีมแพทย์สนาม มุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่
...ไม่เคยมีวิกฤติของชาติครั้งไหนที่เรือบรรทุกเครื่องบินหนึ่งเดียว ลำแรกของอาเซียนลำนี้จะไม่เข้าไปเป็นศูนย์บัญชาการลอยน้ำเพื่อช่วยชีวิตพี่น้องคนไทย ทั้งภัยธรรมชาติและความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านที่ต้องใช้กำลังทหารเข้าแก้ไข มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ถามว่าทหารมีไว้ทำไม กองทัพมีไว้ทำไม อาวุธมีไว้ทำไม...
กองทัพเรือเตรียมเรือหลวงอ่างทอง 791 ที่เป็นเรือยกพลขึ้นบกและสามารถบรรทุก ฮ.ปฏิบัติการทางอากาศได้ เรือลำนี้สามารถทนทะเลได้ระดับ 6 นั่นคือสามารถฝ่าพายุและคลื่นลมออกไปได้ในระดับที่สูงกว่าเรือลำอื่น และผมเชื่อว่ากองทัพเรือไม่ใช่เตรียมแต่เรือหลวงอ่างทองเพียงลำเดียว เรือหลวงจักรีนฤเบศร 911 เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกหนึ่งเดียวของอาเซียนก็เป็นอีกลำที่ทนทะเลได้มากกว่าระดับ 7 (ถ้าจำไม่ผิด) ก็คงเตรียมความพร้อมออกเรือเหมือนกัน
เพราะเรือ 791 และ 911 สองลำนี้ออกไปกู้ภัย เป็นทั้งโรงพยาบาลและศูนย์บัญชาการมาหลายครั้งแล้ว เรือหลวงอ่างทองเคยเป็นเรือกู้ภัยและโรงพยาบาลเคลื่อนที่เมื่อครั้งสึนามิถล่มที่อินโดนีเซีย ผมบอกได้เลยว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน 911 ลำนี้เราใช้งานจนคุ้มกว่าราคาที่จ่ายไปมากมาย งานใหญ่ๆ ในการเป็นเรืออำนวยการกู้ภัยคือ ปฏิบัติการกู้ภัยพายุไต้ฝุ่นซีต้า พายุไต้ฝุ่นลินดาในปี 2540 ภัยพิบัติคลื่นสึนามิ พ.ศ. 2547 น้ำท่วมสงขลา พ.ศ. 2553 ภัยพิบัติในพื้นที่เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พ.ศ.2554 ที่ลำอื่นออกไม่ได้ แต่ 911 ออกไปปฏิบัติการลอยลำเป็นศูนย์อำนวยการได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชีวิตคนนับพันคนปลอดภัยจากปฏิบัติการในครั้งนั้น
และปฏิบัติการ โปเชงตง 2 ที่รักษาชีวิตของคนไทย 703 คน ในเงื้อมมือของต่างชาติที่คุยกันดีๆ แล้วคุยไม่รู้เรื่อง ถ้าไม่มีเรือหลวงจักรีนฤเบศร 911 พร้อมด้วยเครื่องบิน AV8A แฮริเออร์ เครื่องบินขับไล่ขึ้นลงแนวดิ่ง Ball412 และ S76B บนเรือลำนี้ เรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย เรือหลวงสุโขทัย เรือหลวงสู้ไพรี เรือหลวงศรีราชา และเรือ ต.82 ประสานกันเข้าไปลอยลำจ่อคอหอยฮุนเซ็นเอาไว้พร้อมถล่มทุกจุดที่มีปัญหาในพนมเปญนายพลเตีย บันห์ คงไม่คุยจบแบบง่ายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น เครื่องบินขับไล่ F16 ของกองทัพอากาศบินคุ้มกัน ฝูงบิน C-130 ลงที่สนามบินโปเชงตง พร้อมหน่วยคอมมานโด ของกรมปฏิบัติการพิเศษอากาศโยธิน หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว (RDF)จากหน่วยรบพิเศษหมวกแดงของ ร.31 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี รวมถึงรถเคลื่อนที่เร็วที่บรรทุกใส่เครื่องบินไปด้วยล้อมยึดสนามบินชั่วคราว และเอาคนไทยขึ้นเครื่องบิน C-130 กลับบ้านได้ทั้งหมด
กองทัพมีเอาไว้ทำไม อาวุธมีเอาไว้ทำไม เรื่องปฏิบัติการโปเชงตง 2 ที่ผมเล่าให้ฟังคงตอบคำถามนี้ได้ หรือจะให้เล่าเรื่องสงครามเขาพระวิหารที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่ปีก่อน ศึกภูมิซรอล หรือ ศึกภูมะเขือ ที่เราละลายกองพลของฝ่ายตรงข้าม พร้อมรถถัง ปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง รวมทั้งทหารทั้งกองพลจนเกลี้ยง ฮุน มาเนต ลูกชายฮุนเซ็น เกือบเอาชีวิตมาทิ้งในศึกครั้งนี้ ต้องหามเข้า รพ.หลังจากโดนปืนใหญ่อัตตาจรและหน่วยรบจากกองทัพบกของเราถล่ม ซีซาร์ให้กินแทนอาหารเช้าแบบไม่ยั้ง นี้คงเป็นคำตอบที่ดีว่ามีกองทัพไว้ทำไม
*ปฏิบัติการ โปเชงตง 2 คือเหตุการณ์จลาจลในกัมพูชาที่เผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ พ.ศ. 2546*ผู้เขียน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี