เป็นเรื่อง “ปกติ” ของคนเชียร์บอลทั้งหลาย ถ้าทีมในดวงใจที่แฟนบอลต่างคาดหมายว่า “จะต้องชนะคู่ต่อสู้แบบแบเบอร์” แต่จู่ๆ เกิด “พลิกล็อก” ถูกคู่ต่อสู้ซัลโวจน “ตาข่ายพัง” คนเชียร์บอลทั้งนั้น ก็จะ “โกรธแค้น” จนควันออกหูไฟพรูออกทางปาก

จากนั้นก็จะดาหน้าออกมาสวดชยันโตเป็นสเตอริโอทั่วสิบทิศ “ก่นด่าทั้งนักฟุตบอล สต๊าฟโค้ชและอาจลามปามไปถึงนายกสมาคมฟุตบอล”

เหตุการณ์ “บอลไทยพบอินเดีย” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ที่ผ่านมา โดยเซียนลูกหนังจัดเรตติ้งทีมโรตี มีฝีเท้าระดับ “บ๊วย” แต่แล้วก็เกิดรายการ “หมูกัดช้าง” จนทีมไทยถูกถล่มประตูไปถึง “4 ต่อ 1” ทำให้เกิด “มหกรรมสวดกงเต๊ก” ตามมา

แต่แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาหยกๆ “ทีมไทยลงหวดแข้งกับทีมบาห์เรน” ที่สนามอัล มัคตุม ณ นครดูไบ ซึ่งทีมบาห์เรนเป็นทีมยอดแข็งแกร่ง ชนิด 39 ปีที่ผ่านมา “ไทยไม่เคยชนะบาห์เรน” กลับเกิดสิ่งไม่คาดฝัน “นักฟุตบอลไทยต่างถูกวิญญาณชาวบ้านบางระจันเข้าสิง” จึงลงสนามแบบ “สู้ตาย กูแพ้ไม่ได้”

ในที่สุด “บอลไทย” ก็ชนะบาห์เรนไป 1-0 สร้างประวัติศาสตร์การหวดแข้งหน้าใหม่ “39 ปีได้มีวันนี้”

รายการ “หมูกัดสิงห์ทะเลทราย” ครั้งนี้นอกจากทำให้แฟนบอลชาวไทยได้ “เฮ”ทั้งประเทศ ยังทำให้ “จอมซนปากบุก ซุกปากบอน”ที่เคยสวดกงเต๊กบอลไทยต้องรีบออกมา“ขอพระอภัยมณี” กับทีมช้างศึกแบบ “ด่วนจี๋ไวกว่าแสง”

การที่บอลไทยแพ้อินเดียซึ่งเป็นหมูสนามแบบง่ายๆ” แต่กลับชนะสิงห์ทะเลทรายได้อย่างเหลือเชื่อ

คงต้องนำสำนวนไทยมามอบให้เป็นฉายาแก่บอลไทยว่า “ผีเข้าผีออก”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม