ข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือข่าวนักการเมืองหลายๆ พรรคได้แสดงแนวความคิดหาเสียงด้วยการเสนอนโยบายเลิกการเกณฑ์ทหารตามแบบประเทศมหาอำนาจหลายๆ ประเทศที่เขาได้ใช้นโยบายนี้แล้วโดยใช้วิธีเปิดรับสมัครทหารอาสาสมัครเข้ามาเป็นกองทหารประจำการ เช่น สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, สหพันธรัฐเยอรมนี หรือสาธารณรัฐฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังมีการเสนอขอตัดงบประมาณทหารของกระทรวงกลาโหมอีกด้วยเพราะโกรธที่ทหารก่อรัฐประหารล้มรัฐบาลนักการเมืองจอมโกงถึง 2 ครั้ง ในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา
กลับมาดูกำลังทหารในกองทัพไทยก่อนปัจจุบันไทยไม่ได้มีกำลังทหารมากนัก ต้องเปรียบเทียบกำลังทหารชาติเพื่อนบ้านไทยก่อน ทางทิศตะวันตก ได้แก่ เมียนมาในอดีตเคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับไทยแถมยังเคยส่งกองทัพเข้ามาโจมตีกรุงศรีอยุธยาถึง 2 ครั้งในปี 2112 และ 2310 ปัจจุบันเมียนมามีกำลังทหาร 406,001 คน กองทัพบก หรือทามาดอ ของเมียนมา มีพลเอกโซวิน เป็นผู้บัญชาการ
กองทัพบกเมียนมาแบ่งออกเป็น 14 ภาค คือรัฐคะฉิ่น เมืองมะยิดชิน่า มีทหาร 33 กองพันทหารราบ รัฐฉานเหนือ เมืองลาเฉียว มีทหาร 30 กองพันทหารราบ รัฐฉานใต้ และรัฐคะยา ที่เมืองตองยี มีทหาร 42 กองพันทหารราบ รัฐมอญ และกะเหรี่ยง ที่เมืองมะละแหม่ง หรือเมาะตะมะ มีทหาร 36 กองพันทหารราบ รัฐบาโก และมะริด เมืองตองอู มีทหาร 27 กองพันทหารราบ รัฐอิระวดี เมืองพะสิม มีทหาร 11 กองพันทหารราบ รัฐอาระกัน และรัฐชิน เมืองอาน มีทหาร 33 กองพันทหารราบ
รัฐสาเกียง เมืองโมนิวา มีทหาร 25 กองพันทหารราบ นครร่างกุ้ง เมืองโคเน่มินทรา มีทหาร 11 กองพันทหารราบ รัฐตะนาวศรี เมืองมะริด และทวาย มีทหาร 43 กองพัน รัฐฉานตะวันออก เมืองเชียงตุง มีทหาร 23 กองพันทหารราบ รัฐมัณฑะเลย์นครหลวงเก่า มีทหาร 31 กองพันทหารราบ รัฐเนปิดอร์ เมืองปิอินดานามีทหาร 12 กองพันทหารราบและรัฐฉานกลาง เมืองโกลำ มีทหาร 7 กองพันทหารราบ นอกจากนี้ มีหน่วยระดับกองพลน้อย 21 กองพลและกองพลทหารราบเบา คือ กองพลที่ 11, 12, 15, 20, 22, 33, 44, 55, 66, 77, 88, 99, 101 รวม 13 กองพล
ทหารปืนใหญ่จัดเป็น 36 กองพันปืนใหญ่สนาม ในขณะที่มีทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานอีก 6 กองพัน หน่วยทหารยานเกราะ อีก 6 กรมส่วนกำลังอาวุธเมียนมา มีรถถังหลัก 474 คันรถเกราะ 1,330 คัน ปืนใหญ่อัตตาจร 192 กระบอก และปืนใหญ่สนาม 1,740 กระบอก ส่วนกำลังรบทางเรือและทางอากาศนั้นมีดังนี้
กองทัพเรือมีพลเรือเอกทินอองซานเป็นผู้บัญชาการโดยมีกำลังทหารประจำการ 19,000 นาย เรือฟรีเกต 5 ลำ เรือคอร์แว็ต 3 ลำ เรือติดขีปนาวุธพิสัยไกล 18 ลำ เรือยามฝั่งขนาดใหญ่ 9 ลำ เรือปราบเรือดำน้ำ 9 ลำ เรือตรวจการณ์ชายฝั่งระยะไกล 19 ลำ เรือตรวจการณ์ชายฝั่งระยะใกล้ 15 ลำ เรือกวาดทุ่นระเบิด 2 ลำ เรือตอร์ปิโด 1 ลำ เรือตรวจการณ์ชายฝั่งขนาดเล็ก 32 ลำ เรือตรวจการณ์ลำน้ำ 41 ลำ
ส่วนกองทัพอากาศเมียนมามีพลอากาศเอกหม่องหม่องคะยอ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศมีทหารประจำการ 23,000 นาย และเครื่องบินรวม 277 เครื่องประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่และโจมตีอเนกประสงค์ มิก 29 ของรัสเซีย 31 เครื่อง เครื่องบินโจมตีอเนกประสงค์ซูคอยซู 30 ของรัสเซีย รวม 6 เครื่อง เครื่องบินขับไล่หนานฉางคิว 5 ของจีน 21 เครื่อง เครื่องบินขับไล่เฉิงตู 7 ของจีน 21 เครื่อง เครื่องบินขับไล่เฉินหยางเจ 6 ของจีนรวม 9 เครื่อง เครื่องบินขับไล่เจเอฟ 17 จากจีน 16 เครื่อง
มองทางด้านทิศตะวันออก 2 ประเทศที่ในประวัติศาสตร์เคยทำสงครามกับไทยหลายครั้งประเทศแรกคือกัมพูชาปัจจุบันมีทหารประจำการในกองทัพบก 85,000 นาย ผู้บัญชาการทหารบกคือ พลเอกฮุน มาโนช บุตรชายของนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น แบ่งการบังคับบัญชาทหารบกออกเป็น 6 ภาค กำลังอาวุธหนักมีรถถังหลัก 350 คันรถถังกลาง 150 คัน รถถังเบา 50 คัน รถเกราะ 650 คัน ปืนใหญ่สนาม 700 กระบอก กองทัพเรือกัมพูชามีกำลังพล 2,800 นาย มีพลเรือตรีเตียวินเป็นผู้บัญชาการทหารเรือมีเรือรบขนาดเบา 22 ลำ กองทัพอากาศกัมพูชามีกำลังพล 2,500 นาย มี พลอากาศตรีโซงซามนัง เป็น
ผู้บัญชาการทหารอากาศไม่มีเครื่องบินรบประจำการ
ประเทศที่ 2 คือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มี พลเอกบุญหาง วรชิต เป็นผู้บัญชาการทหารบกมีกำลังพล 29,100 นายมีรถถังหลัก 30 คัน รถถังกลาง 10 คัน รถถังเบา 10 คัน รถเกราะลำเลียงพล 30 คันปืนใหญ่สนาม 60 กระบอก กองทัพเรือมีกำลังพล 500 นาย เรือรบขนาดเล็ก 44 ลำ กองทัพอากาศมีกำลังพล 400 นาย ไม่มีเครื่องบินรบประจำการเช่นเดียวกัน
ส่วนกองทัพไทยนั้นมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกณัฐ อินทรเจริญ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม พลเอกพรพิพัฒน์ เบญญศรี เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือและ พลอากาศเอกชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ
กองทัพไทยในอดีตเมื่อ 30 ถึง 60 ปีก่อนได้รับความช่วยเหลือด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแบบให้เปล่าและจากการซื้อตามโครงการช่วยเหลือรัฐบาลต่างประเทศแต่ปัจจุบันไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่มีฐานะเศรษฐกิจมั่นคงราคาที่ซื้อไม่ได้ถูกแล้วเราต้องพึ่งตัวเองการเตรียมกำลังรบไว้ป้องกันประเทศจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งของชาติไทย
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี