วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
ชีวิตเลือดเนื้อ และความชอบธรรมของไทย ต้องไม่สูญเปล่า

ดูทั้งหมด

  •  

ฮุนเซนและพวก รวมทั้งโฆษกนางมาลีของกัมพูชา พึงสำเหนียก

“คุณอาจหลอกประชาชนในประเทศตัวเองได้ชั่วคราว แต่คุณไม่มีวันหลอกความจริง หลอกดาวเทียม และหลอกประชาคมโลกได้” (ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์กล่าว)


เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา กองทัพบก และหน่วยงานฝ่ายไทยเรา ได้นำเอกอัครราชทูตและอุปทูต รวม 20 กว่าประเทศ พร้อมทั้งสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 150 คน ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเหตุการณ์ ตรวจสอบ และสังเกตการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพลเรือนไทยจากการใช้อาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชา อันเป็นผลมาจากเหตุการณ์ตึงเครียดระหว่างไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักกฎหมายสากลและหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

ขอชื่นชมว่า กองทัพไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ ได้ทำหน้าที่ตีแผ่ สื่อสารความจริงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนำเสนอข้อมูลหลักฐาน วัตถุพยาน พยานบุคคล ชัดเจน

บรรยายสรุปเหตุการณ์ ลำดับเรื่องตั้งแต่ก่อนเสียงปืนนัดแรกจะดังขึ้น ฝ่ายกัมพูชาคุกคามยั่วยุ รุกรานก่อน

ทูตบางชาติ ถึงกับยอมรับว่า เห็นใจพลเรือนไทยเห็นความจริงชัดเจนว่าต้องเจอกับอะไร

ตอกย้ำ กัมพูชากระทำขัดต่อหลักกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

เพื่อเน้นย้ำว่า ฝ่ายไทยคือผู้ถูกรุกราน ฝ่ายกัมพูชายิงก่อน แล้วเรายอมหยุดยิง ทั้งๆ ที่ฝ่ายไทยเรากำลังได้เปรียบทางการทหาร การพูดคุยทวิภาคีหลังจากนี้ จะต้องยืนยันตามเงื่อนไขฝ่ายไทยเป็นหลัก

เพื่อมิให้เลือดเนื้อและชีวิตทหารหาญสูญเปล่า

และความชอบธรรมทั้งหมดที่เรามีเหนือกว่า ก็จะต้องไม่เสียเปล่าเช่นกัน

ขอบันทึกข้อมูลความจริง ที่รายงานต่อคณะทูตที่ลงพื้นที่จริงในวันดังกล่าว สาระสำคัญ ดังนี้

1. ลำดับเหตุการณ์และข้อเท็จจริง

1.1 ลำดับเหตุการณ์

ตั้งแต่ต้นปี 2568 ฝ่ายกัมพูชาดำเนินการยั่วยุ เพื่อสร้างความตึงเครียด ด้วยกิจกรรมทางทหาร และพลเรือน โดยมีลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญ ดังนี้

13 ก.พ. 2568 การพานักท่องเที่ยวขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม

28 ก.พ. 2568 การเผาศาลาตรีมุข ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างเชิงสัญลักษณ์ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ระหว่างไทย กัมพูชา และ สปป.ลาว

ห้วงเดือน มี.ค. ถึง เม.ย.2568 ทหารกัมพูชา ดัดแปลงภูมิประเทศบริเวณแนวชายแดน เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหารเช่น การเสริมความแข็งแรงของที่มั่น การปรับปรุงเส้นทาง และการขยายแนวเขตคูติดต่อเพิ่มเติมเข้ามาในเขตประเทศไทย

ห้วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. 2568 ฝ่าย กพช. ได้เคลื่อนย้ายกำลังพลเพิ่มเติม และอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาประชิดชายแดนไทย - กพช. เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่มีหลักฐานการพิสูจน์ทราบจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมของนักวิจัยชาวออสเตรเลีย ต่อมาฝ่าย กพช.ได้รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของไทย โดยเข้ามาขุดคูติดต่อ

28 พ.ค. กัมพูชาเริ่มเปิดฉากการยิง (Skirmish) ระหว่างหน่วยในพื้นที่ โดยฝ่ายไทยได้ตอบโต้เพื่อเป็นการป้องกันตัว บริเวณช่องบก กองทัพ และรัฐบาลไทยพยายามใช้แก้ไขปัญหาแบบทวิภาคี ซึ่งไม่เป็นผล

ห้วงเดือน ก.ค. 2568 ทหารกัมพูชา ได้รุกล้ำเข้ามาลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหลายพื้นที่ในเขตแดนไทย จนทำให้ทหารไทยที่ออกลาดตระเวน ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลPMN-2 ถึง 2 ครั้ง ทำให้เกิดการสูญเสีย ขาขาด 2 นาย และมีบางส่วนบาดเจ็บ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าย กพช. จงใจละเมิดหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง อีกทั้งเป็นการจงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่ทั้งไทย และกัมพูชาให้สัตยาบัน นอกจากนั้น ในพื้นที่ดังกล่าว ได้ดำเนินการเก็บกู้วัตถุระเบิด ภายใต้ความร่วมมือของนานาชาติ จนมีความปลอดภัยเป็นที่ประจักษ์แล้ว

ในขณะเดียวกัน ฝ่าย กพช. พยายามแสดงการยั่วยุ โดยส่งทหาร กพช. ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบแสดงเป็นพลเรือน ตลอดจนจัดตั้งมวลชนชาว กพช. จากกรุงพนมเปญและใกล้เคียง เข้ามาในพื้นที่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือน และพื้นที่อื่นๆ ตามแนวชายแดน เพื่อจัดกิจกรรมทำคอนเทนต์ แสดงออกในลักษณะยั่วยุนักท่องเที่ยวชาวไทย ประชาชนไทย และทหารไทย ในพื้นที่ จนเกิดการกระทบกระทั่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างคนไทย และคน กพช. ในพื้นที่ปราสาทต่างๆ

1.2 การเปิดฉากยิงของกัมพูชา

ภายหลังจากทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาอีกครั้ง เป็นรายที่สอง สถานการณ์มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น อาจทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลดังกล่าว ฝ่ายไทยจึงได้ใช้มาตรการควบคุมชายแดนบริเวณปราสาทตามแนวชายแดนทั้งหมด ด้วยการล้อมรั้วลวดหนาม

24 ก.ค. 2568 ทหารกัมพูชา เริ่มยิงใส่ทหารไทยที่ประจำ ณ ปราสาทตาเมือนธมก่อน โดยใช้ ปืนเล็กยาว, ปืน และ เครื่องยิงลูกระเบิด mortar จนนำไปสู่การปะทะกัน จากนั้น ฝ่าย กพช. ได้ยกระดับเป็นการใช้กำลังรบ และอาวุธยิงสนับสนุน ปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 โจมตีฝ่ายไทยตลอดแนวชายแดน จงใจยิงเป้าหมายพลเรือน ซึ่งหากจากชายแดน เกือบ 10 กม. ถึง 30 กม.

โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์

ปั้มน้ำมัน PTT บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ร้านค้าสะดวกซื้อ 7-11 บ้านผือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

โรงเรียนในจังหวัดสุรินทร์ และศรีสะเกษ

บ้านเรือนราษฎร เช่น หมู่บ้านกรวด บ้านกุดเชียง ในพื้นที่ จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี

ทำให้พลเรือนบาดเจ็บ 36 ราย เสียชีวิต 15 ศพ ซึ่งผู้เสียชีวิต 1 ในนั้นเป็นเด็กอายุเพียง 8 ขวบและมีราษฎรต้องอพยพจำนวนมากกว่า 150,000 คน

1.3 การตอบโต้ของฝ่ายไทย ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวฝ่ายไทยได้ดำเนินการตอบโต้ ภายใต้หลักการแห่งการป้องกันตนเอง (Right of Self-Defense) ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ (Article 51 of the UN Charter) ซึ่งระบุว่า “ไม่มีบทบัญญัติใดในกฎบัตรนี้จะกระทบสิทธิของรัฐในการป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมาย หากมีการโจมตีด้วยอาวุธเกิดขึ้นต่อรัฐนั้น”

การตอบโต้ของฝ่ายไทยจึงเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยกฎหมาย และอยู่ภายใต้หลักความจำเป็นและความได้สัดส่วน (Necessity and Proportionality) โดยมีเป้าหมายเพียงเพื่อยับยั้งภัยคุกคาม ลดการสูญเสียของพลเรือน และรักษาเสถียรภาพของอธิปไตยแห่งชาติ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยมิได้ มีเจตนาที่จะรุกรานหรือกระทำการใดๆ ที่เกินขอบเขตการป้องกันตนเองจากการคุกคามโดยฝ่าย กพช.

ทั้งนี้ ฝ่ายไทยทำการโจมตีเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชาใช้การโจมตีแบบ indiscriminate target ทำให้เกิดการสูญเสียทางพลเรือนของฝ่ายไทย

นอกจากนี้ ที่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนในเขตชุมชนพลเรือน เสมือนเป็นใช้โล่มนุษย์ ซึ่งฝ่ายไทยไม่ตอบโต้ไปเป้าหมายดังกล่าว ถือเป็นการเจตนาละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงจนไม่สามารถให้อภัยได้ และไม่มีประเทศอารยธรรมใดในโลกที่ยอมรับการกระทำ ซึ่งไร้มนุษยธรรมในลักษณะดังกล่าว

2. กัมพูชายังคงดำเนินการทางทหาร

หลังจากมีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิง ที่มาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 แล้ว เวลาหลังเที่ยงคืน ฝ่ายกัมพูชาได้ละเมิดข้อตกลงการหยุดยิง ในพื้นที่ดังต่อไปนี้ (1) Chong Bok Area, Ubon Ratchathani Province (2) Sam Tae Area, Si Sa Ket Province (3) Pha Mor E Daeng, Si Sa Ket Province (4) Phu Ma Khua/Khanmar Area, Si Sa Ket Province (5) Phlan Yao Area, Si Sa Ket Province (6) Ta Kwai Temple, Surin Province

ทั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิง จนถึงวันที่ 30 ก.ค.2568 เวลา 05.10 น.รายละเอียดตามภาพฉาย 2.2 และเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตรวจพบทหารกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย และการใช้อากาศยานไร้คนขับของฝ่ายกัมพูชา บินตรวจการณ์ในพื้นที่ตอนในของฝ่ายไทย อย่างมีนัยสำคัญ

3. การตอบโต้การบิดเบือนข้อมูลของฝ่ายกัมพูชา

3.1 กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยรุกรานกัมพูชา และละเมิดกติกาสหประชาชาติ อำนาจอธิปไตย และอาณาเขตรัฐ

ข้อเท็จจริง : ประเทศไทยเป็นรัฐสมาชิกสหประชาชาติที่เคารพในกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัด รวมถึงหลักการไม่ใช้กำลังในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ (Article 2(4) UN Charter)

การปฏิบัติของฝ่ายไทยเป็นการป้องกันตนเองอย่างจำเป็นและได้สัดส่วน (necessity & proportionality) ตามสิทธิที่ระบุไว้ใน Article 51 ของกฎบัตรฯ หลังจากฝ่าย กพช. ใช้อาวุธโจมตีด่านทหาร ฝ่ายปกครอง และชุมชนไทยในหลายพื้นที่

มีหลักฐานชัดเจนว่ากำลังฝ่าย กพช.เคลื่อนกำลังเข้ามาในเขตแดนของไทยหลายครั้ง พร้อมใช้อาวุธโจมตี เป้าหมายของฝ่ายไทยโดยเฉพาะเป้าหมายพลเรือน เช่น โจมตี รพ.พนมดงรัก ซึ่งห่างจากชายแดน เกือบ 10 กม., ปั๊มน้ำมันบ้านผือ ที่ห่างจากชายแดน 30 กม.

3.2 กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ระเบิดเคมี

ข้อเท็จจริง : เป็นคำกล่าวหาที่ร้ายแรง และไร้มูลความจริงโดยสิ้นเชิง ประเทศไทยเป็นภาคีของ อนุสัญญาว่าด้วยอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention - CWC) และปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด ไม่มีหน่วยใดในกองทัพไทยที่ใช้อาวุธเคมี ทั้งในแง่ยุทธวิธีหรือยุทธศาสตร์ การกล่าวหาเช่นนี้เข้าข่าย war propaganda และเป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อใส่ร้าย

กรณีภาพ “ระเบิดเคมี” ที่ฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ โดยรัฐบาลกัมพูชา แท้จริงคือภาพภารกิจการดับไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ปี 2022 ซึ่งสามารถดูภาพดังกล่าวได้ผ่านทางสื่อออนไลน์

3.3 กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้เครื่องบิน F-16 และอาวุธหนักจำนวนมาก

ข้อเท็จจริง : อาวุธทั้งหมดที่ใช้ในการตอบโต้ และมีความเหมาะสมตามสัดส่วน เป็นเพื่อสกัดการรุกล้ำของฝ่ายกัมพูชา และกระทำต่อเป้าหมายทางทหาร บริเวณแนวชายแดน ไม่ใช่การโจมตีเชิงรุก

ฝ่าย กพช. ต่างหากที่วางกำลังและยิงอาวุธจากพื้นที่พลเรือน ใช้ชุมชนเป็น “โล่มนุษย์” ซึ่งเป็นการละเมิด International Humanitarians Laws อย่างร้ายแรง

3.4 กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ระเบิด MK-84 ตกใส่บ้านเรือนของประชาชนกัมพูชา

การออกมาแถลงของ นายเฮง รัตนา หัวหน้า CMAC ของกัมพูชา กล่าวหาว่าไทยเพิ่งทิ้งระเบิดMK-84 ลงในกัมพูชา มีลักษณะชัดเจนของการบิดเบือนข้อมูล โดยอ้างภาพเก่าและสร้างการเชื่อมโยงที่ไม่มีมูลความจริง

ฝ่ายไทยขอปฏิเสธข้อกล่าวหาของกัมพูชาอย่างสิ้นเชิง ซึ่งภาพวัตถุระเบิดที่กัมพูชาอ้างว่าเป็น MK-84 นั้น เป็นระเบิดเก่าจากยุคสงครามเวียดนาม และไม่เป็นไปตามหลักทางวิทยาศาสตร์ รายละเอียดตามภาพฉาย

ทั้งนี้ไทยขอประณาม และให้กัมพูชาหยุดการกล่าวหาอันเป็นเท็จ เพื่อปลุกปั่นกระแสความเกลียดชัง และขอให้หันมาร่วมมือกับประเทศไทยและประชาคมระหว่างประเทศในการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนอย่างสันติ ผ่านการเจรจาและความร่วมมือที่ตรงไปตรงมา

สรุป - การปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น ฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้เริ่มยิงก่อน โดยอาวุธระยะไกลยิงต่อเป้าหมายพลเรือน และทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเสียหายของพลเรือนที่ยอมรับไม่ได้

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการเจรจาตกลงหยุดยิงแล้วแต่ ฝ่ายกัมพูชายังละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง

ยิ่งไปกว่านั้น กัมพูชา เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบ

ทั้งหมดนี้ ตอกย้ำว่า ฝ่ายกัมพูชายิงก่อน ฝ่ายไทยคือผู้ถูกรุกราน แล้วเรายอมหยุดยิง ทั้งๆ ที่ ฝ่ายไทยเรากำลังได้เปรียบทางการทหาร ดังนั้น การพูดคุยทวิภาคีหลังจากนี้ จะต้องยืนยันตามเงื่อนไขฝ่ายไทยเป็นหลัก

เพื่อมิให้เลือดเนื้อและชีวิตของทหารหาญผู้พลีชีพ สูญเปล่า

และความชอบธรรมทั้งหมดที่ไทยเรามีเหนือกว่า ต้องไม่เสียเปล่าเช่นกัน

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
23:04 น. 'วราวุธ'นำทีม พม.มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการจังหวัดร้อยเอ็ด
22:37 น. ตชด.รวบผู้ค้ายายึดยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ดกลางเมืองเชียงคาน
22:18 น. ผู้สูงอายุหนีสู้รบ! อาศัยอยู่ศูนย์พักพิง เคี้ยวหมากคลายเครียด
22:08 น. โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้-ตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ
21:33 น. จุฬาฯมอบทุนการศึกษาฟรี แก่'บุตร-คู่สมรส'ผู้เสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตย
ดูทั้งหมด
กากเดนไทยเนรคุณแผ่นดิน! 'แอม เสาวลักษณ์'เดือดจัด โพสต์ฉะผ่านไอจี แฟนคลับแห่คอมเมนต์สนั่น!
เจอหลักฐานใหม่!! 'อ.ปริญญา'ชี้'ฮุนเซน-ฮุนมาเนต'ละเมิดรัฐธรรมนูญตัวเอง
'อ.ธรณ์'จับโป๊ะ! โพสต์แฉภาพฝูงแร้งกินศพชายแดนไทย-กัมพูชา เอารูปแร้งหิมาลัยมามั่วนิ่ม
'สถานทูตญี่ปุ่น'โพสต์หลังลงพื้นที่ดูผลกระทบพลเรือนไทยในพื้นที่ชายแดน
'ต้นหอม'ไมเกรนพุ่งปรี๊ด! หลังหุ้นส่วน'บอย ภิษณุ'ออกมาแฉยับ ลั่นชาวเน็ตอยู่ข้างคนชนะพอ
ดูทั้งหมด
การพัฒนาพลเมืองคุณภาพและพลเมืองตื่นรู้เป็นรากฐานสำคัญสำหรับการสร้างประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืนในสังคมไทย (2)
มนุษย์ฮวยเซง (1)
ชีวิตเลือดเนื้อ และความชอบธรรมของไทย ต้องไม่สูญเปล่า
บุคคลแนวหน้า : 4 สิงหาคม 2568
เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนสถานการณ์ประเทศไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ตชด.รวบผู้ค้ายายึดยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ดกลางเมืองเชียงคาน

จุฬาฯมอบทุนการศึกษาฟรี แก่'บุตร-คู่สมรส'ผู้เสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตย

ตบยางสาวสุดยอด! พลิกแซงเวียดนามผงาดแชมป์ซีวีลีก

จะให้ตายกี่รอบ! 'บุ๋ม ปนัดดา'โพสต์แจงหลังเพจปลอมปล่อยข่าวเสียชีวิต

'มายด์ ณภศศิ'โพสต์ขอโทษ หลังดราม่ากู้วิดีโอเก่าของคนอื่นมาเผยแพร่

เปิดภารกิจ! พิสูจน์ทราบตำบลกระสุนตก 13 จุด

  • Breaking News
  • \'วราวุธ\'นำทีม พม.มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการจังหวัดร้อยเอ็ด 'วราวุธ'นำทีม พม.มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการจังหวัดร้อยเอ็ด
  • ตชด.รวบผู้ค้ายายึดยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ดกลางเมืองเชียงคาน ตชด.รวบผู้ค้ายายึดยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ดกลางเมืองเชียงคาน
  • ผู้สูงอายุหนีสู้รบ! อาศัยอยู่ศูนย์พักพิง เคี้ยวหมากคลายเครียด ผู้สูงอายุหนีสู้รบ! อาศัยอยู่ศูนย์พักพิง เคี้ยวหมากคลายเครียด
  • โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้-ตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้-ตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ
  • จุฬาฯมอบทุนการศึกษาฟรี แก่\'บุตร-คู่สมรส\'ผู้เสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตย จุฬาฯมอบทุนการศึกษาฟรี แก่'บุตร-คู่สมรส'ผู้เสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตย
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ชีวิตเลือดเนื้อ และความชอบธรรมของไทย  ต้องไม่สูญเปล่า

ชีวิตเลือดเนื้อ และความชอบธรรมของไทย ต้องไม่สูญเปล่า

4 ส.ค. 2568

ภัยคุกคามความมั่นคงอวตาร?  ไทยต้องเตรียมรับมือกับอะไร

ภัยคุกคามความมั่นคงอวตาร? ไทยต้องเตรียมรับมือกับอะไร

1 ส.ค. 2568

ลางร้ายพ่อนายกฯ  แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

ลางร้ายพ่อนายกฯ แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

31 ก.ค. 2568

จุดอ่อนของไทย  คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

จุดอ่อนของไทย คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

30 ก.ค. 2568

ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

ภัยเศรษฐกิจ หนักไม่แพ้ภัยสู้รบ

29 ก.ค. 2568

ฮุนเซนปลูกอคติต่อไทย  ในแบบเรียนกัมพูชา

ฮุนเซนปลูกอคติต่อไทย ในแบบเรียนกัมพูชา

28 ก.ค. 2568

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด

25 ก.ค. 2568

‘ชินวัตร’จะไร้ตำแหน่ง หรือไร้แผ่นดิน?

‘ชินวัตร’จะไร้ตำแหน่ง หรือไร้แผ่นดิน?

24 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved