ในระยะ 30 ปีมานี้ได้มีกฎหมายและการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายจำนวนมาก และกฎหมายเหล่านั้นก็ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงต่อบ้านเมือง จนต้องตั้งองค์กรจำนวนมากขึ้นมา ราวกับว่ามีความตั้งอกตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติไม่ว่าที่เกิดจากการทุจริต การฉ้อฉล หรือการบิดเบือนการใช้อำนาจ
แต่แท้จริงแล้วผลปฏิบัติที่เป็นจริงได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่านั่นเป็นเพียงแค่มายาภาพสำหรับใช้อ้างว่ามีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะแก้ไขปัญหาการทุจริต การฉ้อฉล และการบิดเบือนการใช้อำนาจ
เพราะความเป็นจริงได้ปรากฏชัดเจนแล้วว่ายิ่งนานวันเข้าการทุจริตคอร์รัปชั่นยิ่งขยายตัวและลุกลามไปทุกหัวระแหง แม้กระทั่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเล็กๆ หลายแห่งที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง ก่อให้เกิดการฉ้อฉลและการบิดเบือนการใช้อำนาจตามอำเภอใจ
นั่นคือมีการใช้กฎหมายบังคับตามแต่ใจของผู้ใช้อำนาจนั้น และไม่บังเกิดผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ของการตรากฎหมายนั้นเลย เพราะเหตุนี้การทุจริต การฉ้อฉล และการบิดเบือนการใช้อำนาจจึงขยายตัวลุกลามไปในทุกหนทุกแห่ง
ยกตัวอย่างแค่เรื่องเล็กๆ คือเรื่องการยกเลิกการใช้สำเนาเอกสารในการติดต่อกับส่วนราชการ ซึ่งถ้าดูผิวเผินก็เสมือนหนึ่งเป็นเรื่องดีที่จะลดภาระของประชาชน แต่ในทางปฏิบัติกลับตรงกันข้าม
เช่น ในกรณีประชาชนไปโอนที่ดิน หากเป็นไปตามหลักที่ว่านั้นประชาชนก็ไม่ต้องใช้สำเนาเอกสารไปแสดงอีกต่อไปแล้ว เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบหรือหาข้อมูลได้จากระบบสารสนเทศของรัฐบาลที่ได้ลงทุนลงแรงจำนวนมหาศาล
และถ้าหากเป็นเช่นนั้นก็จะบรรลุวัตถุประสงค์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและในการช่วยเหลือราษฎรในการติดต่อกระทำการต่างๆ กับหน่วยงานของรัฐได้อย่างราบรื่น สะดวก รวดเร็ว และประหยัด
ทว่าในทางปฏิบัติจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะกลับเรียกเอาต้นฉบับเอกสารไปตรวจสอบก่อน เช่น การเรียกเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปประกอบการพิจารณา ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ
ตัวอย่างเช่น ผู้บริหารกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีการโอนหรือทำนิติกรรมสัญญาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์พร้อมกันหลายที่หลายแห่งก็ไม่สามารถดำเนินการได้ทันในครั้งเดียว เพราะแต่ละแห่งก็อาจเรียกดูบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งทำไม่ได้ หรือถ้าทำได้ก็ทำได้เฉพาะการทำนิติกรรมเฉพาะจุดเดียวและในครั้งนั้น ไม่อาจทำพร้อมกันได้
และในปัจจุบันนี้ในการเดินทางภายในประเทศหรือต่างประเทศ หรือแม้กระทั่งการเปิดบัญชีธนาคารก็ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนไปตรวจดู หากตรงกับวันที่ต้องไปทำนิติกรรมและต้องมอบบัตรประจำตัวประชาชนไปดำเนินการก็จะไม่สามารถเดินทางหรือทำธุรกรรมกับธนาคารได้
ดังนั้น จึงเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ หรือถ้าต้องการจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเฉพาะคราวก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
นั่นเป็นตัวอย่างกระจุ๋มกระจิ๋มที่เกิดขึ้นแล้วก็ยังไม่มีการแก้ไขและยังเป็นปัญหาอยู่ร่ำไป ทั้งๆ ที่รัฐบาลมีเจตนาดีที่จะอำนวยความสะดวกรวดเร็วและประหยัดให้แก่ประชาชน แต่แค่มีช่องว่างอันน้อยนิดก็มีการบิดเบือนการใช้อำนาจให้เป็นเสียอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน
นอกจากนั้น การกำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขต่างๆ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายก็มีลักษณะพิกลพิการในสองลักษณะคือ
ลักษณะแรก ในตัวบทหลักของกฎหมายไม่ได้ระบุหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอันเป็นหลักการไว้ แต่โยนไปให้ผู้มีอำนาจในการออกข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเอง และผลที่เกิดขึ้นก็คือมีความสลับซับซ้อน มีความยุ่งยาก และเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากหากต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขนั้น ถึงขนาดที่ว่าราษฎรทั่วไปไม่อาจปฏิบัติได้ จึงกลายเป็นเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเจ้าสัว หรือต่างชาติ กลายเป็นการทำให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน เสียเปรียบ และเสียหาย
ลักษณะที่สอง คือการกำหนดคุณสมบัติต่างๆ ที่วกวน วุ่นวาย สลับซับซ้อนยิ่งกว่าเดินทางไปป่าหิมพานต์หรือเขาวงกต และก่อให้เกิดปัญหาโต้เถียง โต้แย้งกันไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่ต้องอื่นไกล เอากันแค่คุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เขียนไว้อย่างยืดยาวในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระบุทั้งคุณสมบัติโดยตรง ระบุลักษณะต้องห้าม รวมทั้งข้อยกเว้นสลับซับซ้อนกัน จึงก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติอย่างยิ่ง
ระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมานี้ปัญหาดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างเด่นชัดและกลายเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในบ้านเมือง ตลอดจนความสับสนอลหม่านในการบริหารราชการแผ่นดินและทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพขึ้นโดยทั่วไป
ดังเช่นคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งขณะนี้ก็เห็นปัญหาชัดเจนอยู่แล้วว่ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนมากที่ส่อว่าจะขาดคุณสมบัติ โดยที่คนเหล่านั้นอ่านกฎหมายแล้วดูกฎหมายเล่าก็ไม่เห็นว่าจะขาดคุณสมบัติ
แต่พอเอาเข้าจริงก็อาจถูกเพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้งได้ และกำลังจะมีการถอดถอนสมาชิกภาพของ สส. กันนับร้อยคน ซึ่งเป็นที่หวาดหวั่นว่าอาจจะก่อให้เกิดวิกฤติทางการเมืองครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศ
เหล่านี้จึงทำให้คนดีหรือผู้ที่ตั้งใจเสียสละเข้ามารับใช้ชาติบ้านเมืองต้องเบื่อหน่ายระอา กระทั่งไม่อยากข้องแวะด้วย โดยผลก็คือเป็นการกีดกันโดยอ้อมที่ทำให้คนดีไม่สามารถเข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองได้ หรือแม้แต่ข้าราชการประจำที่ต้องการทำดีให้กับบ้านเมืองก็จะติดขัดด้วยอุปสรรคของกฎหมายที่พลาดพลั้งเมื่อใดก็จะเกิดความเสียหายเมื่อนั้น
เวรกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชนมากพอแล้ว จึงถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะตระหนักในเรื่องนี้ และมุ่งมั่นแก้ไขปัญหานี้ให้ตกไปอย่างถึงราก!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี