วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ขณะนี้ผลการเลือกตั้งของสหรัฐชัดเจนแล้วว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งและมีผลต่อชัยชนะในสภาผู้แทนราษฎรและสภาสูงด้วย เป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และพรรคที่สังกัด ทำให้คนทั้งหลายคาดหมายว่าสถานการณ์ของโลกที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและสงครามจะกลับคืนสู่สันติภาพและการพัฒนา
นั่นเป็นการเล็งผลดีและเป็นผลโดยตรงจากการหาเสียงเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้หาเสียงในระหว่างเลือกตั้งว่า ภารกิจสำคัญแรกเริ่มต้นที่สุดของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต้องยุติสงครามในยูเครนและตะวันออกกลางให้ได้
เพราะเหตุที่สถานการณ์สงครามในยูเครนและตะวันออกกลางนั้นได้ทำให้สภาพชีวิตความเป็นอยู่และสถานะของสหรัฐเสื่อมโทรมตกต่ำอย่างรุนแรง รัฐบาลต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลในการโอบอุ้มช่วยเหลือยูเครนและอิสราเอล โดยไม่มีท่าทีว่าจะยุติได้เมื่อใด มิหนำซ้ำทหารอเมริกันที่ปฏิบัติการในยูเครนและตะวันออกกลางได้บาดเจ็บล้มตายลงเป็นจำนวนมาก ข่าวคราวเรื่องการเสียชีวิตดังกล่าวได้แพร่ขยายไปในหมู่ชาวอเมริกันโดยครอบครัวของผู้ตายและผู้บาดเจ็บจึงเกิดกระแสต่อต้านอย่างกว้างขวางไม่ต่างกับเมื่อครั้งสงครามเวียดนาม
ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจของสหรัฐก็เสื่อมทรุดลง ทั้งเศรษฐกิจ การค้าการเงิน การคลัง และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ พากันเสื่อมทรุดลงเป็นทิวแถว ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อทรัมป์ประกาศยุติสงครามจึงเป็นที่ต้องใจของคนจำนวนมาก และเป็นเหตุให้ทรัมป์ชนะอย่างท่วมท้น
แต่ทว่าทรัมป์จะสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ได้แค่ไหน โดยเฉพาะการยุติสงครามในยูเครนและตะวันออกกลางได้แค่ไหน จะยุติสงครามการค้ากับจีนได้อย่างไร รวมทั้งจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในแปซิฟิก โดยเฉพาะระหว่างจีนกับไต้หวันได้หรือไม่อย่างไร เป็นปัญหาที่ท้าทายและมีการพูดกันดังสนั่นลั่นไปทั้งโลก
สถานการณ์ของโลกจะเปลี่ยนแปลงไปตามที่ทรัมป์ได้หาเสียงไว้หรือไม่ จึงเป็นปัญหาคาใจและต้องการการวินิจฉัยหรือการคาดการณ์ว่าผลที่สุดจะลงเอยอย่างไร ปัญหานี้กึกก้องอยู่ทั่วโลก
เรื่องนี้ต้องอาศัยคำพูดของนายฟิเดล คาสโตร อดีตประธานาธิบดี ซึ่งเป็นวีรบุรุษของคิวบาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสหรัฐมาตลอดชีวิต ซึ่งได้กล่าวเป็นอมตะวาจาไว้ว่า
“ชาวโลกอย่าไปหลงเชื่อว่าพรรคการเมืองใดหรือใครคนใดคนหนึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐแล้วจะทำให้สหรัฐเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เพราะไม่ว่าพรรคใดหรือใครจะชนะเป็นประธานาธิบดี ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม เพราะทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ที่ผู้สมัครเป็นประธานาธิบดีสังกัดนั้นก็เป็นแค่แขนซ้ายแขนขวาของร่างกายคืออเมริกา เพียงแต่เสื้อแขนหนึ่งใช้สีแดง อีกแขนหนึ่งใช้สีน้ำเงินเท่านั้น”
นี่เป็นอมตะวาจาของนายฟิเดล คาสโตร ที่ถือเป็นคนสำคัญคนหนึ่งของโลกที่รู้จักอเมริกาดีที่สุด เพราะเป็นคู่ขัดแย้ง เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอเมริกามาตลอดชีวิต
นายฟิเดล คาสโตร ทราบดีว่าสหรัฐอเมริกานั้นมียุทธศาสตร์ชาติที่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ไม่ว่าใครหรือพรรคใดมาเป็นประธานาธิบดีก็ต้องปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ชาตินี้
นั่นคือยุทธศาสตร์ชาติที่ถือว่าโลกมนุษย์ของเรานี้จะต้องเป็นโลกที่มีมหาอำนาจแต่เพียงขั้วเดียว ที่มีสหรัฐเป็นผู้นำ บงการบังคับบัญชาโดยเด็ดขาด จะยอมให้มีขั้วอำนาจอื่นขึ้นมาแข่งขันหรือเทียบเคียงไม่ได้โดยเด็ดขาด
ประเทศใดหรือใครก็ตามที่ริอ่านขึ้นมาตั้งขั้วอำนาจอื่นหรือแข่งขันกับยุทธศาสตร์นี้ก็จะถือว่าเป็นศัตรูและถูกทำลายล้างจนถึงที่สุด
และปรากฏว่าโลกปัจจุบันนี้ได้มีขั้วอำนาจใหม่เกิดขึ้นเป็นคู่แข่งขันที่ฉกาจฉกรรจ์ของอเมริกา นั่นคือขั้วองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ ที่มี BRICS และ AIIB เป็นกลไกที่เคลื่อนไหวค้ำจุนที่สำคัญที่สุด และแกนหลักของขั้วใหม่นี้ก็คือรัสเซีย จีน อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ เคยเรียกสี่ประเทศนี้ว่าสี่อักษะปีศาจ ดังนั้นสี่อักษะปีศาจจึงตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกทำลายให้สิ้นสูญ เพื่อไม่ให้เป็นคู่แข่งขันกับสหรัฐซึ่งเป็นผู้นำขั้วอำนาจเดียวอีกต่อไป
แต่ทรัมป์เห็นว่าการจะทำลายสี่อักษะปีศาจนั้นจะต้องทำลายจีนก่อน เพราะเป็นแกนสำคัญทั้งเศรษฐกิจและการทหารของสี่อักษะปีศาจ ถ้าทำลายจีนได้แล้วรัสเซียก็จะยืนอยู่ไม่ได้ หลังจากนั้นอิหร่านและเกาหลีเหนือก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ
ดังนั้นทรัมป์จึงได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งถือจีนเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุดที่จะต้องถูกป้องกันกำจัดขัดขวางไม่ให้เติบใหญ่ และต้องทำลายล้างให้ถึงที่สุดแม้จะต้องทำสงครามต่อกัน
หลังจากนั้นก็เพิ่มแรงกดดันต่อจีนขึ้นในภาคพื้นแปซิฟิก แสนยานุภาพของสหรัฐได้หลั่งไหลมาที่แปซิฟิก ประสานกับการประกาศสงครามการค้าและการแพร่ระบาดของไวรัสหวู่ฮั่น ซึ่งทำให้จีนไหวตัวว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายของการทำลายล้าง
แต่จู่ๆ รัสเซียก็เปิดปฏิบัติการทางทหารขึ้นกรีฑาทัพเข้าตียูเครน เป็นเหตุให้สหรัฐและประเทศยุโรปต้องทุ่มเทกำลังเข้าช่วยเหลือยูเครน ทำให้แรงกดดันในแปซิฟิกหายไปในพริบตาจนบัดนี้ และต่อมาเมื่อสงครามขยายมาถึงตะวันออกกลางก็ทำให้สหรัฐและประเทศตะวันตกต้องจมปลักหนักขึ้น ไม่มีกำลังเพียงพอที่จะมากดดันจีน แต่กระนั้นก็ยังดำรงเป้าหมายหลักทางยุทธศาสตร์ต่อไป
ดังนั้นการประกาศยุติสงครามของทรัมป์แท้จริงก็คือเพื่อเคลื่อนย้ายกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ ตลอดจนกำลังทางเศรษฐกิจที่ช่วยเหลือยูเครนและตะวันออกกลางเพื่อมาเสริมกำลังแสนยานุภาพในแปซิฟิกตามยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก นั่นเอง
ในขณะที่สงครามการค้าและสงครามการเงินและปฏิบัติการของสงครามทุกชนิดก็จะยกระดับและขยายตัวรุนแรงมากขึ้นจนคาดคิดไม่ถึง
ดังนั้นแม้ทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และคาดหมายว่าประเทศที่ทรัมป์เรียกว่าสี่อักษะปีศาจก็ย่อมรู้ทันความคิดนี้ และจะไม่ยินยอมให้สหรัฐปฏิบัติการทางทหารได้ตามอำเภอใจ
ด้วยเหตุนี้จึงพอคาดหมายได้ว่า สถานการณ์สงครามในยูเครนและตะวันออกกลางจะไม่สามารถยุติลงตามที่ทรัมป์ได้หาเสียง แต่จะมีความเข้มข้นและรุนแรงในการทำลายจีนมากขึ้น แต่จะทำได้แค่ไหนเพียงใดนั้นยังขึ้นอยู่กับความจริงว่าสหรัฐจะปฏิบัติการอย่างไร และจีนรวมทั้งสี่อักษะปีศาจจะรับมืออย่างไร ซึ่งจะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในเดือนมีนาคมปีหน้า

กองทัพแจงแล้ว! ปมรื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู ในพื้นที่อธิปไตยไทย ยันไม่ได้ลบหลู่
เจตนาสุจริต! ศาลยกฟ้อง‘อัจฉริยะ’ รอดผิดแถลงข่าวหมิ่นตำรวจภูธรภาค 1‘คดีแตงโม’
สุดท้ายไม่รอด ตำรวจนนท์ตามล่า พ่อค้ายาซิ่งจยย.หนี
ขอความเป็นธรรม! ป.ป.ช.แจงเลื่อนชี้ขาดคดี 44 อดีต สส.ก้าวไกล
รัฐมนตรีกัมพูชาโพสต์รัวๆ สื่อนอกตีข่าวไทยทำลายรูปปั้นพระวิษณุ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี