วันพุธ ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 29 ในฐานะผู้นำคณะรัฐบาลผสม 19 พรรค การเมือง ได้ให้ความสนใจปัญหาการทุจริตในวงการศึกษาของไทยมากเป็นพิเศษ ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พลโทวีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบว่าพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการทุกๆ จังหวัดให้ปราบปรามการทุจริตในวงการศึกษาอย่างจริงจัง
รัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปรามการทุจริตไม่มีการละเว้นโดยให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ เข้าไปตรวจสอบกำกับดูแลการบริหารโรงเรียนทั่วประเทศอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะคุณภาพของอาหารและนมให้เด็กนักเรียนทั่วประเทศที่มักปรากฏ
เป็นข่าวถึงคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มให้เด็กได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่าให้เกิดการเบียดบัง เช่น งบฯอาหารนักเรียนวันละ 10,000 บาท และเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม มีรายงานข่าวระบุว่า สพฐ. โดย ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มีหนังสือกำชับไปยังโรงเรียน 29,000 แห่งทั่วประเทศให้ตรวจสอบโครงการอาหารเช้าและอาหารกลางวันอย่างเข้มงวดให้เด็กมีอาหารที่ดีและมีคุณภาพอิ่มท้องโดยให้ดำเนินการตรวจสอบให้เรียบร้อยภายใน 2 สัปดาห์แล้วรายงานมาให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วยเพื่อหาทางแก้ปัญหาการทุจริตต่อไปให้ได้ผล
ตามข้อเท็จจริงนั้นภายในรั้วกระทรวงเสมาถนนราชดำเนินนอก มีกระแสข่าวการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง มาอย่างช้านานเป็นสิบๆ ปี เริ่มตั้งแต่การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายครูและอาจารย์ มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่งกันชนิดที่ไม่แพ้ข้าราชการตำรวจ ครูและอาจารย์หากอยากได้ตำแหน่งดีๆ อยากไปบริหารโรงเรียนที่มีชื่อแต่ละอำเภอและจังหวัดนั้นต้องว่ากันด้วยเงินทองหลักแสนเลยทีเดียว บางโรงเรียนก็เป็นหลักล้านบาทเพื่อกรุยทางไปสู่ความยั่งยืน มั่นคงและมั่งคั่ง
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าการสอบบรรจุครูอาจารย์แต่ละเขตการศึกษาก็จะพบว่ามีขบวนการนายหน้ามาเรียกร้องเอาเงินและผลประโยชน์จากผู้ที่มาสมัครสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู, ครูในอัตราจ้างทุกๆ สาขาวิชา มีการเรียกร้องเงินทองเป็นแสนๆ บาทต่อ 1 ตำแหน่งแถมยังมีบทบาทที่เรียกกันว่าบินก่อนจ่ายทีหลังได้อีกด้วย ว่ากันว่าเงินหมุนเวียนในการซื้อขายตำแหน่งต่อหัวคนละไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาทขึ้นไป หากอยากได้เข้าไปทำงานในสถาบันการศึกษาที่ดีมีชื่อก็ต้องจ่ายให้ผู้มีอำนาจตำแหน่งละเป็นล้านบาท
อีกเรื่องหนึ่งที่ได้ยินมาหนาหูก็คือการจัดซื้อจัดหาจัดจ้างของส่วนราชการการศึกษาในทุกระดับตั้งแต่โรงเรียนชั้นอนุบาลไปจนถึงประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอาชีวศึกษาตัวผู้บริหารโรงเรียนมักจะได้ประโยชน์จากการพิจารณาในการจัดหา เช่น อุปกรณ์การศึกษา, อุปกรณ์การเรียน, แบบเรียน, ตำราเรียน, เสื้อผ้านักเรียน ฯลฯ นักธุรกิจที่เข้าไปยื่นซองประมูลงานต้องมีการจ่ายใต้โต๊ะให้ผู้มีอำนาจในโรงเรียนเพื่อให้ได้งานแถมบางครั้งมีระบบผูกขาดโดยนักการเมืองในส่วนท้องถิ่นโดยมีการสนับสนุนไปจากนักการเมืองในส่วนกลางซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากและยังหาวิธีแก้ไขหรือว่าป้องกันไม่ได้ผลอีกด้วย

'บก.ลายจุด'ปูดพรรคการเมืองดังแจกข้าว ลักไก่นำสำเนาบัตรปชช.ชาวเขา สมัครสมาชิกพรรค
'เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม'เข้ารับพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวินอย่างเป็นทางการ
'วัน อยู่บำรุง' ขยี้ 'ไอซ์' โชว์หลักฐาน ของบสร้างสะพาน
รวบขณะกำลังให้บริการ! สาวอังกฤษเปิดสอนโยคะเซ็กซ์ บนเกาะพะงัน
ศาลจีนสั่งประหารชีวิต5มาเฟียตระกูล'ไป๋' แก๊งอาชญากรรมที่มีอิทธิพลที่สุดในโกก้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี