สัปดาห์นี้ ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานหลายงานที่มีคุณค่าอยากจะแบ่งปันให้ผู้อ่าน ก่อนอื่นผมขอพูดถึงการเมืองไทยหลังการเลือกตั้งสักนิด
เราได้คณะรัฐมนตรีแล้ว มีหลายเสียงออกมาโจมตีครม.ว่าเป็นครม.ที่มีปัญหาเต็มไปด้วยบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาซึ่งผมยอมรับได้เพราะมาจากการเลือกตั้ง ยอมรับว่ายุคนี้ใช้เวลามากหน่อย กว่าจะปรับจากคณะรัฐประหารมาเป็น ครม.ภายใต้ประชาธิปไตย
การเลือกตั้งครั้งนี้ถึงจะปริ่มน้ำ แต่ก็ทำให้พรรคคุณทักษิณ ไม่ได้เป็นรัฐบาล ถ้าเป็นแบบเดิม ร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่ดูความจริง ก็จะได้รัฐบาลคุณทักษิณกลับมา และอะไรจะเกิดขึ้น โกงข้าว 7 แสนล้านบาท ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทันที 300 บาท โดยไม่ฟังเสียงไตรภาคี รถคันแรก และอีกหลายๆ นิรโทษกรรมสุดซอย ลดบทบาทคุณทักษิณบ้างก็ดี
รัฐธรรมนูญจึงร่างขึ้นมา แน่นอนยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็ทำให้เกิดรัฐบาลที่ต่อเนื่อง คุณประยุทธ์ได้ทำต่อ บทบาทของทักษิณลดลงอย่างมาก และมีพรรคคนรุ่นใหม่เกิดขึ้น
สื่ออาจจะโจมตีท่านนายกฯ อย่างมาก แต่ท่านก็เป็นผู้นำที่ดีระดับหนึ่ง ยังฟังความเห็นของทุกๆ กลุ่ม และผมเห็นว่าท่านเป็นคนที่รักประเทศไทย อย่างน้อยผมรับประกันว่าท่านสุภาพ ไม่หยาบคายแบบ Trump
ถ้าจะมีจุดอ่อนอยู่มากก็คือ รัก 3 ป. คือ ต้องไปด้วยกัน คือ พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา, พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ และ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา (บิ๊กป๊อก) น่าจะถึงเวลาที่คนไทยเริ่มเบื่อและยังต้องพึ่งพาทีมเศรษฐกิจของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับทีมงานมากเกินไป
ในอดีต ท่านนายกฯเปรม มีทีมเศรษฐกิจที่เป็นของตัวท่านเองมาก แต่นายกฯ ประยุทธ์ต้องพึ่งทีมของ ดร.สมคิดมากเกินไป เพราะดูแล้ว ดร.สมคิดก็ต้องการจะมีอำนาจในทางเศรษฐกิจ ผมแนะนำว่าทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจของท่านนายกฯประยุทธ์ น่าจะมี เช่น ดร.ศุภชัยพานิชภักดิ์ คุณกรณ์ จาติกวณิช คุณประสาร ไตรรัตน์วรกุล
สุดท้าย ถ้าจะมองการเมืองในโลก ไทยยังถือว่ายังอยู่ในประเทศที่เปิดกว้าง คือวิจารณ์ได้
แต่จะขอแนะนำท่านประยุทธ์ไว้ให้ระวังตัว อยู่ในอำนาจนานๆ จะมีคนหันมาโจมตีท่านมากขึ้น เพราะเป้าในอดีตคือ ทักษิณ และเรื่องคุณธรรมจริยธรรมต้องให้คนไทยศรัทธาท่านต่อไป
วันก่อน คุณสุทธิชัย หยุ่น ซึ่งก็ชอบคุณประยุทธ์อยู่แล้ว บ่นว่าคุณวิษณุตีความกฎหมายเข้าข้างรัฐบาลได้ทุกๆ เรื่อง คุณสุทธิชัย เรียกระบบนี้ว่า Rule by Law ที่น่าจะเป็นคือ Rule of Law คือต้องให้กฎหมายถูกตีความที่ถูกต้อง ใครผิดก็ผิด ไม่ใช้กฎหมายเพื่อช่วยคนผิด
ที่พูดมาก็เป็นความหวังดี เพราะเมื่อมีอำนาจนานๆ ไปท่านก็ต้องดูคนรอบข้างให้ดี เพราะคนรอบข้างก็อยากให้นายกฯ อยู่นานๆ ทั้งทหารและพลเรือน พอท่านหมดอำนาจแล้วยังถูกมองว่าเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยคล้ายๆ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
สรุปการเมืองคราวนี้ดูเหมือนเสี่ยง แต่มีบุคลากรจากการเลือกตั้งที่เป็นนักการเมืองอาชีพ มาร่วมงานด้วย อาจจะทำให้บิ๊กตู่เรียนรู้และปรับแนวคิดเพื่อให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้รับฟังความคิดของประชาชนมากขึ้น มีหลักการการบริหารที่ดีและต่อเนื่อง ค่อยๆ ปรับการทำงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งการแก้รัฐธรรมนูญบางส่วน
ผมมีโอกาสได้ไปเป็นประธานเปิดการประชุมมูลนิธิเราจะเป็นคนดี ครบรอบ 12 ปี มีโรงเรียนมัธยมในกรุงเทพฯกว่า 20 โรงเรียน เข้ามาร่วมเรื่องการเป็นคนดี ใครๆ ก็อยากเห็น เพราะในยุคเงินเป็นใหญ่ เด็กไทยขาดคุณธรรมจริยธรรม
ผมได้เห็นกิจกรรม 2 อย่าง ที่น่าสนใจมาก
เรื่องที่ 1 การประกวดนิทรรศการของโรงเรียนต่างๆ เรื่องคนดี และมีรางวัลให้ ปรากฏว่าแต่ละโรงเรียนจัดทำได้ดีมากๆ เสียดายที่ทำกันเฉพาะโรงเรียนที่มาร่วม ถ้าเปิดโอกาสให้โรงเรียนอื่นๆ หรือเยาวชนและประชาชนภายนอกมาร่วมงานด้วย
ส่วนกิจกรรมที่ 2 เชิญนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ที่คิดเพื่อสังคมมาร่วมแสดงความเห็น มีเด็กอายุ 24 เรียนเก่งแต่จบแล้วไม่ทำงาน ขอคุณพ่อไปสอนหนังสือที่สลัม1 ปี มีจิตอาสา มีจิตใจเพื่อทำความดี มาร่วมแสดงความคิดเห็น
อีกท่านหนึ่งเป็นผู้หญิงเก่งทำงานให้บริษัทน้ำมันใหญ่ Chevron แต่ทำไปได้สักพัก เห็นสภาพแวดล้อม ความยากจน เรื่องขยะ เรื่องการศึกษาของคนที่เสียเปรียบได้ขอให้บริษัทลงทุนเรื่อง CSR (Corporate Social Responsibility) การทำธุรกิจเพื่อสังคม
อยากให้ผู้บริหารทั้งไทยและต่างประเทศเอากฎ17 ข้อ ของการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาเลือกอันใด อันหนึ่ง ช่วยสังคม แทนที่จะทุ่มเทเพื่อกำไร คิดแต่ตัวเอง โดยไม่นึกถึงสังคมรอบข้างเลย
สุดท้ายผมเคยรับเกียรติเป็นนายกสโมสรไลออนส์กรุงเทพ รัตนชาติ ที่ทำไป 2 ปี ในทุกๆ เดือน ผมจะไปฝึกอบรมโรงเรียนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเน้นเรื่องทุนมนุษย์ 8K’s 5K’s รองรับ Asean ซึ่งนักเรียนทั้งเอกชนและของรัฐ ในโรงเรียนที่ผมไป สร้างความรู้ ให้เยาวชนไทยปรับตัวรองรับ Asean เช่นทุนแห่งความยั่งยืน ทุนทางเครือข่ายซึ่งปัจจุบันสำคัญมาก Asean อยู่คนเดียวไม่ได้ แต่ที่เศร้าคือ รัฐบาลไทยไม่สนับสนุนให้เด็กไทยไปหาความรู้ต่างประเทศ คิดว่าสิ้นเปลือง แต่ต่างประเทศถือเป็นนโยบายต้องออกนอกประเทศ โดยเฉพาะมาเรียนรู้เรื่องคนไทย ยิ่งการศึกษาไทยทำไปยิ่งแคบ เพราะไม่มีความตั้งใจเปิดโลกทัศน์เด็กให้เรียนรู้ใน Asean แต่ประเทศอื่นๆ เขาถือว่าการเดินทางมาประเทศไทยได้ความรู้ ตัวอย่างที่ดี คือ ประเทศอินโดนีเซีย
ผมจำได้ว่า 2 ปี ที่ทำมากระตุ้นให้เด็กไทยได้เข้าใจ Asean และพร้อมที่จะสร้างเครือข่ายปัจจุบันถ้าเราไม่ร่วมมือกัน เราก็อยู่ไม่ได้ นโยบายการศึกษาของไทยเห็นว่าไปต่างประเทศ ฟุ่มเฟือยมากๆ แต่ประเทศอื่นๆ เขามองเป็นการลงทุน
ขอบคุณ สโมสรไลออนส์กรุงเทพ รัตนชาตินำไลออนส์ไปสู่ระดับนานาชาติ คือ ร้อยเอกขจิตหัพนานนท์ กรรมการอำนวยการไลออนส์สากล ให้เกียรติมาร่วมงานด้วย
สโมสรไลออนส์กรุงเทพ รัตนชาติ จะมีนายกฯเป็นต่างชาติ และทีมงานของท่านมีความคิดคล้ายๆ ผม แทนที่ประชุมสังสรรค์เท่านั้น จะมีการสร้าง Digital Learning ให้เด็กเยาวชนไทยและต่างชาติได้เรียนจาก E-Learning
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี