ปัญหาทางด้านการศึกษาของไทยกำลังมาถึงทางตันแล้วโดยเฉพาะสืบเนื่องจากการที่ประชากรของไทยลดลงอย่างฮวบฮาบในรอบ 20 ปี หรือ 2 ทศวรรษที่ผ่านมาทำให้จำนวนเด็กที่เกิดน้อยจากปีละ 1.5 ล้านคนเมื่อปี 2530 กว่าปัจจุบันปี 2562 มีเด็กทารกเกิดแค่ปีละ 580,000 ถึง 600,000 คน ยังผลให้โรงเรียนร้าง วิทยาลัยร้าง มหาวิทยาลัยร้าง ขาดคนสมัครเข้าไปเรียนอย่างน่าวิตก
ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนก็ไม่มีปัญหาเพราะในปัจจุบันมีการขายหุ้นมหาวิทยาลัยไปให้นายทุนชาวจีนเข้ามาเทคโอเวอร์สามารถดึงเอานักเรียนจากจีนที่มีนับร้อยล้านคนเข้ามาศึกษาต่อในประเทศไทยได้ แต่ถ้าเป็นสถาบันการศึกษาของรัฐบาลล่ะจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร หากเป็น 4 มหาวิทยาลัยหลักคือ เกษตรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ธรรมศาสตร์ และมหิดล นั้นไม่เป็นไรเพราะชื่อเสียงเดิมมีมากพื้นฐานดีอย่างไรก็ยังมีเด็กมาสมัครเรียนต่อ
แต่หากเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลที่มีรวมกันประมาณ 100 แห่งล่ะจะทำกันอย่างไรเพราะมีข่าวว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏ 20 กว่าแห่งกำลังขาดสภาพคล่องทางด้านการเงินกำลังไม่มีเงินจะจ่ายให้แก่ข้าราชการพนักงานและลูกจ้าง กระทรวงอุดมศึกษาฯจะแก้ไขปัญหาไม่มีคนมาสมัครเรียนได้อย่างไรอาจจะต้องนำเอามารวมกันเป็นมหาวิทยาลัยในระบบวิทยาเขตกันหรือไม่ ทุนบริหารงานนั้นจะเอามาจากที่ใดกันจะกลายเป็นตึกร้างหรือไม่น่าห่วงมากทีเดียว
เรื่องนี้เป็นภาระที่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษาศธ. ได้แก่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการ, คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.และนางกนกวรรณ วิลาวัณย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ.รวมไปถึง นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา, นายกมล รอดคล้าย และนายณรงค์ ดูดิง ที่ปรึกษารัฐมนตรีทั้ง 3 คน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีทั้ง 8 ท่านต้องระดมสมองแก้ไขปัญหานี้เป็นการด่วน
เท่าที่ทราบมามีข่าวระบุว่าหลายๆ สาขาวิชาและหลายคณะในมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศที่มีมากกว่า 30 แห่ง กลายสภาพเป็นมหาวิทยาลัยร้างไม่มีนักศึกษาเลย ท่านรัฐมนตรีที่ดูแลปัญหาต่างๆทางด้านการศึกษาจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรดี จะยุบมหาวิทยาลัยทิ้งแล้วเอามารวมกันได้หรือไม่ สาเหตุนี้มาจากประชากรไทยลดลงไปแบบน่าปริวิตกมานานแล้วรัฐบาลหลายรัฐบาลเขารู้มานานแล้วแต่ไม่มีใครคิดที่จะแก้ไขปัญหาประชากรลดลงนี้เลย
มหาวิทยาลัยเอกชนไม่น่าวิตกเพราะเขาขายที่ดินและตัวอาคารไปให้นายทุนต่างประเทศโดยเฉพาะจีนได้ที่เขารอเซ้งกิจการต่ออยู่ แต่มหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่สมัยก่อนนักการเมืองเสนอให้รัฐบาลตั้งมหาวิทยาลัยแต่ไม่มีคนไปสมัครเรียนนี่สิมันน่าห่วงมากจะไปขายต่อให้ใครก็ไม่ได้เพราะมันเป็นทรัพย์สมบัติและทรัพย์สินของรัฐบาลนี่เป็นเรื่องคอขาด
บาดตายทีเดียวเป็นสถานการณ์ที่นายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำประเทศต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าโดยเร็วที่สุดจะรอช้าอีกไม่ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี