“สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)” ยุคนี้บริหารงานชนิด “แก้ผ้าเอาหน้ารอด” แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ลุล่วงไปเป็นวันต่อวัน การจะรับสมัครตำรวจเข้ามาแต่ละครั้งมักจะมีข้ออ้างอยู่เสมอที่รู้เห็นกันบ่อยคือมักจะอ้างว่า ตำรวจฝ่ายสอบสวนกำลังขาดแคลนต้องรับสมัครด้วยการสอบเข้ามาเปิดตำแหน่งเป็นพันตำแหน่งเพื่อเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกเข้ามาเป็นพนักงานสอบสวน
เมื่อผ่านการสอบเข้ามานั่งในตำแหน่งฝ่ายสอบสวนเพียงไม่กี่เดือนจะมีการย้ายภายในไปอยู่ตามสำนักงานผู้บังคับบัญชาบ้าง ไปเป็นนายตำรวจติดตามบ้าง ไปอยู่สายธุรการบ้าง ทำให้ตำแหน่งสายสอบสวนขาดแคลนจึงต้องไปย้ายตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและปราบปรามมานั่งทำหน้าที่แทน ทำให้ตำรวจที่เข้ามานั่งฝ่ายสอบสวนทำงานสอบสวนไม่ได้ คดีค้างถูกตำหนิ เกิดการเครียดฆ่าตัวตายด้วยวิธีการต่างๆ ง่ายสุดคือ การยิงตัวตายด้วยปืนพกประจำกาย หรือผูกคอตายเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
ตำรวจคือต้นธารกระบวนการยุติธรรม แต่ถูกกดขี่มากที่สุดสาเหตุหลักมาจากพวกเดียวกันเนื่องจากตำรวจไม่รักพวกเดียวกันและยังทรยศพวกเดียวกันด้วยการสลับตำแหน่งตำรวจฝ่ายสืบสวน ปราบปรามให้มานั่งในตำแหน่งฝ่ายสอบสวน ซึ่งพวกเขาไม่เคยทำการสอบสวนเลยจึงมีสำนวนค้างถูกตั้งกรรมการสอบไม่มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งจะไปวิ่งเต้นขอย้ายมาอยู่สายสืบสวน ปราบปรามก็ไม่มีเบี้ยมาแลกตำแหน่งมีแต่ปืนประจำกายใช้ปลิดชีพตนเอง
ขณะนี้มีตำรวจฆ่าตัวตายอยู่เรื่อยส่วนใหญ่เครียดเมื่อมาอยู่ฝ่ายสอบสวน นายตำรวจที่มีหน้าที่แต่งตั้งโยกย้ายเป็นนายตำรวจที่ไม่มีคุณธรรมกับเพื่อนร่วมงานเมื่อผู้บริหารต้องการให้นายตำรวจของท่านมานั่งในตำแหน่งที่ไม่ต้องสัมผัสกับประชาชน นายตำรวจที่มีหน้าที่สลับสับเปลี่ยนตำแหน่งจะรีบรับปากทันทีด้วยวลีไพเราะ “ได้ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับนาย สบายครับเพื่อน”
ขณะเดียวกันเขาจะนำชื่อนายตำรวจที่มาวิ่งเต้นกับเขาด้วยการนำเบี้ยมาแลกด้วยการยัดใส้เข้าไป ถ้ามีใครถามเขาจะบอกทันทีว่านายสั่งแล้วใครจะกล้าไปถาม ผู้บริหารควรแก้ไข ไม่ยากเลยท่านควรย้ายนายตำรวจที่สร้างปัญหาเกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายไปลงสถานีตำรวจเป็นพนักงานสอบสวนดูบ้าง ตำรวจที่ถูกพวกเขารังแกจะชื่นชมผู้บริหารกันอย่างล้นหลามแต่ท่านจะกล้าหรือเปล่า เพราะ “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” รับรองได้ผู้บริหารไม่กล้าเสี่ยงจะย้ายเพียงชั่วคราวเพื่อเป็นการลดความกดดันเท่านั้นและยังกู้ชื่อเสียงกลับมาอีกด้วย
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน ผ่านมา บริเวณด้านข้างของตึก 1 ใน สตช.ที่ใกล้เคียงกับตึกสารนิเทศ มีลูกของคนงานเป็นเพศหญิงอายุประมาณ 8 ขวบขึ้นไป ปีนเล่นบริเวณชั้นที่ 5 ซึ่งเป็นบานเกล็ดแล้วพลัดตกลงมาเสียชีวิตปิดข่าวกันเงียบ ตำรวจที่อยู่มานานพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลางร้ายจะเกิดอาเพศขึ้น ภายในสตช. ถ้าจะเกิดปัญหาร้ายแรงจะมีลางบอกเหตุอยู่เสมอ ครั้งนี้ถึงกับเสียชีวิตคอยดูว่าจะเกิดปัญหาอะไรใน สตช.ชั้นที่ 5 เสียด้วย ....ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา....สวัสดีครับ...
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี