วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ประเทศไทยตั้งเป็นประเทศได้และเป็นเอกราชไม่เคยต้องตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งหัวแดงเหมือนประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียก็เพราะ 3 สถาบันหลัก ได้แก่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ การที่สถาบันทั้ง 3 เข้มแข็งทำให้ประเทศไทยคงอยู่ไม่ต้องตกเป็นข้าทาสบริษัทบริวารของฝรั่งผิวขาวนักล่าเมืองขึ้นเหมือนประเทศเพื่อนบ้านของเราในกลุ่มอาเซียนที่ต่างได้รับบทเรียนอันขมขื่นและถูกฝรั่งหัวแดงย่ำยีบีฑามาอย่างเจ็บช้ำสุดจะคณา
ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกาบังกลาเทศ อัฟกานิสถาน ภูฏาน เนปาล สิกขิม มัลดีฟส์เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ลาว มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และติมอร์ฯ ล้วนตกเป็นอาณานิคมฝรั่งทั้งหมดในภูมิภาคนี้มีไทยประเทศเดียวที่สามารถรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้เพราะ 3 สถาบันข้างต้นโดยเฉพาะพระมหากษัตริย์และกองทัพไทยที่มีส่วนมากในการปกป้องอธิปไตยของชาติ
หลังมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงนั้นแม้รัฐไทยพ้นภาวะการต้องตกเป็นเมืองขึ้นแต่ก็ต้องเผชิญกับการรุกรานจากลัทธิคอมมิวนิสต์ กองทัพไทยต้องประคับประคองสถานการณ์ก่อการร้ายและการกบฏในประเทศจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย การที่ไทยไม่ต้องตกไปเป็นรัฐโดมิโนของคอมมิวนิสต์ก็เพราะวิเทโศบายของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และคณะนายทหารในกองทัพที่ทำให้สถานการณ์สงครามกลางเมืองยุติลงไปได้
สถาบันทหารนี้เองในรอบ 13 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างคุณูปการในการช่วยประชาชนคนไทยออกมาก่อรัฐประหารล้มระบอบการเมืองจอมโกง 2 ครั้งในวันที่ 19กันยายน 2549 และวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นี่คือความจริงที่ทำให้นักการเมืองจอมโกงพยายามสร้างสถานการณ์ทำลายสถาบันทหารและมีการโจมตีสถาบันทหารอย่างต่อเนื่องตามแผนของนักการเมืองที่หลบหนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศ
ตัวอย่างเช่นกองทัพบกมอบที่ดินบริเวณดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็นสถานที่ก่อสร้างบ้านพักข้าราชการศาลยุติธรรมภาค 5 เพราะเป็นที่ดินของกองทัพบกอยู่ๆ ก็มีกลุ่มอนุรักษ์ดอยสุเทพออกมาโจมตีข้าราชการตุลาการว่าบุกรุกป่า ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวผู้อนุมัติคือรัฐบาลในระบอบทักษิณเองไม่ใช่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์
กองทัพบกสร้างราชอุทยานราชภักดิ์เพื่อเป็นที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ 7 วีรกษัตริย์ที่อำเภอปราณบุรีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็ถูกนักการเมืองโจมตีว่าทุจริตทั้งๆ ที่เงินที่ก่อสร้างได้จากการบริจาคของประชาชน การซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพทั้ง 3 เหล่า บก เรืออากาศ ที่ร้อยละ 60 ล้วนเป็นยุทโธปกรณ์เก่าแก่ใช้ประจำการในกองทัพมานานกว่า 30 ปี ก็ถูกโจมตีว่าซื้อมาจะใช้ไปรบกับใครในขณะที่งบประมาณกระทรวงกลาโหมได้ 233,000 ล้านบาท ถือว่าไม่มาก
เมื่อเทียบกับงบประมาณรวม 3.22 ล้านล้านบาทก็แค่ร้อยละ 7.23 ฝ่ายนิยมระบอบนักการเมืองขี้โกงที่ต่อต้านรัฐบาลต้องไม่ลืมว่าเพื่อนบ้านบางประเทศมีกำลังทหารถึง 500,000 คน ถ้าหากมีเรื่องขัดแย้งที่ชายแดนกองทัพไทยไม่เข้มแข็งพอเราจะเสียเปรียบด้านยุทธการทันทีหรือแม้แต่กองทัพเรือสร้างที่พักผ่อนให้ทหารในที่ดินของกองทัพที่สัตหีบก็ถูกโจมตีนี่เป็นแผนทำลายสถาบันทหารให้คนเข้าใจผิดเกลียดชังและทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลปัจจุบันโดยแท้นั่นเอง

เตือนวัยทำงาน! ปรับนิสัยหลังตื่นนอน 3 ขั้นตอนง่ายๆ ลดภาระหัวใจ ลดเสี่ยงเส้นเลือดตีบ ไม่ต้องพึ่งยา
โฆษกรัฐบาล ฟาด 'วันนอร์' ย้อนแย้ง ชี้ช่องฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ปิดทางยุบสภาฯ
ลูกสาว'เจ๊ไฝ'เคลียร์ชัด! กฎเหล็กของร้านคือ 'ป้องกันคนรับจองคิว' ลั่น! ต้องเข้าใจตรงกัน
'ชนนพัฒฐ์'พร้อมสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ประกาศวางมือทางการเมือง ถ้าผิดจริง
ตะลึง! สิงคโปร์ยึด'นอแรด'คาสนามบินชางงี ลอบขนจากแอฟริกาจ่อส่งลาว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี