แท้จริง บนเส้นทางอาชีพเป็น “นายพรานไพร” เพื่อไล่ล่าขุมทรัพย์ในป่าทึบแห่งการเมืองของ “ท่านขุนช้างล้านนา” นั้น น่าจะปิดตำนานมานานแล้ว ตั้งแต่ที่ท่านถูกคำสั่ง “เว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี”
หลังจากถูกห้ามมีอาชีพเป็นนายพรานไพรเข้าลุยป่าทึบแห่งการเมือง “ท่านขุนช้าง” ก็เริ่มป่วยด้วยสารพัดโรคตามปกติวิสัยของ “ชายไทยวัยชราภาพ” เท่ากับท่านคงไม่กลับมาเป็น “นักรบคู่ใจของท่านตะขิ่นบ้านไกล” อีกแล้ว
แม้จะ “โยนดาบทิ้ง” และเลิกเป็นแรมโบ้ทางการเมือง ท่านขุนช้างก็ยังมี “วิบากกรรม” แต่หนหลัง ในยุคท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงต่างประเทศยุค “นางพญาผมเป๊ะ” ท่านได้ “ทุบโต๊ะ” และ “หักด่านมะขามเตี้ย” มาตรา 157 ด้วยการ “ออกหนังสือเดินทาง” ของ “ท่านตะขิ่น” ที่ถูกยกเลิกไปในยุค “รัฐบาลเดอะมาร์ค” แบบ “หมูไม่กลัวน้ำร้อน”
แล้วในที่สุด ป.ป.ช.ก็มีมติดำเนินคดี และ “ขุนช้างถูกคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ไม่มีการรอลงอาญา”
แต่ “ทนายเสือปืนไว” ของท่านขุนช้างรีบอุทธรณ์ในทันทีทันใด แล้วล่าสุด “ศาลฎีกาในแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”ก็ได้มีคำพิพากษาสุดท้าย “ให้ขุนช้างถูกจำคุก 2 ปีปรับหนึ่งแสนบาท แต่โทษจำให้รอการลงโทษ 2 ปี”
เหตุที่ศาลปรานี เพราะบัดนี้ “ขุนช้างเป็นผู้เฒ่าที่ถูกสารพัดโรครุมเร้า” เป็นทั้งความดันเบาหวาน มะเร็งในต่อมน้ำเหลืองที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย เป็นต้น
จากคำพิพากษาและจากสารพัดโรครุมถล่มดังกล่าวเท่ากับ “การเป็นนักรบทางการเมือง” ของขุนช้างถูก “รูดม่านปิดฉาก” อย่างถาวร
“จากเซลส์แมนสมองใส “ขายลิฟต์ยี่ห้อไอบีเอ็ม” พลิกผันมาเป็นสส.พรรคประชาธิปัตย์ แล้วย้ายข้างไปสังกัดพรรคไทยรักไทย ได้เป็นเสนาบดียุคนางพญาผมเป๊ะ และกล้าทุบโต๊ะออก
พาสปอร์ตให้ตะขิ่นบ้านไกลที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศแล้วขุนช้างกลายเป็นเทวดาตกสวรรค์มาจนถึงวันนี้”
บัดนี้ “ตำนานนักรบแถวแรก” ของพรรคเพื่อไทยได้ “ปิดตำนาน” ไปอีกราย
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี