พื้นที่ตามป่าเขา ใน จ.กระบี่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.ชุมพร เมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว กรมป่าไม้ หรือหน่วยงานรัฐอื่น ได้ให้เอกชนในนามบริษัทต่างๆ เช่าสัมปทานพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน รายละ 100 ไร่ 1,000 ไร่ หรือมากกว่านั้นก็คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 50 บริษัท
บริษัทที่เข้าไปเช่าที่ดินมีทั้งนักลงทุนจากไทย และมาเลเซีย ป่าหลายผืนเป็นป่าเสื่อมโทรมแต่บางแปลงก็ทับป่าสมบูรณ์ เพราะระบบแผนที่ยังไม่ได้มาตรฐาน
3 สารพิษที่กำลังจะแบนในขณะนี้ รวมทั้งปุ๋ยเคมีถูกนำมาใช้อย่างไม่อั้น เพื่อปรับสภาพป่าให้เป็นแปลงปาล์มน้ำมัน ช่วงนั้นผมเป็นนักศึกษาออกกิจกรรมค่ายอาสา ลงพื้นที่หลายแปลง ได้พบเห็นมากับตา แรงงานที่นำไปใช้เป็นแรงงานในท้องถิ่นบวกกับแรงงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนแรงงานต่างด้าวก็ยังพอจะเห็น
ได้บ้าง
ปัญหาที่ผ่านมาเมื่อสวนปาล์มหมดอายุสัมปทาน ชาวบ้านในพื้นที่หรือต่างพื้นที่ใจร้อน ก็เข้าไปจับจองผืนดินเพื่อบีบให้ทางการแบ่งจัดสรรให้ ทั้งปักหลักตั้งกองบัญชาการริมถนนเอเชีย ส่วนทางบริษัทเจ้าของสวนปาล์ม ก็ยังไม่ยอมคืนพื้นที่เพราะยังสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อยู่ จนนำไปสู่ความขัดแย้ง ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองต้องเข้าไปดูแล
ผลจากความขัดแย้งดังกล่าว ยังไม่รู้ใครผิดใครถูก แต่มีผู้คนเสียชีวิตไปหลายราย แกนนำชาวสวนปาล์มถูกดำเนินคดีไปหลายคน สถานการณ์ความขัดแย้งปัจจุบันยังคุกรุ่น อยู่บางพื้นที่ ในขณะที่ทางภาครัฐเองก็พยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการนำร่องการบริหารจัดการที่ดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ณ บ้านบางเจริญ หมู่ที่ 5 ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่
เรื่องนี้ ร้อยเอกธรรมนัส อธิบายว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ชื่อป่าเขาแก้ว และป่าควนยิงวัว ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 543 พ.ศ.2516 และพื้นที่บริเวณดังกล่าวกรมป่าไม้ได้ให้บริษัทผู้เช่า ใช้ประโยชน์ในการปลูกปาล์มน้ำมันและได้หมดอายุการอนุญาตเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ.2543 ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่ ตำบลเขาเขน ตำบลเขาต่อ อำเภอปลายพระยา และ ตำบลนาเหนือ ตำบลเขาใหญ่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน
ทั้งนี้เมื่อปี พ.ศ.2557 ชาวชุมชนตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ มีความต้องการแหล่งน้ำชุมชนเพื่อการเกษตรและมีการทำประชาพิจารณ์ของชุมชนผ่านทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาเหนือให้มีการของบประมาณจากกรมพัฒนาที่ดิน ผ่านสถานีพัฒนาที่ดินกระบี่และได้ขออนุญาตใช้พื้นที่กับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ เพื่อก่อสร้างแหล่งน้ำขนาด 77,000 ลูกบาศก์เมตร ดำเนินการในปี 2558 และในปี 2560 ได้วางระบบท่อส่งน้ำความยาว 3,000 เมตร และจัดทำโครงการนำร่องการบริหารจัดการดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยการปรับสภาพพื้นที่และแบ่งเป็นแปลงย่อยขนาด 2 ไร่ จำนวน 60 แปลง รวมพื้นที่ที่ขออนุญาตใช้จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ จำนวน 215-0-71 ไร่
ปัจจุบันเกษตรกรและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทำให้มีขวัญและกำลังใจที่จะพัฒนา สั่งสมความรู้ ความสามารถในการประกอบอาชีพของตนจนเกิดความชำนาญ เกษตรกรมีความสุขที่จะผลิตอาหารที่มีความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค เสริมสร้างประเพณีวัฒนธรรมการอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยกันของคนในชุมชน ซึ่งเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของสังคมไทยให้กลับคืนมา เป็นแปลงต้นแบบการบริหารจัดการดินและน้ำตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่อื่นๆ นำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ต่อไป
อย่างไรก็ตามการดำเนินงานในระยะต่อไป จะขยายผลพื้นที่ต้นแบบดังกล่าว เพิ่มจำนวนเกษตรกรที่ร่วมโครงการ และส่งเสริมให้พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นจุดเรียนรู้ให้กับกลุ่มเกษตรกรและผู้สนใจมาศึกษาดูงาน โดยส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรวางระบบการปลูกพืช มีการกำหนดชนิดพืช ช่วงเวลาการเพาะปลูก และเก็บเกี่ยวผลผลิต อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามความต้องการของตลาด ส่งเสริม/สนับสนุนและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่กลุ่มสมาชิกเกษตรกรผู้ร่วมโครงการด้านการผลิตพืชอาหารปลอดภัย เพื่อก้าวไปสู่การผลิตพืชอินทรีย์อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้งมีการจัดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเกษตรกรในพื้นที่ต้นแบบฯ และพื้นที่อื่นๆ จัดทำเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน “ต้นแบบการจัดการดินและน้ำตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อขยายผลไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่อื่นๆ ต่อไปด้วย
ครับ ก็ยังมีอีกหลายแปลงที่รอภาครัฐเข้าไปแก้ไขปัญหา ผมเชื่อว่า ร้อยเอกธรรมนัส ทำได้ที่จะช่วยทำให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิต มีรายได้มากกว่าเดิม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี