ปัญหาใหญ่ทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2504 จนถึงปีนี้ 2562 เวลาผ่านมา 58 ปี ประเทศไทยยังคงอยู่กับปัญหาเดิมๆ นั่นคือการกระจายรายได้ของประชากร 68 ล้านคน ที่ขาดความสมดุลทั้งๆ ที่ประเทศมีรายได้ต่อหัวเฉลี่ยในปีนี้ 2562 คน ละประมาณ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือคนละ 600,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 50,000 บาท และมีรายได้ประชาชาติประมาณ 1.40 ทริลเลี่ยนดอลลาร์สหรัฐ
การกระจายรายได้หมายถึงการแบ่งสันปันส่วนผลผลิตมวลรวมของประเทศในหมู่ประชากรโดยใช้เป็นปัจจัยชี้วัดความเท่าเทียมทางสังคมความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจและการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างสมดุล การกระจายรายได้เป็นดัชนีตัวหนึ่งที่ใช้ในการวัดค่าความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจซึ่งไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับความยากจนความไม่เท่าเทียมในเชิงเศรษฐกิจที่วัดโดยใช้การกระจายรายได้นั้นจะดูจากการปันส่วนผลผลิตมวลรวมของประเทศโดยแบ่งประชากรออกเป็นส่วนๆ
แล้วคำนวณว่าประชากรส่วนที่ได้รับรายได้สูงสุดนั้นได้รับรายได้มากกว่าประชากรส่วนที่ได้รับรายได้น้อยที่สุดเท่าไรแล้วคิดออกมาเป็นสัดส่วนที่บ่งชี้ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจดังนั้น แม้จะมีความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจก็มิได้หมายความว่าจะมีความยากจน เพราะประชาชนส่วนที่มีรายได้น้อยที่สุดอาจจะมีรายได้เหนือเส้นความยากจนก็ได้รัฐบาลของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ชุดแรกในปี 2557 ถึง 2562 เป็นรัฐบาลแรกที่ศึกษาปัญหานี้อย่างจริงจังมากกว่าทุกรัฐบาล
ผลการศึกษาทราบว่ามีประชากรไทยประมาณ 15 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ยากจนนั่นคือมีรายได้ต่อปีต่ำกว่า100,000 บาท ลงไปและพบอีกว่ามีคนไทยที่ร่ำรวยประมาณ 4 ล้านคน ที่มีฐานะการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาซึ่งนับว่าต่ำมากทำให้พบอีกว่ามีประชากรไทยที่ไม่ได้เสียภาษีเงินได้อีกเป็นจำนวนมากจำเป็นที่รัฐต้องขยายฐานภาษีเงินได้ให้มากขึ้นทั้งๆที่ไทยมีมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึง
40 คนทีเดียว
การกระจายรายได้ของประเทศไทยต้องใช้วิธีหาทางให้ประชาชนมีหน้าที่จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นเพราะตามสภาพที่เป็นจริงในปี 2562 จะพบว่ามีคนไทยที่มีรายได้ปานกลางอีกประมาณ 4-5 ล้านคน ที่ไม่ได้แจ้งรายได้ที่แท้จริง เช่น กลุ่มคนที่ค้าขายอิสระจำนวนมากกว่า 2 ล้านคน และเกษตรกรที่มีฐานะดีเป็นเจ้าของที่ดินใช้ทำเกษตรกรรมเองเช่น มีที่นามากกว่า 100 ไร่, แปลงพืชไร่ขนาดใหญ่และสวนผลไม้ที่ทำรายรับต่อปี ได้มากกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไป เป็นต้น
รัฐบาลต้องมีการประเมินการชี้วัดการกระจายรายได้เพื่อวัดความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจของทั้งประเทศ ส่วนอัตราส่วนคนรวยคนจนที่แบ่งประชาชนออกเป็นกลุ่มๆ นั้นจะให้ข้อมูลของความแตกต่างระหว่างคนที่มีรายได้มากที่สุดกับคนที่มีรายได้น้อยที่สุดว่าความไม่เท่าเทียมมีความรุนแรงเพียงใดปัจจุบันดัชนีชี้วัดของไทยที่จัดทำโดยองค์การสหประชาชาติในปี 2557 นั้นจะอยู่ที่ 0.536 ซึ่งมีรูปแบบเหมือนรัสเซียและอินเดีย
การกระจายรายได้นั้นรัฐบาลจะต้องมีมาตรการที่ทำให้คนจน 15 ล้านคน สามารถลืมตาปากได้ในขณะเดียวกันก็ต้องเก็บภาษีคนรวยกับคนที่มีรายได้ปานกลางเพิ่มมากขึ้นถ้าทำได้เชื่อว่าในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ไทยจะมีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจมากกว่าในปัจจุบันอย่างแน่นอน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี