ปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในปัจจุบันที่ยังแก้ไขไม่สำเร็จก็คือ นักการเมืองทั้งนักการเมืองระดับชาติและนักการเมืองในระดับท้องถิ่นมีพฤติกรรมและพฤติการณ์ที่แสวงหาผลประโยชน์ในการเสนอตัวเข้ามาเป็นนักการเมืองโดยชอบอ้างคำว่าประชาธิปไตยมาบังหน้าอ้างสิทธิเสรีภาพของประชาชนและยังไปอ้างเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2475 มาจนถึงปี 2516, 2519 และ 2535 มาประกอบการปลุกระดม
เป็นที่ทราบกันดีว่าสังคมของไทยเกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนส่วนต่างๆ มาไม่น้อยกว่า 80 ปี นับตั้งแต่ปี 2475 เรื่อยๆ มาขณะนี้มีการลุกลามไปทุกๆ ภาค มีการปลุกระดมให้คนไทยเกิดความแตกแยกเป็นส่วนๆเพราะมีการแตกต่างกันมากทั้งด้านฐานะของสังคม,ความรู้,การศึกษา,พื้นฐานอาชีพ,พื้นฐานของศาสนา รวมไปถึงฐานะทางด้านเศรษฐกิจทั้งคนที่มีฐานะร่ำรวยและฐานะที่ยากจน คนในสังคมเกิดความชิงชังซึ่งกันและกันรวมถึงการชังชาติตนเอง
นอกจากนี้ยังมีนักวิชาการในสถาบันระดับอุดมศึกษาต่างๆ เป็นจำนวนมากได้ยอมตัวไปรับใช้นักการเมืองที่มีฐานะร่ำรวยเพื่อแสวงหาโอกาสก้าวขึ้นไปเป็นนักการเมืองระดับชาติ มีการสร้างเงื่อนไขโจมตีสถาบันต่างๆ เกิดความแตกแยกในหมู่ประชาชนอาชีพต่างๆ มีการสร้างความเกลียดชังในสังคม มีการจัดตั้งโรงเรียนการเมืองปลุกระดมให้ประชาชนเกลียดชังข้าราชการทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน
และที่ร้ายแรงมากไปกว่านั้นยังมีชาวต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วมในการจุดไฟแค้นขึ้นมาในหัวใจของประชาชนคนไทยในพื้นที่ภาคต่างๆ ทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง กลุ่มคนพวกนี้จะเป็นคนต่างชาติที่มาจากทางตะวันตก ทั้งจากอเมริกาเหนือและยุโรป บ้างก็มาสมรสเป็นสามีหรือภรรยากับคนไทยในชนบทและได้เพาะเชื้อความเกลียดชังในหัวใจของประชาชนเอาแบบอย่างมาจากอเมริกา,อังกฤษและฝรั่งเศส
การจุดชนวนให้ประชาชนเกิดความเกลียดชังชาติโดยอาศัยเครื่องมือโซเชียลมีเดีย ยุยงให้ไม่ชอบสถาบันทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์รวมไปถึงสถาบันทหารและกองทัพมีมานานเป็นสิบๆ ปีตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปีนี้ 2562 เพราะมีกลุ่มที่เรียกว่า มาสเตอร์สมายด์ที่โกรธแค้นที่ตนเองสูญเสียอำนาจทางการเมืองถึงขั้นยุยงประชาชนพวกที่เป็นฝ่ายตัวเองให้มีการขอแบ่งแยกดินแดนออกไปประเทศไทยแผ่ออกไปทุกๆภาค
เป็นที่ทราบกันดีว่าสื่อสารมวลชนของชาติในซีกโลกตะวันตกทั้งหนังสือพิมพ์,โทรทัศน์,นิตยสารและสำนักข่าวของฝรั่งผมแดงมีความสนิทสนมกับนักการเมืองไทยบางกลุ่มมีการทำงานที่สอดประสานกันเชื่อมโยงกันไปกับอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในประเทศและต่างประเทศ พวกนี้จะอ้างประชาธิปไตยสิทธิเสรีภาพบังหน้าซึ่งน่าจะเห็นตัวอย่างแล้วว่าเหตุการณ์ประท้วงรัฐบาลจีนในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง รวมไปถึงเขตปกครองตนเองซินเกียงและทิเบต
นี่คือการสงครามแย่งชิงหัวใจประชาชนของคนไทย การล้างสมองการปลุกระดมเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมืองเกิดการจับอาวุธเข่นฆ่ากันในระหว่างคนไทยอีกครั้ง ดังนั้นรัฐบาลที่บริหารประเทศในขณะนี้ต้องใช้ความระมัดระวังดับไฟเสียแต่ต้นลมอย่าให้สายเกินไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี