มีคำถามสำหรับกลุ่มคนที่สนใจเรื่องราวของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ตกลงแล้วบริษัทมหาชนแห่งนี้ ซึ่งมีสถานะที่ค่อนข้างประหลาด คืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯด้วย แต่ขณะเดียวกันก็อยู่ในสถานะที่กระทรวงการคลังเข้าไปมีส่วนรับผิดชอบด้วย แต่ที่มหัศจรรย์มากกว่า จนทำให้วิญญูชนที่มีสติปัญญาต่างงุนงงก็คือทำไมการบินไทยจึงต้องมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัทด้วย และยังมีปัญหาที่สังคมถามกันมากมายคือ นักการเมืองที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบินไทยมีสติปัญญาและมีความรู้ด้านกิจการธุรกิจการบินพาณิชย์จริงหรือ แล้วการบินไทยจะไปรอดหรือหากปล่อยให้ผู้ไม่มีความรู้ความชำนาญในกิจการธุรกิจการบินพาณิชย์เข้าไปควบคุมบังคับบัญชาและมีอำนาจสั่งการเหนือการบินไทย ดังนั้นคำถามที่สาธารณชนสนใจมากคือ บริษัทการบินไทยจะต้องปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ หรือว่าจะสามารถเปิดดำเนินกิจการได้ต่อไป
สาเหตุที่ต้องย้ำว่าคำถามเรื่องการบินไทยนั้นเป็นคำถามสำหรับคนที่สนใจเรื่องการบินไทยเท่านั้น ก็เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยบอกมานานแล้วว่า หากไม่จำเป็นจะไม่นั่งการบินไทยเป็นอันขาด เพราะมีหลายเหตุผล แต่เหตุผลสำคัญที่สุดคือตั๋วของการบินไทยราคาแพงมากเมื่อเทียบกับสายการบินในระดับเดียวกัน บางคนก็พูดด้วยความไม่สบอารมณ์ว่า บริการโดยรวมของการบินไทยห่วยแตกเมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่าย ส่วนเรื่องความใหม่ความเก่าของเครื่องบินการบินไทยเมื่อเทียบกับสายการบินของแขกตะวันออกกลางสารพัดสายก็ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา เพราะเครื่องของการบินไทยเก่าและเชยมากเพื่อเทียบกับเครื่องของสายการบินแขกตะวันออกกลาง ส่วนอีกปัญหาหนึ่งของการบินไทยคือเมื่อเวลาลูกค้าจองตั๋วกลับได้รับคำตอบว่าที่นั่งเต็ม แต่เมื่อขึ้นไปถึงบนเครื่องบินกลับพบว่ามีที่นั่งว่างมากมาย จึงทำให้เกิดคำถามว่า ตกลงมันอะไรกันแน่ ทำไมบอกว่าที่นั่งเต็ม แต่เมื่อขึ้นไปบนเครื่องจริงๆ กลับพบที่นั่งว่างอย่างมหัศจรรย์ นี่คือปัญหาที่การบินไทยต้องตอบให้ได้ว่าปัญหาเช่นนี้เกิดมาจากอะไร อะไรคือต้นเหตุ
แต่หากจะพูดตามข้อเท็จจริงก็ต้องยอมรับว่า บริการโดยรวมของลูกเรือส่วนใหญ่ของการบินไทยเป็นบริการที่ดีมาก เมื่อเทียบกับบริการที่ได้รับจากลูกเรือที่เป็นชาวยุโรป เพราะลูกเรือการบินไทยมีความอ่อนโยนสุภาพมากกว่า แต่ก็ต้องยอมรับว่าลูกเรือของญี่ปุ่นและสิงคโปร์ก็มีความสุภาพอ่อนโยนไม่ด้อยไปกว่าลูกเรือการบินไทย ส่วนสมรรถนะของกัปตันและนักบินการบินไทยก็ต้องยอมรับว่ามีฝีมือสูงมาก แต่สิ่งหนึ่งที่คนการบินไทยต่างรู้ดีคือขวัญและกำลังใจของคนการบินไทยโดยภาพรวมตกอยู่ในสภาพย่ำแย่มาก หลายคนบอกว่าไม่รู้ชะตากรรมและอนาคตในการทำงานกับการบินไทย หลายคนบ่นตรงกันว่าไม่ได้โบนัสมาหลายปีแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้อีกเมื่อไร ส่วนบางคนก็บ่นเชิงน้อยใจว่า ทำไมค่าตอบแทนระหว่างกัปตัน นักบิน และแอร์สจ๊วตที่บินไปในเที่ยวบินเดียวกันจึงต่างกันราวกับสวรรค์กับนรก และยังมีอีกสารพัดเรื่องราวที่คนในการบินไทยต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง รวมถึงคำถามจากคนในการบินไทยที่ตั้งข้อสังเกตว่าจริงๆ แล้วสุเมธมีประสิทธิภาพในการบริหารบริษัทการบินไทยจริงแท้แน่หรือ
ขอกลับไปที่ประเด็นมูลเหตุของความสับสนที่บังเกิดกับสาธารณชนอันเนื่องมาจากคำพูดของ DD ของการบินไทย คือ คุณสุเมธดำรงชัยธรรม ที่บอกกับประชาคมการบินไทย โดยสุเมธอ้างว่าจำเป็นต้องพูดแรงๆ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของคนการบินไทย แต่เมื่อเทียบเคียงคำพูดจากปากของคุณสุเมธในครั้งที่ผ่านๆ มา กลับกลายเป็นหนังคนละเรื่อง เพราะคุณสุเมธพูดกับคนภายนอก ไม่ว่าจะพูดผ่านสื่อมวลชน (แบบการให้สัมภาษณ์ที่หลายคนวิพากษ์ว่าสุเมธรายวัน) หรือไม่ว่าคุณสุเมธจะพูดกับบุคคลภายนอกบริษัทการบินไทย ซึ่งสาธารณชนได้พบว่าคุณสุเมธเคยอ้างเสมอๆ ว่า การบินไทยกำลังฟื้นตัว รายได้ของการบินไทยดีขึ้นแล้ว การบินไทยจะไม่ขาดทุน การบินไทยจะกลับมามีกำไร แต่แล้วจู่ๆ กลับกลายเป็นว่าคุณสุเมธดันไปพูดกับคนในประชาคมการบินไทยทำนองว่า การบินไทยกำลังแย่กำลังวิกฤติ และหากวิกฤติจนแก้ไขไม่ได้ ก็หมายความว่าปิดฉากการบินไทย หรือพูดภาษาชาวบ้านคือ การบินไทยเจ๊ง และต้องปิดตัวลง
แต่เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นข่าวครึกโครม กลับกลายเป็นว่าคุณสุเมธอ้างว่าไม่ได้หมายความว่าการบินไทยจะปิดตัวลง และไม่ได้หมายความว่าการบินไทยมีวิกฤติ
คำพูดของ DD การบินไทยในกรณีนี้คือตัวปัญหา ต้องย้ำและขีดเส้นใต้หลายๆ เส้นว่า การบินไทยมีปัญหาจริงๆ และเป็นปัญหาที่มาจากปากของผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยเสียด้วย
คนที่เคยใช้บริการของการบินไทยเป็นประจำ และรู้จักเรื่องราวของการบินไทยมากพอสมควรต่างยอมรับตรงกันว่าการบินไทยมีปัญหาจริงๆ ปัญหาประการแรกคือ ค่าบัตรโดยสารมีราคาแพงมาก มากจนน่าตกใจ เมื่อเทียบกับสายการบินในระดับเดียวกัน
ปัญหาอีกหลายประการของการบินไทยที่ออกมาจากปากของคุณสุเมธคือ การบินไทยมีปัญหาเครื่องบินเก่า เครื่องบินหลายลำถูกจอดทิ้งไว้โดยไม่สามารถนำขึ้นบินได้ การบินไทยถูกสายการบินอื่นแย่งลูกค้าไป (แต่นี่คือปัญหาที่ผู้บริหารการบินไทยต้องแก้ไขให้ได้ ไม่ใช่ดีแต่บ่นให้เป็นข่าวไปวันๆ) ถูกปัญหาค่าเงินบาทแข็งกระหน่ำ เผชิญกับปัญหาบางประเทศปิดน่านฟ้าจนการบินไทยไม่สามารถบินผ่านได้ หรือมีปัญหามาจากBrexit
ยิ่งฟังคำพูดจากปากของคุณสุเมธในเรื่องที่อ้างก็ยิ่งทำให้สาธารณชนตั้งคำถามว่า การบินไทยเผชิญกับปัญหาดังกล่าวเพียงรายเดียวหรือ เพราะข้อเท็จจริงคือสายการบินอื่นๆ ก็ต้องเผชิญปัญหาคล้ายๆ กัน แล้วทำไมสายการบินอื่นจึงสามารถเอาตัวรอดทางธุรกิจได้ แล้วทำไมการบินไทยไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ การพูดเช่นนี้ของคุณสุเมธจึงเท่ากับยอมรับว่าสมรรถนะในการบริหารงานของตนเองมีปัญหา หรือคุณสุเมธจะยังคงบอกว่าตนเองบริหารงานได้ดีเลิศ แต่ปัญหาของการบินไทยเกิดมาจากประสิทธิภาพของบุคลากรภายในการบินไทย
อันที่จริงก็ต้องยอมรับว่าการบินไทยได้รับผลกระทบจากประเด็นทางการเมืองอย่างมากมายและหนักหน่วงในอดีตเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เห็นว่าคุณสุเมธจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมากล่าวอ้าง หรืออาจเป็นเพราะว่าถ้าหากคุณสุเมธอ้างประเด็นการเมืองจะกลายเป็นขว้างงูไม่พ้นคอ เพราะตนเองก็อาจจะมาด้วยกลไลหรือกลอุบายทางการเมืองเช่นกัน (ประเด็นนี้ขอละไว้ก่อน แต่อาจจะนำมาถกแถลงกันอีกครั้งในอนาคตอันใกล้)
ผู้เขียนในฐานะผู้สังเกตการณ์เรื่องราวของการบินไทยจากภายนอก แต่ก็มีฐานะเป็นผู้ใช้บริการของการบินไทยเป็นระยะๆ ผู้เขียนเคยตั้งข้อสังเกตว่าทุกวันนี้เมื่อคุณสุเมธบริหารงานภายในการบินไทย คุณสุเมธมีเพื่อนคู่คิด มีมิตรคู่ใจในการทำงานมากน้อยกี่ราย มีมิตรมากกว่าศัตรู หรือมีศัตรูมากกว่ามิตร เหตุที่ตั้งคำถามเช่นนี้ก็เพราะจะทำให้สามารถหาคำตอบเบื้องต้นได้ว่า อะไรคือมูลเหตุที่ทำให้คุณสุเมธพูดว่าการบินไทยมีวิกฤติกับคนภายในองค์กร แล้วทำไมจึงบอกว่าการบินไทยไม่มีวิกฤติกับคนภายนอกองค์กร
เท่าที่ผู้เขียนมีข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการประชุมผู้บริหารระดับสูงสุดของการบินไทย หรือที่เรียกว่าการประชุม EMM ซึ่งเป็นการประชุมของระดับรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (EVP) ทุกวันอังคาร พบว่ามีผู้บริหารที่เข้าร่วมประชุมเพียง 6 คนเท่านั้น เพราะผู้บริหารระดับสูงบางคนก็ควบสองตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งรักษาการ ประเด็นนี้ทำให้มีการตั้งคำถามจากคนในประชาคมการบินไทยว่า เมื่อผู้ร่วมประชุมมีจำนวนน้อย (บางคนอาจจะกล่าวหาด้วยคำที่หนักหน่วงว่าเป็นพวกเดียวกัน) ก็ทำให้มีมุมมองต่อประเด็นปัญหาไม่ครอบคลุม (แต่บางฝ่ายก็บอกว่าจำนวนไม่ใช่เรื่องสำคัญหากจำนวนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอย่างแท้จริง) แต่เมื่อมีผู้ร่วมประชุมน้อย และผู้ร่วมประชุมอาจจะมีมุมมองต่อประเด็นปัญหาไม่แหลมคมมากพอจึงส่งผลให้เกิดการตัดสินใจที่ไม่น่าจะรอบคอบ เมื่อตัดสินใจไม่รอบคอบ การกำหนดทิศทางของบริษัทก็จึงไม่มีประสิทธิภาพ
ขณะนี้สาธารณชนกำลังรอดูว่าผลการประกอบการของการบินไทยประจำไตรมาส 3 ปี 2562 จะขาดทุนอีกกี่พันล้านบาท ซึ่งหลายฝ่ายที่ติดตามสถานการณ์ของการบินไทยยืนยันตรงกันว่าขาดทุนอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องการทราบตัวเลขชัดๆว่าจะขาดทุนกี่พันล้านบาท หลายคนที่ติดตามผลงานของคุณสุเมธในการบินไทยบอกตรงกันว่า ตั้งแต่คุณสุเมธเข้ามาบริหารงานในการบินไทย ยังไม่เคยพบว่าการบินไทยมีกำไรขึ้นมาเลย แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับคุณสุเมธด้วย เพราะการบินไทยขาดทุนมานานมาก ดังนั้น การที่จะหวังให้สุเมธเข็นให้การบินไทยมีกำไรก็คงต้องรอปาฏิหาริย์เท่านั้น แต่ปาฏิหาริย์ที่คุณสุเมธเคยกล่าวไว้นั้น ก็ไม่เคยบังเกิดผลจริงแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นที่คุณสุเมธเคยกล่าวว่าตนเองมีประสบการณ์บริหารงานมาหลายแห่ง แต่ล่าสุดสาธารณชนได้เห็นแล้วว่าคุณสุเมธไม่สามารถบริหารงานจนทำให้การบินไทยพ้นปัญหาการขาดทุน
มีอีกคำถามหนึ่งที่สาธารณชนสงสัยคือ ตกลงแล้วการบินไทยจะเลิกบินในเส้นทางอินโดจีนหรือไม่ เพราะข่าวนี้เริ่มมีการพูดถึงกันอย่างหนาหูมากขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากมีข้อมูลว่าคุณสุเมธบอกว่าอาจจำเป็นต้องงดบินในเส้นทางดังกล่าว
แต่ปัญหาที่คนวงนอกไม่มีวันรับรู้ แต่เป็นปัญหาที่คนวงในของการบินไทยพูดถึงกันอย่างมากมายคือนอกจากคุณสุเมธจะถูกตั้งคำถามเรื่องสมรรถนะในการบริหารงานแล้ว ผู้บริหารระดับสูงที่คุณสุเมธให้ความไว้วางใจในขณะนี้มีสมรรถนะมากเพียงพอกับการบริหารงานในตำแหน่งที่ได้รับหรือไม่ คำถามชัดๆ คือ put the right man on the right job หรือไม่ แล้วคนที่คุณสุเมธให้ตำแหน่งนั้นทำให้คนการบินไทยที่มีฝีมือในการทำงานเกิดอาการหมดไฟ ไม่มีแรงใจทำงานกับการบินไทยต่อไปหรือไม่ จนสุดท้ายคนที่คนการบินไทยเชื่อมั่นว่ามีฝีมือดีต้องลาออก ตามแรงกดดันของคนที่คุณสุเมธตั้งขึ้นมาหรือไม่ เรื่องนี้ต้องบอกว่าคนวงในของการบินไทยพูดกันเสียงดังมากจนเสียงเล็ดลอดออกมาสู่หูของผู้เขียน เห็นทีว่าวันข้างหน้าผู้เขียนต้องเข้าไปขอสัมภาษณ์คุณสุเมธ เพื่อจะได้รู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริงจากปากคำของคุณสุเมธโดยตรง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี