มาถึงวันนี้หมากรุกบนกระดานการเมืองไทยได้ออกลูกหมากที่ชัดเจนขึ้น และทำให้มองย้อนไปถึงการขับเคลื่อนที่ผ่านมาได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นจึงสมควรที่จะได้มองกระดานการเมืองไทยทั้งกระดานสักครั้งหนึ่ง

เพราะหมากบนกระดานจะเป็นฉันใดย่อมส่งผลกระทบต่ออนาคตของประเทศไทยและคนไทยทั้งผองโดยไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าใครจะเชียร์หมากข้างไหนก็ตาม แต่ในที่สุดฐานะแค่กองเชียร์นั้นก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อิทธิเดชอะไรนักหนา จะต้องจมปลักอยู่กับชะตากรรมร่วมกันทั้งสิ้น

ในตอนต้นของการยึดอำนาจของ คสช. นั้น ประชาชนชาวไทยได้รับทราบเจตจำนงโดยทั่วกันว่า คสช. เข้ามาในฐานะคนกลาง เพื่อป้องกันสงครามกลางเมืองที่หวุดหวิดจะเกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางการเมืองของคนสองฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศยอมรับได้และเห็นถึงความจำเป็นเช่นนั้น

แต่สิ่งที่คนทั้งหลายมองข้ามไปหรือไม่ทันคาดคิดก็คือ วิกฤติอันหวุดหวิดจะเกิดเป็นสงครามกลางเมืองนั้นไม่ใช่ความผิดของคนทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นการต่อสู้กันของฝ่ายหนึ่งซึ่งถือครองอำนาจรัฐยาวนาน และมีพฤติการณ์ที่ส่อไปในทางที่ทุจริต และอาจกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันสำคัญต่างๆ ของประเทศ

มีการทุจริตโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างกว้างขวางมีการเลือกปฏิบัติอย่างเด่นชัดในทุกกรณี มีการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมในแทบทุกวงการ มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและองค์กรอิสระมากหลาย ทำให้เกิดความเสียหายแผ่เป็นวงกว้าง

บรรดาผู้รักชาติจึงคัดค้านเคลื่อนไหวต่อสู้จนก่อเกิดเป็นขบวนการต่อสู้ต่อต้านการยึดครองประเทศไทยที่ใหญ่หลวงที่สุดในประวัติศาสตร์ มีประชาชนเข้าร่วมการต่อต้านรัฐบาลกว่าสิบล้านคน และเพื่อพิทักษ์ไว้ซึ่งอำนาจได้มีการใช้ความรุนแรงเข่นฆ่าประชาชนในหลายรูปแบบจนกำลังจะเกิดเป็นสงครามกลางเมือง

ประชาชนชาวไทยได้รวมตัวกันต่อสู้ยาวนานที่สุดตลอดทั้งฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว จนจะเข้าฤดูร้อนอีกปีหนึ่ง ความรุนแรงก็ยกระดับสูงขึ้นจนหวิดจะเป็นสงครามกลางเมือง

การต่อสู้และความขัดแย้งดังกล่าวนั้นจึงไม่ใช่เรื่องเด็กนักเรียนเกเรสองพวกยกทีมตีกัน แล้วถือว่าเป็นความผิดด้วยกัน แต่เป็นการต่อสู้กันระหว่างฝ่ายหนึ่งซึ่งก่อกรรมทำเข็ญและเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง กับอีกฝ่ายหนึ่งที่ยอมเสียสละเพื่อประเทศชาติ

แต่กลับถูกตีค่าว่าเป็นแค่คนสองพวกทะเลาะกัน คนกลางจึงต้องเข้ามาจัดการ ประหนึ่งว่าเป็นตาอยู่ที่มาทำหน้าที่แบ่งปลาแก้ปัญหาการโต้เถียงกันระหว่างตาอินกับตานาในนิทานอีสป

แต่ตาอินกับตานานั้นถึงแม้จะถูกตาอยู่เอาพุงปลาไปแล้วก็ยังดีที่ยังได้หัวปลาและหางปลาไปกินกันบ้าง ต่างกันอย่างลิบลับกับการถือว่าสถานการณ์ก่อนการยึดอำนาจเป็นการทำความผิดของคนทั้งสองฝ่าย ดังนั้นจึงมีการดำเนินคดีโดยไม่จำแนกผิดถูกกับผู้คนทั้งสองฝ่าย และถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงทั้งสองฝ่าย จึงไม่มีการริเริ่มทางความคิดใดๆ ที่จะนิรโทษแก่กันในเรื่องนี้

ดังนั้นทั้งพวกตาอินและพวกตานาจึงต้องชดใช้ความเสียหายทั้งทางแพ่งและต้องติดคุกติดตะรางในทางอาญา อย่างน้อยที่สุดก็ติดชนักต้องไปแก้ต่างในทางคดีต่อเนื่องมาหลายปีเต็มทีแล้ว เป็นอันจบสิ้นความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานใดๆ อีกต่อไป นี่คือผลของการต่อสู้ด้วยความเสียสละเพื่อรักษาประโยชน์ของบ้านเมือง ซึ่งจะเป็นแบบอย่างความเสียหายในภายภาคหน้า

ครั้นมาถึงช่วงเลือกตั้งความจริงจึงประจักษ์แก่คนทั้งหลายว่าทั้งรัฐธรรมนูญก็ดี และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็ดี ตลอดจนกลไกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายก็ดี ได้ถูกจัดวางไว้อย่างแยบยลเพื่อให้เป็นไปตามสิ่งที่เรียกว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีการสืบทอดต่อยอดอำนาจเดิมไปตามท่วงทำนองแห่งยุทธศาสตร์ชาตินั้น

มาถึงวันนี้ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าประเทศไทยจะต้องถูกขับเคลื่อนให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ20 ปี ซึ่งถึงวันนี้จะมีใครสักกี่คนที่เคยได้อ่านหรือทราบว่ายุทธศาสตร์ชาติเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องก้าวไปในทิศทางนี้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้

ดังนั้นเมื่อจะต้องเดินหน้าไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ต้องจัดวางหมากบนกระดานการเมืองให้สอดคล้องกันด้วย จึงเป็นที่แน่นอนว่าพรรคฝ่ายค้านคือตัวอุปสรรคใหญ่ที่จะทำให้การเดินหน้าไปสู่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ราบรื่น ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่มีคนออกมาแย้มให้เห็นว่าอาจจะมีการดำเนินการขอยุบพรรคฝ่ายค้านหลายพรรค

และแน่นอนว่าพรรคอนาคตใหม่คือพรรคที่ถูกมองว่าเป็นอันตรายร้ายแรงที่สุด เพราะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ร่วม 8 ล้านคน ที่อาจจะเพิ่มจำนวนเป็น 10 ล้านคนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ดังนั้นพรรคนี้จึงต้องตกเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกทำลายล้างก่อน ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าหากจะมีสารพัดองค์กรสารพัดตัวคนที่เข้าร่วมด้วยช่วยกันทำลายล้างพรรคนี้ให้มลายหายสูญไป

และจากนั้นพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ก็ต้องอ่อนแอลงโดยลำดับ ไม่ว่ามาตรการใดๆ และในที่สุดก็อาจถูกยุบพรรคไปทั้งหมด

แต่ทว่าการเมืองนั้นไม่ใช่มีอยู่แค่พรรคการเมือง แต่ยังมีประชาชนที่ยังมีความรู้สึกทุกข์สุข มีความรักชาติ มีความหวงแหนบ้านเมืองอยู่อีกเป็นจำนวนมาก และคนส่วนใหญ่ก็มีน้ำใจเป็นธรรม ต้องการธรรมให้บังเกิดขึ้นในบ้านเมือง เพราะหวังและเชื่อว่าธรรมนั้นจะเป็นบ่อเกิดประโยชน์สุขของมหาชนชาวไทย

ดังนั้นต่อให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้งหมดถูกยุบไป แต่ตราบใดที่ยังมีประชาชนชาวไทยอยู่ ตราบนั้นความเรียกร้องต้องการให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขและปกครองโดยธรรมก็ย่อมจะไม่มีวันสิ้นสูญไป และเพราะเหตุนี้การต่อสู้ของประชาชนจึงยังคงดำรงอยู่จนกว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ที่เป็นธรรมาธิปไตยเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามโดยแท้