วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
สังคมไทยมีปัญหาใหญ่ประการหนึ่งคือการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกัน ปัญหานี้เกิดขึ้นในสังคมไทยมาตั้งแต่เมื่อไร มีใครตอบได้บ้าง แต่เท่าที่มีข้อมูลของเรื่องนี้ในระยะ 40-50 ปีที่ผ่านมาก็คือ คนไทยยังต้องเผชิญกับปัญหาการกระจายรายได้ที่ไม่เท่าเทียมกันอย่างต่อเนื่อง และปัญหานี้มีแนวโน้มสาหัสมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
หากจะพูดด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายคือ ทำไมคนไทยจำนวนมากจึงประสบปัญหาความยากจน แล้วเหตุใดคนไทยที่อาจจะเป็นคนไทยโอนสัญชาติจำนวนไม่กี่รายจึงมีสถานะร่ำรวยล้นฟ้า แล้วก็มีคำถามต่อไปอีกว่า ทำไมคนบางคนในสังคมไทยจึงร่ำรวยล้นฟ้าภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่สิบปี ทั้งๆ ที่ในอดีตนั้น อัครมหาเศรษฐีกลุ่มนั้นยังเป็นผู้มีฐานะไม่มั่งคั่ง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นพวกเสื้อผืนหมอนใบเข้ามาอาศัยทำกินบนแผ่นดินไทยด้วยซ้ำไป แต่แล้วทำไมเขาเหล่านั้นจึงแปรสภาพเป็นอัครมหาเศรษฐีได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
การที่หยิบยกนำประเด็นนี้มาถกแถลง มิได้มีเจตนาจะให้คนไทยแท้รังเกียจรังงอนคนไทยโอนสัญชาติที่เป็นมหาเศรษฐี แต่ต้องการให้คนไทยแท้พิจารณาตนเองให้ถ่องแท้ว่าเหตุใดตนเองจึงมีสถานะยากจน และเมื่อทราบถึงต้นตอของปัญหาความยากจนแล้ว ก็หวังว่าคนไทยจะสามารถขจัดปัญหา แล้วพัฒนาตนเองได้
มีข้อมูลจากหลายสำนักทั้งของไทยและนานาชาติที่ศึกษาวิจัยเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐสถานะของคนไทย แล้วก็มีข้อสรุปตรงกันว่า ประเทศไทยมีปัญหาการกระจายรายได้ติดอันดับโลก และมีการระบุว่าประเทศไทยมีปัญหาการกระจายรายได้อยู่ในลำดับที่สอง รองจากรัสเซีย นั่นหมายความว่าไทยมีปัญหานี้สาหัสมากกว่าจีนและอินเดีย ซึ่งต้องบอกว่าเรื่องนี้น่าวิตกมาก แต่เท่าที่สังเกตก็คือคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่สำเหนียกต่อปัญหานี้
อ้างอิงข้อมูลวิจัยของ Credit Suisse, The Global Wealth Report and Data book ที่นำเสนอเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ระบุว่าคนผู้มีสถานะร่ำรวยมหาศาลเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทย สามารถครอบครองความร่ำรวยหรือโภคทรัพย์ของประเทศไทยได้มากเกือบ 67 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนไทยจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่ระดับล่างสุดของสังคมไม่มีทรัพย์สินใดๆ ในครอบครองเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ส่วนคนยากจนจำนวน 50 เปอร์เซ็นต์ ในสังคมไทย ครอบครองโภคทรัพย์ของประเทศเพียง 1.7 เปอร์เซ็นต์ แต่คนรวยที่มีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ครอบครองโภคทรัพย์ไว้ 85.7 เปอร์เซ็นต์
นี่คือความจริงของสังคมไทย และนี่คือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้สังคมไทยไร้เสถียรภาพ แต่คำถามที่คนไทยต้องตอบให้ได้คือ อะไรคือต้นเหตุที่ทำให้สังคมไทยมีปัญหาการกระจายรายได้ หรือเกิดความเหลื่อมล้ำที่มากมายถึงเพียงนี้ อย่างไรก็ตาม บางคนอ้างว่าต้นเหตุมาจากปัญหาการเมืองบางคนอ้างว่าเกิดมาจากปัญหาโครงสร้างสังคม บางคนโทษบาปบุญบางคนโทษว่าเพราะตนเองเกิดมาในชาติตระกูลที่ต่ำต้อย
น่าอัศจรรย์ใจยิ่งที่เรามักได้ยินเสมอๆ ว่าเศรษฐกิจของไทยดีขึ้น เติบโตขึ้น แต่ทำไมจึงกลับกลายเป็นว่าคนไทยมีช่องว่างรายได้ห่างมากขึ้นกว่าเดิม หรือที่หลายคนเรียกว่ารวยกระจุก จนกระจาย คำถามคือความร่ำรวยที่เกิดกับประเทศไทยนั้นมันไหลไปเข้ากระเป๋าใครบางคนโดยไม่ได้กระจายความมั่งคั่งไปถึงคนไทยทุกคนใช่หรือไม่
คำถามนี้ไม่มีรัฐบาลไทยชุดไหนตอบได้ และปัญหานี้ก็ไม่มีรัฐบาลไหนแก้ได้ ส่วนคนไทยที่มีความคิดก็ไม่หวังรอคำตอบจากรัฐบาล แต่เขาสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง ด้วยการรู้กินรู้ใช้ รู้หาเงิน และรู้ประหยัด คนไทยที่มีสติรู้ดีว่าหากยังบ้าใช้จ่ายเงินโดยไม่จำเป็น ก็คือการทำให้ตนเองยากจนลง แล้วทำให้มหาเศรษฐีมั่งคั่งยิ่งขึ้น

ตม.สมุทรสาครบุกรวบ 'อินฟลูเมียนมา'วัย18 ผันตัวค้ายาบ้าให้แฟนคลับ
ยุติแล้ว! 'ทรัมป์'ลงนามงบชั่วคราว ปิดฉากชัตดาวน์ครั้งประวัติศาสตร์
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
ยึดทรัพย์มหึมาหมื่นล้าน เปิดปฏิบัติการทวงคืนที่ดิน 7,200 ไร่ รถ 60 คันสู่‘วัดพระบาทน้ำพุ’
ฟ้องยูเอ็น! 'กัมพูชา'ยื่นคำร้อง7ข้อ อ้างไทยยิงพลเรือนดับ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี