วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568
สำหรับแฟนพันธุ์แท้การเมืองไทย โดยเฉพาะผู้ที่ติดตามเฝ้าจับอาการทางการเมืองของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ทุกคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า รัฐบาลเสียศูนย์ แต่ไม่ใช่เพิ่งจะมาเสียศูนย์ในระยะวันสองวันมานี้ แต่เสียศูนย์มาโดยตลอด และเสียศูนย์แบบต่อเนื่อง
ยิ่งมาระยะหลังๆ นี้ คอการเมืองไทยจะพบว่ารัฐบาลประยุทธ์เกิดอาการเสียศูนย์เป็นประจำ แม้รัฐบาลจะยังคงแสดงความปากแข็งว่ารัฐบาลยังเป็นปกติดี ยังมีความแข็งแกร่ง และยังสามารถดำรงสถานะของผู้มีอำนาจรัฐได้อีกยาวนานก็ตาม แต่คำพูดที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อปลอบใจตัวเองย่อมแตกต่างไปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
ต้องยอมรับว่าหลังจากรัฐบาลประยุทธ์ขึ้นมามีอำนาจรัฐได้อีกครั้ง หลังจากการประกาศผลเลือกตั้ง สส. อย่างทุลักทุเล นับจากวันแรกที่รัฐบาลกระเสือกกระสนอุตส่าห์ตั้งรัฐบาลขึ้นมาได้จวบจนกระทั่งปัจจุบัน รัฐบาลชุดนี้ไม่เคยทำให้สาธารณชนประจักษ์ได้เลยแม้แต่น้อยว่า รัฐบาลมีความสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของบ้านเมืองได้ แม้รัฐบาลจะพยายามป่าวประกาศตลอดเวลาว่า บ้านเมืองไม่ได้ประสบปัญหาเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจของประเทศชาติก็มิได้ตกอยู่ในสภาวะวิกฤติ แต่คำพูดของรัฐบาลไม่เคยมีความศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งทำให้ประชาชนที่มีสติปัญญาต่างจับได้ทุกครั้งว่ารัฐบาลกำลังพูดปดกับประชาชน และพูดปดกับตัวเอง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้รู้แจ้งเห็นจริงว่าประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ
นอกจากรัฐบาลจะไม่สามารถแก้วิกฤติเศรษฐกิจของประเทศได้แล้ว ตัวของรัฐบาลเองก็ยังสร้างให้ประชาชนเกิดวิกฤติศรัทธาในตัวของรัฐมนตรี และตัวของสส. สังกัดพรรครัฐบาลอีกด้วย ดังเช่น ปัญหาที่เกิดกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มาจากพรรคพลังประชารัฐ เท่านั้นยังไม่พอ สาธารณชนยังเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมประหลาดๆ ของสส. สังกัดพรรครัฐบาล โดยเฉพาะจากพรรคพลังประชารัฐ ยิ่งประชาชนได้เห็นพฤติกรรมประหลาดและไม่สร้างสรรค์ของสส. พรรคพลังประชารัฐ ก็ยิ่งทำให้ประชาชนหมดศรัทธาต่อรัฐบาลไปเรื่อยๆ
พฤติกรรมประหลาดของสส. พรรคพลังประชารัฐหลายคน โดยเฉพาะเรื่องการพูดจาที่หาสาระไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้ประชาชนหมดศรัทธาต่อนักการเมืองสังกัดพรรครัฐบาลลงทุกขณะ แล้วเมื่อยิ่งมาบวกกับเรื่องปมการครอบครองที่ดินของสส. รัฐบาลรายหนึ่งที่ประชาชนเห็นมาโดยตลอดว่าดีแต่ละเลงขนมเบื้องด้วยปาก แถมการครอบครองที่ดินดังกล่าวนั้น ถูสาธารณชนตั้งคำถามว่าไม่น่าจะครอบครองโดยถูกต้องตามหลักกฎหมายของบ้านเมือง แต่เมื่อเรื่องใหญ่เช่นนี้บังเกิดขึ้น ประชาชนก็กลับพบว่าดูเสมือนรัฐบาลโดยรัฐมนตรีบางรายได้แสดงอาการปกป้องสส. หญิงของพรรคพลังประชารัฐที่มีปัญหาการถือครองที่ดินจนออกนอกหน้า ซึ่งทำให้สาธารณชนตั้งคำถามว่า ถ้าหากกรณีนี้เกิดกับประชาชนทั่วไป หรือเกิดกับคนตัวเล็กตัวน้อยแล้ว รัฐมนตรีและรัฐบาลจะแสดงอาการปกป้องมากมายถึงขนาดนี้หรือไม่
นอกจากนี้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องนโยบายชักเข้าชักออกในเรื่องสารเคมีอันตรายที่รัฐบาลเคยประกาศอย่างโครมครามว่าต้องเลิกใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 แต่ไปๆ มาๆ ก็ชักเข้าชักออกจนกลายเป็นว่าอนุญาตให้ใช้สารเคมีอันตรายต่อไปได้อีกสองตัวโดยขยายเวลาให้อีกครึ่งปี แต่สารเคมีอันตรายอีกตัวหนึ่งกลับอนุญาตให้ใช้ต่อไปได้ ซึ่งนี่คือการแสดงให้สาธารณชนเห็นถึงความไม่เป็นโล้เป็นพาย ไม่มีหลักมีเกณฑ์ที่ชัดเจน จึงทำให้ประชาชนวิพากษ์ว่าเป็นการทำงานการเมืองแบบชักเข้าชักออก
ปัญหาต่างๆ ที่ยกขึ้นมาเล่าสู่กันฟังนี่คือสนิมที่กัดกร่อนเนื้อเหล็กของรัฐนาวาประยุทธ์ ต่อให้รัฐนาวาลำนี้จะถูกประโคมข่าวว่าใหญ่โตโอฬารสักเพียงใดก็ตาม แต่หากปล่อยให้สนิมกัดกินเนื้อเหล็กของรัฐนาวาไปเรื่อยๆ แล้ว รับรองอีกไม่นานรัฐนาวาลำนี้ล่มแน่นอน

'นายกฯ'บอก'อ๋อ ครับ'หลังรู้'ศรีสุวรรณ'ยื่น'ป.ป.ช.'ร้องรัฐบาลล้มเหลวบริหารจัดการน้ำท่วมใต้
บุญรักษา! จนท.ช่วยทันเวลา 2 ลูกช้างพลัดหลง 'ตัวแรกถูกควายเผือกขวิด-อีกตัวติดบ่วง'
ไม้ อ.อ.ป.ช่วยชาวใต้! ทส.เตรียมทำเฟอร์นิเจอร์จากไม้ ส่งให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
แอน อลิชา โพสต์สั้นๆแต่จุกอก หลัง นานา ถูกบุกจับคาบ้าน
เชาว์ บี้ สภาทนายความ เปิดชื่อทนายอินฟลูถูกลบชื่อ พักใบอนุญาต ชี้ ลงดาบแล้วปิดชื่อ ไม่ช่วยกู้ศรัทธา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี